บท
ตั้งค่า

บทที่ 19

หลายปีก่อนธีรักษ์ได้ชื่อว่าเป็นผู้ชายที่สุขุมและเยือกเย็นมากคนหนึ่ง ทว่าอาการป่วยหลังจากประสบอุบัติเหตุทำให้นิสัยของเขาเปลี่ยนไป จากที่ใจเย็นก็กลายเป็นใจร้อน หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย แม้จะพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองอย่างมากแล้ว แต่หลายครั้งก็ทำได้ไม่ดีนัก

“ว่ายังไง! คุณจะขอโทษน้ำหวานดี ๆ หรือว่าจะให้ผมไปเคลียร์กับคุณพ่อคุณแม่ของคุณอีก แต่ผมบอกเลยนะว่าคราวนี้ค่าเสียหายไม่ถูกอย่างครั้งก่อนแน่”

“แต่พลอยไม่ได้ทำอะไรนะคะ พลอยแค่คุยกับเพื่อน…”

“พอเถอะคุณ อย่ามาแก้ตัวให้ผมหมดความอดทนไปมากกว่านี้เลย…” ธีรักษ์สัมผัสได้ว่าแขนของตนถูกรั้งไว้อย่างนุ่มนวล เสียงทักท้วงที่ดังขึ้นทำให้ความเกรี้ยวกราดของเขาลดลงอย่างน่าอัศจรรย์

“ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะคุณธาร เราเข้าไปดูสินค้าที่เปิดประมูลกันก่อนดีไหมคะ น้ำหวานได้ยินว่ามีภาพถ่ายสวย ๆ เยอะแยะเลย”

ภัควรินทร์เปลี่ยนเรื่องด้วยน้ำเสียงน่าฟัง อ่อนหวานออดอ้อนคนที่กำลังเดือดดาลในแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ขณะเดียวกันก็พยายามไม่มองหน้าตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาโกรธเพราะกลัวว่าตัวเองจะหลุดพูดจาแย่ ๆ จนถูกตามตัวกลับบ้านไปลงโทษอีก

“นะคะ คุณธาร…” เธอย้ำอีกครั้งและเมื่อเห็นว่าธีรักษ์ยังไม่ยอมขยับตัว จึงกระซิบข้อเสนอเด็ดที่ทำให้เขาถึงกับลากเธอเข้าไปในงานทันที

“พูดเล่นไม่ได้นะน้ำหวาน” เขาหมายถึงเรื่องที่เธอยื่นข้อเสนอว่าจะยอมเป็นตุ๊กตาให้นอนกอดเป็นเวลาหนึ่งคืน

“ไม่ได้พูดเล่นค่ะ แต่แค่คืนเดียวนะคะ…เราไปดูภาพตรงนั้นกันไหมคะ น้ำหวานจำได้ว่าคุณชอบศิลปินท่านนั้นมาก”

ภัควรินทร์ดึงมือใหญ่ออกอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะไม่อยากคิดถึงข้อเสนอน่าอายที่เพิ่งพูดออกไป อีกอย่างคือกลัวแขกในงานจะมองไม่ดี หากเธอใกล้ชิดหรือทำตัวสนิทสนมกับเขามากเกินกว่าคำว่าเจ้านายกับลูกน้อง

ไม่รู้ว่าเขามาทันได้ยินเรื่องที่พลอยแสงพูดก่อนหน้านี้หรือเปล่า แต่หากได้ยินก็คงรู้แล้วว่าเธอไม่ได้รับการยอมรับจากฐิติเมธานนท์ หรืออย่างน้อยก็คุณหญิงแจ่มจันทร์ มีเพียงลูกพี่ลูกน้องอย่างเจนิตาที่คอยช่วยเหลือตามโอกาส เช่นการให้ยืมชุดมาออกงานในวันนี้

“ไหนบอกว่ามาไม่ได้ไง?” ธีรักษ์ถาม ดวงตาสีเข้มจดจ้องบนภาพถ่ายของศิลปินท่านหนึ่งที่เขาชื่นชอบ นึกไม่ถึงว่าภัควรินทร์จะจำรายละเอียดเล็กน้อยนี้ได้

“เสร็จธุระพอดีน่ะค่ะ”

“แล้วทำไมถึงใส่ชุดโป๊แบบนี้ล่ะ ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบหรอกนะ แต่ผมแค่ไม่อยากให้ใครมองคุณนานเกินความจำเป็น” ธีรักษ์หวงลูกหนี้สาวสวยของเขาอย่างมาก นอกจากชมภาพถ่ายและภาพวาดแล้ว เขายังกวาดตามองคนที่จ้องจะกินเธอและพอเห็นประกายระยิบระยับในดวงตาเหล่านั้นก็จ้องเขม็งกลับ บางครั้งถึงขั้นโอบเอวของภัควรินทร์เพื่อให้คนเข้าใจว่าเธอไม่โสดแล้ว

“น้ำหวานคิดว่ากลับไปเอาชุดที่บ้านคุณคงไม่ทันแน่ ๆ เลยยืมชุดของพี่สาวมาใส่น่ะค่ะ” ภัควรินทร์อ่านสีหน้าเขาไม่ออก จึงคิดในแง่ร้ายว่าชุดที่ใส่มานั้นไม่เหมาะกับงาน แต่นี่คือชุดเดียวที่ไม่รัดบริเวณสะโพก เธอจึงไม่มีทางเลือกมากนัก

“ชุดนี้เรียบร้อยที่สุดแล้วจริง ๆ นะคะ น้ำหวานไม่ได้แต่งตัวมายั่วใครอย่างที่ยัยพลอยว่า…”

“เด็กคนนั้นว่าอะไรคุณบ้าง?” เขาละสายตาจากเธอ หันกลับไปมองผลงานของศิลปินตรงหน้าเพื่อควบคุมความรู้สึกหวงแหนที่ไต่ระดับขึ้นสูงจนน่าตกใจ

“คะ?”

“เด็กพลอยแสง พูดอะไรกับคุณบ้าง” เขาถามพลางเดินชมภาพถ่ายที่ถูกนำมาประมูล ตั้งสมาธิอยู่กับผลงานชั้นเยี่ยม อดกลั้นอารมณ์ตัวเองไว้ไม่ให้แสดงพฤติกรรมหื่นห่ามด้วยการลากตัวภัควรินทร์กลับบ้าน

เพื่อที่จะได้กอดและจูบเธอ…

“อ่อ คุณธารอย่าไปสนใจเลยค่ะ ที่ยัยพลอยเขาพูดก็เรื่องเดิม ๆ น้ำหวานไม่สะเทือนหรอก”

“แต่ผมสะเทือน ผมไม่อยากให้ใครพูดจาไม่ดีกับคนที่ผมแคร์ โดยเฉพาะถ้าคนคนนั้นคือผู้หญิงของผม”

“คุณธาร” เธอกะพริบตาปริบ ๆ ไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

“หนูเป็นของผมแล้ว ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะ” เขาหันมายิ้มให้กับเธอเพื่อไม่ให้บทสนทนาอึดอัดจนเกินไป “ผมไม่รู้ว่าควรเลือกภาพไหนดี หนู…น้ำหวานช่วยผมเลือกหน่อยสิ”

“น้ำหวานไม่มีความรู้เรื่องภาพเลยค่ะ เอ่อ น้ำหวานคงไม่กล้าตัดสินใจแทนคุณ” ภัควรินทร์พูดแล้วก็นึกอะไรได้บางอย่างจึงรีบถาม “น้ำหวานจำได้ว่าคุณธารชอบถ่ายภาพ แต่ทำไมไม่เห็นจับกล้องเลยล่ะคะ?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel