บท
ตั้งค่า

บทที่ 32

หากเป็นผู้หญิงทั่วไปเขาคงเลือกกุหลาบช่อใหญ่สักช่อ แต่ภัควรินทร์คือคนสำคัญที่เขาปล่อยให้เธอรอนานเกือบห้าปี และระหว่างนั้นเธอคงเจ็บใจไม่น้อย ทั้งเรื่องที่เข้าใจว่าตัวเองถูกทอดทิ้งและอีกหลายครั้งที่เขาทำให้เธอต้องทุกข์ใจในภายหลัง การขอโทษอย่างขอไปทีย่อมไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ สุดท้ายจึงเดินออกมามือเปล่า สร้างความแปลกใจให้กับคนสนิทที่รอส่งเขากลับบ้านอยู่ไม่น้อย

เขารู้ว่ามีบางอย่างที่ดีกว่าดอกไม้…

พอถึงบ้านธีรักษ์ก็รีบตรงไปหาเธอที่ห้องครัว ภัควรินทร์มีตารางที่แน่นอน สองทุ่มหลังจากอาบน้ำเรียบร้อย เธอมักนั่งคอยอุ่นนมให้กับเขา หรือไม่ก็จัดเตรียมเอกสารที่ต้องตรวจสอบในวันพรุ่งนี้เช้า ทว่าวันนี้เธอไม่ได้อยู่ในห้องครัว ในห้องทำงานก็ไร้ร่องรอย

ธีรักษ์คิดว่าเธอออกไปข้างนอกจึงอาบน้ำรออย่างใจเย็น แต่ทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา ส่งข้อความไปก็ไม่ยอมอ่าน เขาจึงไปห้องนอนเผื่อว่าเธอจะอยู่ที่นั่น พอสัมผัสได้ถึงไอเย็นของเครื่องปรับอากาศ เขาก็รู้ทันทีว่าภัควรินทร์ไม่ได้ไปไหนไกล

“น้ำหวาน คุณนอนแล้วเหรอ ไม่สบายหรือเปล่า”

เสียงอู้อี้ตอบกลับมาทำให้รู้ได้ทันทีว่าคนสวยของธีรักษ์กำลังสะอื้นเบา ๆ เดาว่าสาเหตุคงมาจากข่าวความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนางแบบสาวที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้

“คุณธารกลับมาแล้วเหรอคะ”

เธอเปิดประตูทักทาย ยิ้มหวานทั้ง ๆ ที่ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ พอมองนาฬิกาบนฝาผนังที่บอกเวลาเกือบสามทุ่ม สติที่หลุดหายไปก่อนหน้าก็กลับคืนมา

“ตายแล้ว! น้ำหวานเผลองีบนานเลย คุณจะรับนมอุ่น ๆ ก่อนนอนไหมคะ น้ำหวานจะได้เตรียมให้” ภัควรินทร์ผลุนผลันจะออกจากห้องนอน แต่คนตรงหน้ากลับยกแขนกันไว้ ก่อนพูดประโยคที่ทำให้เธออยากกรีดร้องออกมาดัง ๆ

“ไม่รับอะไรทั้งนั้น ผมอยากรู้แค่อย่างเดียวว่าทำไมคุณถึงร้องไห้ เพราะข่าวของผมหรือเปล่า”

“ทำไมน้ำหวานต้องร้องไห้ให้กับข่าวดีของคุณด้วยคะ คุณจะคบใครมันก็เป็นสิทธิ์ของคุณอยู่แล้วนี่นา” เธอไม่คิดว่าเขาจะถามตรงประเด็นจึงเผลอกระชากเสียงตอบ แต่พอเห็นเขานิ่วหน้าคล้ายถูกอาการปวดศีรษะเล่นงานเช่นทุกครั้งที่เจอเสียงดัง เธอจึงรีบปรับอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติเพราะกลัวว่าเขาจะไม่สบายถึงขั้นคลื่นไส้อาเจียนอีก

“คุณไปพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวน้ำหวานเก็บครัวแป๊บนึงแล้วจะรีบเอานมไปให้”

หญิงสาวย่อตัวลอดผ่านแขนคนที่ขวางทางอยู่ แต่เขากลับดันเธอเข้าห้องและปิดประตู ร้ายกว่านั้นคือถอนหายใจเสียยืดยาวราวกับเธอคือตัวปัญหา ทั้ง ๆ ที่ตัวเองพูดว่าเสร็จธุระแล้วจะรีบกลับ แต่ดันไปโผล่ที่ห้างใจกลางเมือง แถมประกาศว่าตัวเองโสดสนิทด้วยอีกต่างหาก

ตอนแรกภัควรินทร์ยอมรับว่าสบายใจขึ้นมากเมื่อได้ยินเขาให้สัมภาษณ์ว่าเคยเจอกันกับนางแบบคนนั้นแค่ครั้งเดียว แถมเป็นเรื่องงานอีกต่างหาก เธอสบายใจจนกระทั่งเขาบอกว่าโสดนั่นแหละ

‘ถ้าเห็นเราสำคัญจริง ๆ อย่างน้อยก็ต้องบอกว่ามีคนคุยแล้วสิ…’

ความน้อยใจทำให้เธอไม่อยากเห็นใบหน้าหล่อเหลาของธีรักษ์ ไม่สนใจที่เขายืนขวางทาง รีบเดินเบียดเพื่อที่จะได้ออกจากห้องนอน หากเขาอยากอยู่ที่นี่ก็ตามใจ เธอจะออกไปนอนโซฟาข้างนอกเอง

“จะไปไหน…” เขาเอ่ยเสียงทุ้ม ดึงตัวเธอเบา ๆ ไม่ยอมให้ออกจากห้องจนกว่าจะได้ปรับความเข้าใจกัน “มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”

“น้ำหวานไม่มีอะไรจะพูด”

“แต่ผมมีเรื่องอยากคุยกับหนู…”

คำว่าหนูที่เขาเรียกทำให้ความเสียใจถาโถมเข้าใส่หัวใจของภัควรินทร์ เสียใจที่วันนี้ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้เพราะผู้ชาย แต่จะโทษใครได้นอกจากโทษความอ่อนแอของตัวเอง แค่เขาพูดดีด้วยก็ใจอ่อน ลืมเรื่องที่เจ็บแค้นมาตลอดห้าปี ยิ่งเขาอ้างว่าประสบอุบัติเหตุจนกลับมาหาไม่ได้ เธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ ทำราวกับว่าไม่เคยทรมานทางอารมณ์เพราะเขาเลยแม้แต่น้อย

ใจง่ายแบบแก้ตัวไม่ได้เลยแหละ!

“งั้นมีอะไรก็รีบพูดมาเถอะค่ะ น้ำหวานง่วงแล้ว”

ในเมื่อเธอคือลูกหนี้กึ่งทาส ไร้สิทธิ์ไร้เสียง ปฏิเสธได้ไม่เต็มปาก การแกล้งง่วงจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด นึกไม่ถึงว่า…

“ผมมาทวงหนี้…”

“น้ำหวานไม่มีเงินให้คุณหรอกค่ะ ไว้คุยต่อพรุ่งนี้นะคะ น้ำหวานปวดหัว อยากนอน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel