บทที่ 21 หมาหวงก้าง2
“คุณเขมทางนี้ครับ” ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาคล้ายคุณชายยกมือร้องเรียกเขมิกาด้วยเสียงไม่ดังไม่เบา ใบหน้าหล่อนั้นยิ้มพรายระคนยินดีที่ได้เจอหญิงสาวอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะคุณวี มานานหรือยังคะ ขอโทษนะคะที่ต้องให้รอ”
“ฮ่าฮ่า ไม่นานครับ ผมเพิ่งมาถึงเมื่อครู่นี้เอง อีกอย่างตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลานัดหมายด้วย”
“ถึงงั้นก็เถอะค่ะ ขอโทษนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าคุณเขมรู้สึกผิดจริง ๆ เลี้ยงข้าวผมสักมื้อก็ได้ครับ”
“ตกลงค่ะ เดี๋ยวมื้อเที่ยงนี้เขมเลี้ยงคุณวีเอง”
ทิวากรมองชายหนุ่มและหญิงสาวโต้ตอบกันด้วยรอยยิ้มด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ ไม่พอใจที่หญิงสาวยิ้มให้ชายอื่น ไม่ชอบที่คนอื่นมองเธอด้วยสายตาพออกพอใจแบบนั้น
เห็นแล้วหัวมันร้อน ทั้งยังรู้สึกร้อนรุ่มในอกอย่างไรก็ไม่รู้
“สวัสดีครับ ผมทิวากรเรียกผมว่าทิวก็ได้ครับ ขอโทษนะครับที่เสียมารยาทมาโดยไม่บอก วันนี้ผมจะเป็นคนอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับบ้านโครงการให้คุณวีฟังเองครับ” เพราะไม่อยากเห็นสองคนยิ้มหรือพูดคุยกันนานกว่านี้ชายหนุ่มจึงต้องเสียมารยาทเอ่ยแทรกขึ้นแนะนำตัวเอง ปฏิบัติการทำตัวเป็นก้างขวางคอจึงเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนนี้
วีรภาพมองชายหนุ่มใบหน้าคมสันแสนหล่อเหลาพลางพิจารณา ไม่นานก็ร้องอ๋อ “ที่แท้คุณทิวทายาทศิวานันท์นี่เอง ผมวีรภาพนะครับ เรียกผมวีก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ มาเถอะครับนั่งก่อน ดื่มน้ำกินขนมสักหน่อยเราค่อยพูดคุยรายละเอียดกัน” ชายหนุ่มเชื้อเชิญให้วีรภาพนั่งทั้งที่ตัวเองมาทีหลัง
วีรภาพรู้สึกแปลก ๆ มองคนสวยหน้าหวานที่ตัวเองรู้สึกสนใจก็เห็นเธอยิ้มแห้งหน้าเจื่อนนิด ๆ
อา... รู้สึกเหมือนมีแมวมาเฝ้าปลาย่างเลยแฮะ ชายหนุ่มคิด แต่ก็นั่งลงอย่างยินดี ไม่วายสั่งขนมมาให้หญิงสาวคนเดียวอย่างเอาใจใส่อีกด้วย
พฤติกรรมความเอาใจใส่นี้ช่างขัดตาทิวากรยิ่งนัก ชายหนุ่มเขม่นตามองผู้ชายอีกคนก่อนหันมามองเลขาตัวดีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาลุ่มลึก
เขมิกายิ้มขอบคุณก่อนนั่งเงียบ ๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร รู้สึกทำตัวไม่ถูก อึดอัดกับรังสีกดดันที่ทิวากรแผ่ออกมาจากตัวไปหมดแล้ว
คนบ้า! เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก อยากมาด้วยเองแท้ ๆ แต่มาแล้วกลับเสียมารยาทสร้างบรรยากาศกดดันกันเสียนี่
เขมิกามองวีรภาพอย่างลุแก่โทษด้วยใบหน้าถอดสี ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้ว่าอะไร หลังกินขนมดื่มน้ำดื่มท่าดับร้อนแล้วทั้งสามจึงคุยรายละเอียดกัน
จะบอกว่าทั้งสามก็ไม่ได้เพราะมีแต่ทิวากรที่คุยกับวีรภาพเท่านั้น ขนาดบางคำถามที่วีรภาพถามหญิงสาวโดยตรงเธอยังไม่มีโอกาสตอบเลย เพราะชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แย่งตอบเก็บเรียบหมดทุกคำถาม ก่อนจะพากันไปดูบ้านตัวอย่างของโครงการ
“เป็นไงครับ คุณวีมีข้อสงสัยตรงไหนอีกไหม เห็นบ้านตัวอย่างแล้วชอบหรือเปล่า” ทิวากรถามขึ้นหลังพาลูกค้าวีไอพีเดินชมบ้านตัวอย่างทุกซอกทุกมุม โดยมีเขมิกาเดินตามหลังคอยถือน้ำให้เขาอย่างเดียวเท่านั้น
“ชอบครับ แม้จะอยู่ใกล้ย่านการค้าไปหน่อย แต่การจัดสรรพื้นที่ตัวโครงการก็สงบและค่อนข้างร่มรื่นดี ห้างใหญ่ ๆ ก็อยู่ไม่ไกลด้วย ที่สำคัญการเดินทางค่อนข้างสะดวก ผมชอบมากเลยครับ” วีรภาพตอบตามจริง
บ้านโครงการของศิวานันท์ที่จัดขึ้นและกำลังก่อสร้างครั้งนี้ถือว่าได้ทำเลทองเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะอยู่ใกล้ย่านการค้า และการเดินทางสะดวกสบายแล้ว การจัดสรรพื้นที่ตัวอย่างของบ้านโครงการก็สงบเรียบร้อย ดูร่มรื่นน่าอยู่ ทั้งส่วนกลางที่กำลังปรับปรุงก็ให้ความรู้สึกสดชื่น คิดว่าถ้าเสร็จเรียบร้อยคงสวยกว่านี้มาก
บรรยากาศในบ้านตัวอย่างดีมาก ถึงจะอยู่ในเมืองไปหน่อย แต่เท่าที่เขาฟังและดูรายละเอียดจากทิวากร คาดว่าศิวานันท์คงใช้งบประมาณไปไม่น้อย ที่จะรังสรรให้พื้นที่นี้ใกล้เคียงกับธรรมชาติ ให้อารมณ์อยู่แล้วผ่อนคลาย เหมือนตอนที่เราไปเที่ยวและพักต่างจังหวัดเป็นแน่
เรียกว่าเอาใจสายธรรมชาติก็ได้ ดูจากต้นไม้ใหญ่หลายต้นที่กำลังลงดิน และสวนสาธารณะของส่วนกลางก็รู้แล้ว นี่ขนาดเพิ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างไปได้ไม่เท่าไรนะ ไม่รู้ว่าสร้างเสร็จจะสวยและน่าอยู่ขนาดไหน ถ้าตอนนั้นมาถึงเกรงว่าราคาคงดีดตัวสูงกว่านี้ ดังนั้นเขาจับจองซื้อไว้ก่อนดีกว่า ต่อให้ไม่ได้เข้าอยู่แต่ก็ขายได้ ภายหน้าต้องทำกำไรได้มากแน่ นักธุรกิจย่อมคิดอย่างนักธุรกิจ
“ตกลงครับ ผมขอจองบ้านโครงการของศิวานันท์สองหลังเลย ทำเรื่องเซ็นสัญญาจับจองเลยได้ไหมครับ” คิดแล้วก็ไม่รอช้าตกลงทันที
“ว่าไง เตรียมเอกสารสัญญามาพร้อมเลยหรือเปล่า” ทิวากรหันไปถามหญิงสาว พอเห็นเหงื่อออกที่ขมับน้อยก็เช็ดออกให้อย่างคนใจดี? โดยไม่สนใจสายตาวีรภาพที่มองมาสักนิด
“ตะ เตรียมมาค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงตะกุกตะกักรู้สึกร้อนฉ่าที่ใบหน้า แก้มขาวจากที่แดงระเรื่อเพราะแดดตอนนี้พลันแดงไปทั้งใบหูเล็ก ไม่รู้ว่าแดดมันร้อนหรือเพราะการแสดงออกว่าห่วงใยของคนตัวโตกันแน่ เขมิกาก้มหน้าหลบดวงตาคู่คมด้วยเก้อเขิน
“งั้นก็ดีครับ เรากลับไปทำสัญญาที่ร้านอาหารได้หรือเปล่า คุณเขมยังติดเลี้ยงข้าวผมอยู่นะ” วีรภาพว่ายิ้ม ๆ แม้จะคาดเดาความสัมพันธ์หนุ่มสาวตรงหน้าได้เลา ๆ หากไม่ได้ยินจากปากเขมิกาเสียเองว่ามีคนรัก เขาก็พร้อมสู้ไม่ถอย
“ได้ค่ะ เราไปกันเลยไหมคะ”
“ไปสิครับ”
ทิวากรเดินนำไปที่รถเมื่อทุกคนขึ้นรถพร้อมแล้วก็ขับออกไปทันที จวบจนรับประทานอาหารกลางวันและเซ็นสัญญาร่วมกันเสร็จ ชายหนุ่มถึงพาหญิงสาวกลับบริษัท
เขมิกามองคนหน้านิ่วคิ้วขมวดที่เดินหายเข้าไปในห้องอย่างไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้ยังดี ๆ อยู่เลย ตอนนี้ผีเข้าอีกแล้วเหรอ เฮ้อ เหนื่อยใจจริง ๆ
คนที่ถูกกล่าวหาว่าผีเข้าผีออกตอนนี้กำลังคิดหนักด้วยอาการหัวร้อนอยากเอาเลือดหัวคนออกจะแย่อยู่แล้ว! ชายหนุ่มคิดถึงคำพูดของวีรภาพก่อนจากมาอย่างคนที่สลัดออกไปจากความคิดไม่ได้
‘คุณเขมมีคนรักหรือยังครับ’
‘ยังค่ะ เขมโสด’
‘งั้นก็ดีเลยครับ’
‘ดียังไงคะ?’ วีรภาพไม่ตอบแต่มองทิวากรด้วยสายตาท้าทาย ยิ้มรู้ทัน ซ้ำก่อนจากยังกระซิบบอกเขาอีกว่า
‘ในเมื่อคุณเขมบอกว่ายังโสดนั่นหมายความว่าผมยังมีหวัง ดังนั้นผมไม่ยอมแพ้คุณทิวหรอกนะครับ พอดีว่าเวลาผมสนใจอะไรหรือใครแล้ว ถ้ามันยังไม่มีเจ้าของผมก็พร้อมสู้จนหมดตัวเหมือนกัน หวังว่าคุณทิวจะเข้าใจ และไม่กีดกันผมกับคุณเขม ทำตัวเป็นหมาหวงก้างแบบวันนี้อีกนะครับ’
หวนคิดถึงคำพูดของไอ้คุณชายผู้ดีมากเท่าไรใบหน้าของทิวากรพลันเขียวคล้ำขึ้นเท่านั้น
เหอะ กล้าพูดว่าไม่ยอมแพ้ ขนาดเขาแสดงออกปานนั้นว่าเป็นเจ้าของเธอ ไอ้ทายาทผู้ดีนี่ก็ยังไม่ยอมถอยอีก
แล้วใครทำตัวเป็นหมาหวงก้าง? เขาก็แค่หวงของเล่นของตัวเองที่ยังไม่เบื่อเท่านั้น เขมิกายังติดหนี้เขาอยู่ หนี้รักนี้เธอยังชดใช้คืนเขาไม่หมด ดังนั้นเธอไม่มีสิทธิ์ไปคุยกับใคร การที่เขาจะหวงก็ไม่แปลกไม่ใช่เหรอ?
ยิ่งคิดหัวก็ยิ่งร้อน หัวใจเหมือนถูกแผดเผาจากไฟที่มองไม่เห็น ถึงจะมั่นใจว่าเขมิกาไม่ได้ชอบวีรภาพ แต่ลึก ๆ ก็อดหวาดกลัวไม่ได้ รูปหล่อโพรไฟล์ดีขนาดนั้นใครบ้างจะไม่หวั่นไหว
“บ้าเอ้ย! ฉันไม่ยอมให้เธอไปเป็นของใครแน่เขมิกา เธอเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น ถ้าฉันยังไม่ได้กิน และยังไม่เบื่อ เธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปเป็นของคนอื่น!”
ใช่ เธอไม่มีสิทธิ์ไปเป็นของคนอื่น เพราะเธอเป็นของเขา
ของเขาคนเดียวเท่านั้น!