บท
ตั้งค่า

บทที่ 16

“ถ้าคิดเงินกันแบบนี้ผมก็คงต้องคิดดอกเบี้ยย้อนหลังด้วยเหมือนกัน” เขายิ้มกริ่มก่อนยักคิ้วข้างที่มีแผลเป็นขึ้นอย่างคนเจ้าชู้ “ที่คุณทิ้งให้ผมนอนอารมณ์ค้างอยู่ที่โรงแรมตอนนู้น…ควรคิดค่าเสียหายเท่าไหร่ดีนะ”

“คุณธาร!”

“ไม่เอาน่า อย่าเสียงดังแบบนี้สิ คุณก็รู้ว่าผมไม่ชอบ”

เขากดหัวคิ้วเบา ๆ ภัควรินทร์เห็นแล้วจึงรีบหุบปากฉับ เธอไม่รู้ว่าเขาป่วยเป็นโรคอะไร แต่เท่าที่อยู่ด้วยกันมาเกือบเดือน ธีรักษ์ไม่ชอบแสงจ้าหรือเสียงดัง ถึงพักหลังเขาไม่ค่อยมีอาการพวกนั้นแล้ว แต่เธอก็ควรระวังให้มากอยู่ดี

“น้ำหวานขอโทษค่ะ ทีหลังน้ำหวานจะไม่เสียงดังแล้ว”

ภัควรินทร์ขอโทษเสียงแผ่ว แต่พอเห็นกล้องถ่ายรูปราคาแพงที่วางอยู่ไม่ไกลก็ตาลุกวาว ตื่นเต้นเสียงดังเสียยิ่งกว่าเดิม “คุณธารกลับมาถ่ายรูปแล้วเหรอคะ!”

“เอาออกมาทำความสะอาดน่ะ กะว่าจะลองถ่ายเล่น”

“รับสมัครนางแบบไหมคะ น้ำหวานยอมเป็นแบบให้ฟรีเลย น้ำหวานอยากมีภาพสวย ๆ กับเขาบ้าง”

เธอกอดแขนแข็งแกร่งประจบประแจง เช่นเดียวกับที่เคยทำกับผู้ใหญ่ในบ้าน แต่ผู้ใหญ่ใจดีท่านนั้นไม่อยู่แล้ว เหลือเพียงผู้ใหญ่ที่ชิงชังเธอ ปฏิบัติต่อเธอราวกับไม่ใช่ลูกหลานที่ใช้นามสกุลเดียวกัน

“วันไหนมีอารมณ์อยากถ่ายค่อยว่ากันอีกที”

ธีรักษ์โกหกหน้าตาย เขากลับมาถ่ายภาพได้สักพักแล้ว ทว่าจงใจไม่ให้นางแบบจำเป็นรู้ตัวเพราะต้องการภาพที่เป็นธรรมชาติอย่างที่สุด และยิ่งแอบถ่ายเขาก็ยิ่งถลำลึก รอยยิ้มของเธอ เสียงหัวเราะของเธอ สะกดหัวใจเขาไว้ ไม่เหลือพื้นที่ว่างสำหรับใครอื่นอีก

“พูดแล้วนะคะ ห้ามเปลี่ยนใจเด็ดขาด”

“อืม ไม่เปลี่ยนใจ ว่าแต่คุณได้ชุดออกงานแล้วหรือยัง”

“น้าไกรเอามาให้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ” ภัควรินทร์ต้องออกงานกับเขาในฐานะผู้ช่วยส่วนตัว เสื้อผ้าหน้าผมจึงต้องสวยพร้อมเพื่อไม่ให้ทายาทอันดับหนึ่งของตระกูลอัครจินดานนท์ต้องอับอายใคร

“ไปใส่ให้ดูหน่อย อยากรู้ว่าโป๊ไปหรือเปล่าน่ะ”

“ไม่โป๊หรอกค่ะ น้ำหวานลองตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เอ่อ คุณธารคะ คือว่าน้ำหวานมีธุระกับที่บ้านน่ะค่ะ น้ำหวานขออนุญาตกลับไปเยี่ยมครอบครัวได้ไหมคะ”

“ได้สิ เดี๋ยวผมให้น้าไกรไปส่งแล้วคอยรับกลับด้วยเลย คุณจะได้ไม่ต้องลำบากนั่งแท็กซี่” ธีรักษ์สรุปเองเสร็จสรรพ

“น้ำหวานคงต้องค้างที่บ้านด้วย…”

ภัควรินทร์ไม่ได้อยากกลับไปที่บ้านหลังนั้น นับตั้งแต่คุณปู่จากไปเธอก็ไร้ที่พึ่งพา ผู้ปกครองอย่างคุณย่าแจ่มจันทร์ก็เอาแต่จ้องจับผิด ราวกับคาดหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะก่อเรื่องจนถึงขั้นถูกตัดออกจากกองมรดกและไล่ออกจากบ้าน…บ้านที่เธอไม่อยากอยู่เลยแม้แต่วินาทีเดียว

“แต่วันพรุ่งนี้เราต้องไปงานการกุศลด้วยกัน”

“น้ำหวานเสร็จธุระแล้วจะรีบกลับมาแต่เช้าเลยค่ะ สัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้คุณธารไปงานคนเดียวแน่นอน”

เธอฉีกยิ้มกว้างประจบ ทว่าเป็นรอยยิ้มที่ธีรักษ์ไม่ชอบ มันไม่ได้ออกมาจากใจ ไม่ต่างจากวันที่เธอมาแคสต์งาน…วันที่เขาพบเธอครั้งแรก แตะต้องร่างกายอันงดงามเป็นครั้งแรก

ใช่แล้ว…ธีรักษ์จำเรื่องทุกอย่างได้ทั้งหมดในวันที่เกือบจะปล่อยตัวลึกซึ้งกับภัควรินทร์

เขาจำได้ด้วยว่าหญิงสาวเป็นเด็กที่ขาดความรัก บิดามารดาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตอนเธออายุได้เพียงสิบสองปี จึงต้องย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ และดูเหมือนจะเข้ากันกับผู้ปกครองได้ไม่ดีนัก

“ตามใจ แต่ถ้าไม่สบายใจหรือมีปัญหากับที่บ้านก็โทรมานะ ผมจะให้น้าไกรไปรับคุณทันที”

ชายหนุ่มหัวใจเต้นแรงเมื่อรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าสวยหวานนั่นอีกครั้ง คราวนี้เป็นยิ้มที่มาจากใจ ยิ้มที่ทำให้เขาไม่อาจปล่อยมือจากเธอ

ห้าปีที่หายไปนั้นเอากลับคืนมาไม่ได้ แต่เขาสัญญากับตัวเองว่าจะชดเชยให้กับภัควรินทร์ มอบความสุขและความอบอุ่นให้สมกับที่ได้กลับมาสานสัมพันธ์กันอีกครั้ง

ส่วนคนที่ทำให้เธอรอก็ต้องชดใช้ด้วยเช่นกัน…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel