บทที่ 20
“ผมค่อนข้างปวดหัวง่ายน่ะ เลยจดจ่อกับอะไรนาน ๆ ไม่ได้ ยิ่งใช้สายตาร่วมด้วยยิ่งแย่ไปกันใหญ่”
“น้าไกรบอกน้ำหวานแล้วละค่ะว่าคุณเป็นไมเกรนรุนแรง แล้วก็ไม่ชอบแสงจ้า จ้องอะไรนาน ๆ ไม่ได้ วันนั้นที่คุณทิ้งน้ำหวานไว้ที่สวน น้ำหวานเลยไม่กล้าโกรธ เอ่อ คุณธารอย่าโกรธน้าไกรที่บอกน้ำหวานนะคะ”
“ไม่โกรธหรอก น้าไกรหวังดีกับผมเสมอแหละ อีกอย่างตั้งแต่ได้เจอคุณอีกครั้งอาการผมก็ดีขึ้นมาก หลายวันมานี้แทบไม่ปวดหัว ไม่รู้สึกหงุดหงิดเวลาเจอแสงจ้า ๆ แล้วละ”
ธีรักษ์ยิ้มให้กับคนสวยของเขา ดวงตาจับจ้องดวงหน้าหวานซับสีแดงระเรื่อ เผยความรู้สึกอย่างไม่ปิดบัง ภัควรินทร์ที่ถูกมองด้วยสายตาแบบนั้นมีหรือจะทนได้ รีบเสมองไปทางอื่น พลางลูบต้นแขนตัวเองเบา ๆ
บ้าจริง…หัวใจมันหวิว ๆ จนขนลุกไปหมดแล้ว
“หนาวเหรอ…น้ำหวาน”
“นิดหน่อยค่ะ เราเข้าไปในโซนที่เขาประมูลงานกันดีกว่านะคะ อีกสิบห้านาทีก็จะเริ่มแล้ว หรือว่าคุณธารอยากดื่มอะไร น้ำหวานจะได้หาให้”
“น้ำเปล่าก็พอ”
ธีรักษ์ยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินเธอพึมพำว่าไม่อยากเชื่อว่าเขาจะเลิกดื่มแอลกอฮอล์แล้วจริง ๆ แต่ยังไม่ทันได้เรียกบริกร เขาก็จับมือเธอมาคล้องแขน โดยไม่สนแสงแฟลชที่รัวกระหน่ำ ช้าหรือเร็วเขาก็ต้องเปิดตัวว่าต้องการให้ภัควรินทร์อยู่เคียงข้าง รวบรัดจัดการเสียตั้งแต่ตอนนี้จะเป็นไรไป
“คุณยังไม่ตอบผมเลยว่าชอบรูปไหนบ้าง”
“น้ำหวาน…น้ำหวานชอบรูปทะเลกับรูปภูเขาค่ะ คุณธารเลือกต่อเองแล้วกันนะคะ” เธอประหม่าจนพูดไม่ออก
“ไม่เป็นไร ยังพอมีเวลาคิดว่าชอบแบบไหน หรือว่าอยากจะไปรำลึกความหลังกันที่ไหน”
ธีรักษ์โอบเอวเธอเข้ามาใกล้ก่อนวางมือบนสะโพกสวย แสดงความเป็นเจ้าของอย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน แต่พอเธอสะดุ้งเบา ๆ และขอให้ปล่อยก็ยอมตามใจ คิดแค่ว่าหากถึงบ้านเมื่อไหร่ค่อยรุกหนัก ทำตามความต้องการส่วนลึกของหัวใจให้สมกับที่พลาดมานาน
“คุณธารคะ ภาพที่คุณธารอยากได้มาแล้วค่ะ”
ภัควรินทร์ที่นั่งตัวเกร็งรีบรายงาน ถึงเก้าอี้ที่จัดไว้จะนุ่มมากแค่ไหน ทว่าบั้นท้ายที่ถูกฟาดมาเน้น ๆ เกือบยี่สิบครั้งก็ยังปวดแสบแสนสาหัสอยู่ดี
“สรุปว่าอยากได้ทะเลหรือภูเขา?”
“ภาพไหนก็ได้ค่ะ”
ภัควรินทร์ฉีกยิ้มกว้าง ทว่าธีรักษ์รู้ดีว่าเธอไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะยิ้ม แต่เขายังไม่ทันได้ถามว่าเพราะอะไรก็ถูกเร่งให้ยกป้ายขึ้นประมูล เพื่อที่จะได้ในสิ่งที่เขาต้องการและเธอเองก็ชื่นชอบด้วยเช่นกัน
“สามแสน!” ธีรักษ์บอกตัวเลขก่อนล้วงกระเป๋าเสื้อเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือ ข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้เขาร้อนใจจนไม่สามารถตั้งสมาธิกับการประมูลได้
“คุณธารคะ?”
“สี่แสน!” ธีรักษ์ตะโกนเสียงดัง เมื่อตระหนักได้ว่าเกือบพลาดท่าให้กับผู้เข้าร่วมการประมูลอีกราย เขาจึงตัดสินใจมอบหมายหน้าที่สำคัญให้กับภัควรินทร์แทน “น้ำหวานประมูลแทนผมนะ พอดีมีธุระด่วนเข้ามา”
“แต่น้ำหวาน…” สีหน้าจริงจังของเขาทำให้ภัควรินทร์ไม่กล้าขัด รีบรับป้ายประมูลมาอย่างไม่มั่นใจนัก
“งบเท่าไหร่คะ น้ำหวานจะได้รู้ว่าควรหยุดตอนไหน”
“หยุดตอนที่ไม่มีใครประมูลแล้ว” ธีรักษ์บีบมือเล็กของเธอเบา ๆ และเดินออกจากงานทันที
ไกรวิทย์ยืนรออย่างกระวนกระวายอยู่ตรงทางเข้างาน พอเห็นเจ้านายเดินออกมาก็พยักพเยิดให้ไปคุยกันในมุมลับตา เพราะข้อมูลที่เขาได้มาอาจทำให้คนฟังอารมณ์เสียจนถึงขั้นควบคุมสีหน้าลำบาก หากสื่อจับภาพได้คงส่งผลในทางลบต่ออัครจินดานนท์
“ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุเลยไม่ได้ตามสืบให้แน่ชัด แต่จากที่คุยกับเพื่อน ๆ ผมว่าเราน่าจะเจอมืออาชีพแล้วละครับคุณธาร”
ไกรวิทย์ใช้เส้นสายที่มีอยู่ตามหาตัวคนร้าย แต่ทางนั้นจัดการทุกอย่างได้อย่างครอบคลุม เอกสารที่เกี่ยวข้องกับรถซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญนั้นหายสาบสูญ ส่วนช่างที่ดูแลซ่อมรถก่อนขายทิ้งนั้นลาออกจากงานนานแล้ว
“ช่วงนั้นคุณธารเปลี่ยนอะไรในบริษัทหลายอย่าง อาจมีขัดขาหรือขัดใจคนไปบ้าง แต่ก็ไม่น่าเล่นแรงถึงขั้นเอาชีวิตกัน ผมเลยลองมานั่งคิดดูว่าก่อนหน้านั้นมีเหตุการณ์อะไรแปลก ๆ หรือเปล่า เลยนึกได้ว่าวันที่คุณธารคัดนางแบบ คุณแทนเล่าให้ฟังว่ามีคนมาอาละวาด กล่าวหาว่าคุณธารมีความสัมพันธ์กับแฟนนางแบบของเขา ผมเลยเดาว่าการลอบทำร้ายอาจมีสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว หรืออย่างน้อยก็เข้าใจผิดกันในเรื่องนั้น”
