บท
ตั้งค่า

บทที่ 20 หมาหวงก้าง1

“หนูเขม ลูกค้าที่ป้าให้หนูเขมไปจัดการเป็นยังไงบ้างจ๊ะ” คุณทิพย์ประภาถามขึ้น เนื่องจากหลายวันก่อนท่านมอบหมายหน้าที่ให้เขมิกาไปเสนอขายบ้านของโครงการบ้านจัดสรรที่กำลังสร้างขึ้นในพื้นที่แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

“ลูกค้าให้ความสนใจนะคะคุณป้า แต่ว่าวันนี้เขมต้องเอาแผนรายละเอียดของโครงการไปให้ลูกค้าดูอีกรอบค่ะ”

“อ้าว แล้วครั้งที่แล้วหนูเขมไม่ได้ให้ไว้เหรอคะ”

“ไม่ได้ให้ไว้ค่ะคุณป้า คุณวีเขาติดธุระก่อนแล้วนัดให้เขมไปคุยรายละเอียดใหม่อีกทีตอนสิบเอ็ดโมงเช้าของวันนี้ค่ะ”

“งั้นเหรอจ๊ะ”

“ค่ะคุณป้า”

“ตกลงจ้ะ ป้าฝากด้วยนะหนูเขม ถ้าคุณวีเขาตกลงเซ็นสัญญาจับจองไว้ หลังอื่น ๆ ในโครงการก็ไม่ต้องห่วงแล้วละว่าจะขายไม่ได้”

“ค่ะคุณป้า เขมจะทำให้เต็มที่ ไม่ทำให้คุณป้าผิดหวังแน่นอนค่ะ” เขมิการับคำหนักแน่น

วี หรือวีรภาพ ชายหนุ่มลูกหลานตระกูลผู้ดีเก่า หากทำให้เขาตกลงซื้อบ้านในโครงการได้ บ้านหลังอื่น ๆ ในโครงการบ้านจัดสรรที่กำลังก่อสร้างนี้ก็จะขายออกง่ายขึ้น

ความจริงโครงการดังกล่าวก็ได้รับการจับตามองจากบรรดาลูกท่านหลานเธออยู่แล้ว เพียงแต่การก่อสร้างเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น แม้ภาษีศิวานันท์จะดี แต่จะมีสักกี่คนที่ลงชื่อจับจองบ้านไว้ทั้งที่ยังไม่เห็นของจริง

ดังนั้นคุณทิพย์ประภาที่รู้ข่าวมาจากวงใน ว่าวีรภาพกำลังมองหาบ้านจัดสรร หรือบ้านโครงการอยู่ จึงมอบหมายงานให้เขมิกาติดต่อไปเพื่อนำเสนอบ้านในโครงการของตัวเองทันที

“ป้ารู้ว่าหนูเขมไม่ทำให้ป้าผิดหวังหรอกจ้ะ จริงสิ แล้วที่ไปคุยคราวก่อนคุณวีเขาสงสัยเรื่องอะไรอื่น ๆ บ้างไหม”

“ไม่นะคะคุณป้า อย่างที่เขมบอก วันนั้นเหมือนคุณวีจะมีธุระ ที่ปลีกตัวมาคุยกับเขมเพราะเรานัดเขาไว้ค่ะ เขาถึงยอมมาคุย แต่ก็แค่เผิน ๆ เท่านั้น ยังไม่พูดถึงรายละเอียดส่วนลึกเท่าไร คุณวีเลยนัดเขมไปคุยอีกครั้งวันนี้ค่ะ” เขมิกาหยุดไปพลางครุ่นคิดก่อนตอบ

“แต่เท่าที่เขมสังเกตก็ไม่เห็นว่าเขาจะสงสัยอะไรเป็นพิเศษนะคะ ออกจะสนใจบ้านโครงการรวมถึงบ้านตัวอย่างของเราด้วยซ้ำ ไม่แน่ว่าวันนี้เขมอาจต้องพาเขาไปดูบ้านตัวอย่างของเราก็ได้ค่ะ”

“งั้นก็ดีแล้วละ ดีที่บ้านตัวอย่างของเราสร้างเสร็จไปแล้ว ถ้าคุณวีเขาอยากไปดู หนูเขมก็พาเขาไปเลยนะลูก”

“ค่ะคุณป้า งั้นเขมขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”

“ไปเถอะจ้ะ”

คล้อยหลังเขมิกาคุณทิพย์ประภาก็หันหน้ามามองลูกชายที่นั่งทำหน้าไม่สบอารมณ์แล้วถอนหายใจ

“หวงเขายังไม่รู้ตัวอีก”

“ผมไม่ได้หวงครับแม่”

“ถ้าไม่หวงงั้นวันนี้ก็ห้ามตามไปแอบดูหนูเขมกับคุณวีอีก”

“คุณแม่ครับ!”

“แม่รู้นะว่าคราวก่อนลูกแอบตามหนูเขมไปน่ะตาทิว แล้วก็รู้ด้วยว่าอาทิตย์ที่แล้วลูกแกล้งหนูเขมร้องไห้จนวิ่งออกจากบริษัทไปน่ะ ทำอะไรอย่าคิดว่าแม่ไม่รู้นะ”

ชายหนุ่มตีมึนไม่สนใจสายตาจับผิดของมารดา ก่อนทำท่าลุกแต่ถูกดักไว้ก่อน

“จะรีบไปไหน แม่ยังไม่ได้คุยงานกับเราเลยนะ”

“งาน? งานอะไรครับ”

“ก็งานที่เชียงรายไง เราเซ็นสัญญากับบริษัทคุณปฐพีพ่อของหนูปานวาดเขาไม่ใช่เหรอ นี่เขาถามแม่มาว่าทางเราจะไปควบคุมดูงานด้วยตัวเองไหม แม่ก็เลยมาถามลูกนี่ไง”

ทิวากรตอบเเบบไม่ต้องคิด “ไม่ไปครับ เราไม่ใช่เจ้าของโครงการ ให้ทางนั้นจัดการไปได้เลยครับ เอาไว้ให้ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ผมค่อยไปตรวจความเรียบร้อย”

“ได้จ้ะ เดี๋ยวแม่บอกคุณปฐพีให้ ว่าแต่ลูกกับหนูปานวาดนี่ยังไงกันแน่”

“มันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละครับคุณแม่ เธอเป็นลูกของหุ้นส่วนบริษัทเรา ทั้งยังร่วมมือโปรเจ็กต์ใหม่ด้วยกันอีก ผมก็ดูแลให้เกียรติเธอธรรมดา เหมือนคู่ค้าปกติทั่วไปแหละครับ ไม่มีอะไรในกอไผ่ทั้งนั้น”

คุณทิพย์ประภาพยักหน้ารับ มองบุตรชายด้วยสายตาแปร่งแปลก ชายหนุ่มหลบสายตาวูบกลัวมารดารู้ว่าเขาคิดใช้ปานวาดเป็นหมากทำร้ายเขมิกาแล้วจะถูกดุ ก่อนจะรีบขอตัวออกจากห้อง

“ถ้าคุณมีไม่มีอะไรจะคุยกับผมแล้ว ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” ไม่รอให้มารดาอนุญาตชายหนุ่มรีบชิ่งทันทีโดยมีมารดาส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจตามหลัง

“ชงกาแฟเข้ามาให้หน่อย”

“เขมชงไปวางให้บนโต๊ะแล้วค่ะเมื่อครู่”

“ขอของว่างด้วย”

“ขนมปังทาเนยปิ้งก็วางอยู่ข้างแก้วกาแฟค่ะ”

“ผลละ...”

“แอปเปิลปอกเปลือกและสับเป็นชิ้นวางคู่กันเรียบร้อยแล้วค่ะ คุณทิวมีอะไรจะใช้เขมอีกไหมคะ ถ้าไม่มีเขมจะได้รีบทำงาน เพราะอีกเดี๋ยวเขมต้องออกไปพบลูกค้า”

ทิวากรมองคนที่จ้องเขาตาใสแล้วรู้สึกขุ่นเคืองใจ เพิ่งจูบกันไปเมื่ออาทิตย์ก่อน เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง คงไม่ได้ไม่มีความรู้สึกไปแล้วหรอกนะ

“ว่าไงคะ คุณทิวมีอะไรจะใช้เขมอีกหรือเปล่า” เสียงใสของเขมิกาฉุดรั้งทิวากรออกจากความคิด ชายหนุ่มขมวดคิ้วมองเธออย่างไม่สบอารมณ์นัก ก่อนเดินจากไปด้วยท่าทางหัวเสียไม่น้อย ซึ่งหญิงสาวไม่ใส่ใจ เธอก้มหน้าทำงานของเธอต่อทั้งอย่างนั้น

ทิวากรเหลียวกลับมามองเลขาสาวครั้นเห็นเธอไม่มีท่าทีอาลัยอาวรณ์ตัวเองก็ยิ่งหงุดหงิด มือหนาผลักประตูห้องด้วยแรงอารมณ์ ก่อนกระแทกตัวนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ด้วยความหัวเสีย สองตามองแก้วกาแฟดำ ขนมปังปิ้ง และแอปเปิลที่เจ้าตัวนำมาวางไว้ให้อย่างนึกโมโห

นิ้วยาวหยิบขนมปังและแอปเปิลกัดกินตามแรงอารมณ์ เคี้ยว ๆ ๆ เหมือนว่าพวกมันเป็นเขมิกา พอได้ลิ้มรสความอร่อยและรสชาติที่คุ้นเคยของกาแฟก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด

“เหอะ ฉันกินเพราะเสียดายของหรอก ไม่ได้กินเพราะเธอ” พูดเสียงดังเหมือนอยากให้คนที่เอามาให้ได้ยิน แต่คงลืมไปว่าเขาอยู่คนเดียว...

ทว่าไม่นานจากความรู้สึกดีกลับกลายเป็นความหงุดหงิดเมื่อนึกได้ว่าหญิงสาวจะต้องไปเจอไอ้คุณวี วีรภาพนั่น เหอะ แค่มองตาก็รู้แล้วว่าไอ้บ้านั่นมันสนใจเธอ

บ้าเอ้ย! หงุดหงิดชะมัด!

ได้แต่สบถกับตัวเองในใจไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรไม่ให้คนทั้งสองได้เจอกัน ขัดขวางก็ไม่ได้ ในเมื่อมารดาเป็นคนมอบหมายงานให้เขมิกาเองกับมือ

คิ้วเข้มยิ่งนานยิ่งขมวดเข้าหากันเรื่อย ๆ จนรอยย่นระหว่างคิ้วติดกันไม่สามารถย่นเข้าหากันไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว ซึ่งชายหนุ่มก็ยังไม่รู้ตัว เขากลอกตาคิดเล็กน้อยพลันนั้นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นที่มุมปาก

หึหึ เรื่องอะไรจะให้เธอไปคนเดียว ในเมื่อคุณแม่จับผิดเขาเรื่องที่เขาตามไปแอบดูเธอ งั้น... เขาก็ไปกับเธอมันซะเลยให้หมดปัญหา

ความคิดดี!

“ทิวเอ้ยทิว นอกจากหล่อแล้วยังฉลาดอีกต่างหาก หึหึ เขมิกา ฉันไม่ยอมให้เธออยู่กับไอ้หน้าอ่อนนั่นสองต่อสองหรอก เหอะ เธออยู่ไหนฉันอยู่นั่น!” ชายหนุ่มประกาศกร้าวอย่างย่ามใจและมั่นหน้าเหลือทน

ตั้งใจเต็มเปี่ยมที่จะทำตัวเป็นหมาหวงก้าง เอ้ย ก้างขวางคอ

พอถึงเวลาที่หญิงสาวจะออกไปตามการนัดหมายของวีรภาพ ทิวากรก็พาตัวเองลงมาคอยหน้าบริษัท จวบจนหญิงสาวเดินออกมาและกำลังจะตรงไปที่รถ ชายหนุ่มก็ทำตัวพาลคว้าหมับเข้าที่แขนจับเธอยัดเข้ารถตัวเองทันที

“นี่! คุณทิวจะทำอะไรคะ เขมไม่มีเวลามาเล่นกับคุณทิวหรอกนะคะ เขมต้องรีบไป”

“แล้วใครว่าฉันเล่น”

“ไม่เล่นก็ปล่อยเขมลงรถสิคะ เขมจะรีบไปพบคุณวีก่อนที่มันจะสาย”

“เหอะ เรียกชื่อกันเสียสนิทใจเชียวนะ” คิ้วชายหนุ่มกระตุกยิก ๆ ไม่พอใจที่หญิงสาวเรียกชื่อชายอื่นเสียสนิทสนม “คาดเข็มขัดจะได้ไป ฉันจะไปกับเธอด้วย”

“นี่!”

“ช้า! ฉันคาดให้”

เขมิกาเกร็งตัวเมื่อเขาโถมกายเข้ามาคาดเข็ดขัดนิรภัยให้ ลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดใบหน้าตอนเขาดึงสายเข็มขัดทำให้ใบหน้าเธอเห่อร้อนขึ้นง่าย ๆ ไหนจะการใกล้ชิดคล้ายกับว่าเขากอดเธออยู่นั่นอีก

แต่ว่านี่มันจะนานไปหน่อยหรือไม่? คาดเสร็จแล้วทำไมไม่ผละตัวออกไปสักที!

“อะ ออกไปสักทีสิคะ”

“หึ” ทิวากรกระตุกยิ้มชอบใจที่ทำให้เขมิกากระอักกระอ่วนใจได้ แก้มที่มีเลือดฝาดขึ้นแบบนั้นเพราะเขานี่มัน... รู้สึกดีจนมีความสุขจริง ๆ

“นั่งดี ๆ ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้น ฉันไม่พาเธอไปตายหรอก แต่ถ้าขึ้นสวรรค์ก็ไม่แน่”

“คุณ!” หญิงสาวแหวมองเขาตาเขียวปั๊ด เขามันจะหน้าไม่อายเกินไปแล้ว! ด้วยไม่อยากมองหน้าเขานานเธอจึงหันหน้าเข้าหาหน้าต่างรถพร้อมมองทิวทัศน์ข้างทางไปพลาง ๆ แทน

บรรยากาศในรถมีแต่ความเงียบงันสร้างความอึดอัดให้หญิงสาวยิ่งกระทั่งถึงจุดนัดหมายในที่สุด เขมิการีบลงจากรถอย่างรวดเร็ว คิ้วเข้มกดเข้าหากันน้อย ๆ แต่ไม่พูดอะไร ลงตามมาเงียบ ๆ

“นำไปสิ”

“เหอะ” ร้องในลำคอแล้วเดินนำไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมองตามหญิงสาวด้วยสายตาเอ็นดูก่อนส่ายหน้าช้า ๆ แล้วก้าวตามไปติด ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel