บทที่ 18 ตัวกระตุ้น1
เช้าวันใหม่ของการทำงานมาถึง เขมิกาถึงได้รู้จักผู้หญิงอีกคนของทิวากร
หญิงสาวมองคู่ควงคนใหม่ของชายหนุ่มที่เจ้าตัวควงมาวันนี้ด้วยใบหน้าฉงนสายตาเต็มไปด้วยความสงสัย ความคิดแล่นเร็วรี่ก่อนดวงตาคู่งามจะเข้มขึ้น
ที่แท้เขาก็มีผู้หญิงอีกคน!
คนเลว! มีคนของตัวเองอยู่แล้วยังหว่านเสน่ห์ไปทั่ว ให้ความหวังเพื่อนเธอแล้วก็ไม่สนใจใยดี ก่อนหน้านี้ก็แพทริเซีย ตอนนี้ยังเป็นผู้หญิงหน้าเหวี่ยงสายตาร้ายกาจคนนี้อีก!
ทิวากร คนเลว คุณมันเลวที่สุด!
หญิงสาวโกรธจนตัวสั่นหากทำอะไรไม่ได้ หญิงโฉดชายชั่วเดินผ่านหน้าเธอเข้าห้องไปอย่างไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่กำลังทำ ทั้งยังปรายตามองเธอด้วยสายตาขบขันแกมเย้ยหยันอีกต่างหาก
เขมิกาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกำมือแน่นก่อนเดินไปกระแทกก้นนั่งที่เก้าอี้ทำงาน ในหัวเอาแต่ขบคิดว่าจะจัดการคนใจดำอย่างไรดี คิดยังไม่ทันไรเสียงเรียกใช้สั่งงานเธอก็ดังขึ้น
“เอาน้ำส้ม กาแฟ และคุกกี้เข้ามารับรองแขกของฉันด้วย”
เขมิกาหัวเราะในลำคอกระนั้นก็เดินไปเตรียมทุกอย่างเข้าไปให้เขา ต่อให้ไม่พอใจอย่างไร เธอก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดี ไม่ให้เขาหาเรื่องมาด่าหรือเล่นงานเธอในภายหลังได้
“มาแล้วเหรอ ช้าจริง!” น้ำเสียงแหลมห้วนกระแทกกระทั้นดังขึ้นเมื่อเขมิกาเดินเข้าห้องมาพร้อมของรับรองในมือ ดวงตาคู่นั้นมองประเมินเธออย่างพิจารณา ตามด้วยรอยยิ้มมุมปาก
หญิงสาวที่เธอไม่รู้จักลุกจากโซฟาเดินเข้ามาหาเธอแล้วเดินไปรอบ ๆ ตัว ก่อนหันไปถามชายหนุ่มคนเดียวในห้อง
“คนนี้เหรอคะที่เคยทำให้คุณทิวของมีนต้องเจ็บปวดเสียใจ”
“อืม” ชายหนุ่มรับคำสั้น ๆ อย่างง่ายดาย แววตาไม่พอใจของเขมิกาตวัดมองคนพูด นี่เขาเล่าเรื่องระหว่างเราให้คนอื่นรู้อย่างนั้นเหรอ!
“มองฉันด้วยสายตาแบบนั้นหมายความว่ายังไง ไม่พอใจงั้นเหรอ ทำไมต้องไม่พอใจด้วยล่ะ” เขมิกายังไม่ทันตอบเสียงแหลมที่เธอไม่ชอบก็แทรกขึ้นมา
“แหม ๆ ๆ เพิ่งรู้นะคะว่าคนที่ทำร้ายความรู้สึกคนอื่นมีสิทธิ์ไม่พอใจด้วย หนำซ้ำสถานะตอนนี้ก็เป็นแค่พนักงาน เป็นได้แค่ลูกน้องเขา อุ๊ยตาย! นี่หล่อนกล้าไม่พอใจเจ้านายตัวเองงั้นเหรอ” ไม่พูดเปล่าแววตาเยาะหยันของผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่ามีนมองส่งมายังเธอ
เขมิการ้อนในอก เธอไม่ต่อล้อต่อเถียงกับผู้หญิงที่ไม่รู้จัก หันหน้าไปหาเจ้าของห้องแต่ยังไม่ทันเอ่ยปาก หญิงสาวคนนี้ก็กระชากแขนเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกระชากอารมณ์
“ฉันพูดกับเธออยู่นะ! กล้าดียังไงมาหันหน้าหนีฉัน ไม่มีใครสอนมารยาทเหรอ” ซึ่งเขมิกาก็ใช่ว่าจะยอมถูกต่อว่าฝ่ายเดียวสวนกลับทันที
“สอนค่ะ แต่ฉันเลือกใช้กับคน ถ้าคุณมีมารยาทมากพอก็คงไม่กระชากแขนคนที่ไม่รู้จักแบบนี้หรอก”
“คุณทิวคะ!” มีนหรือมีนาเรียกทิวากรอย่างขอความช่วยเหลือ เธอต้องการให้เขาจัดการหญิงสาวตรงหน้าให้เธอ!
หมั่นไส้มานานละ ถ้าไม่มีผู้หญิงคนนี้เมื่อหกปีก่อนเธอก็คงได้คบกับชายหนุ่ม ไม่ใช่เพิ่งมาเจอกันเมื่อไม่นานมานี้ แม้ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอจะเป็นแค่คู่นอน แต่อีกไม่นานหรอก เธอมั่นใจว่าจะขยับสถานะนี้ได้แน่ แต่กว่าจะถึงตอนนั้น ขอเล่นงานแม่นี้ให้แสบ ๆ คัน ๆ หน่อยเถอะ
“ขอโทษคุณมีนซะ” เขมิกามองทิวากรอย่างไม่อยากเชื่อ เห็นอยู่ว่าเธอไม่ได้เป็นคนเริ่ม แววตาของหญิงสาวฉายความไม่ยินยอม เธอเชิดหน้าอย่างทระนง
“ฉันบอกให้ขอโทษไง”
“แต่เขมไม่ได้เป็นคนเริ่ม เมื่อกี้คุณทิวก็เห็นว่าเธอหาเรื่องเขมก่อน”
“แล้วไง ฉันบอกให้ขอโทษก็ขอโทษสิ”
แววตาหญิงสาวไหวระริก ลืมไปได้ยังไงว่าเขาไม่มีทางเข้าข้างเธอ
เขมิกามองใบหน้าสวยแต่ติดร้ายที่มองมายังเธอราวผู้ชนะ หญิงสาวขบริมฝีปากอิ่มความโกรธผุดขึ้นแล่นเป็นริ้ว ๆ บนใบหน้าหวาน ซึ่งนั่นสร้างความพอใจให้มีนาอย่างยิ่ง
ไงล่ะ? สวยนัก เก่งดีนัก ทำอะไรก็ดีไปหมด ตอนนี้ก็เป็นได้แค่คนน่าสมเพชที่ต้องยอมลงให้เธอเท่านั้น มีนาคิดอย่างชอบใจ
เธอและเขมิกาเป็นคู่แข่งกันในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเรื่องความเก่ง หรือความสวย เธอรู้ว่าเขมิกาไม่รู้จักเธอหรอก เป็นเธอเองที่รู้จักและตั้งตัวแข่งกับผู้หญิงคนนี้ ธรรมดานั่นแหละ เด่นมากไปก็ทำให้เป็นภัย หล่อนคงไม่รู้ว่าสร้างความเกลียดชังและริษยาให้คนอื่นมากแค่ไหน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือตัวเธอเอง
เธอไม่เข้าใจทำไมทุกคนจะต้องชื่นชมมันทั้งที่เธอก็สวยและเก่งไม่แพ้กัน ก็แค่สอบได้ที่หนึ่งทุกปี ได้ทุนเรียนดีของคุณทิพย์ประภาเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และมีใบหน้าสวยหวานแววตาใสซื่อดูบริสุทธิ์ เหอะ บางทีคนก็ชื่นชมมันมากเกินไป ที่เธอเห็นตอนนี้ไม่เห็นจะมีอะไรดีดังว่าเลย
มีนากวาดตามองเขมิกาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าพร้อมทั้งมองด้วยสายตาเหนือกว่า “เอ้า เร็วสิ รออะไรอยู่ล่ะ หรือเธอจะขัดคำสั่งเจ้านาย”
จบคำของมีนาดวงตาคู่คมของทิวากรพลันหดวูบมองเขมิกาด้วยแววตาทิ่มแทงและกดดัน
หญิงสาวที่ถูกกดดันและบังคับกำมือแน่นพยายามระงับความโกรธที่ตีตื้นขึ้นมา ริมฝีปากบางทั้งเม้มทั้งใช้ฟันขบกัดจนเป็นรอยนำความไม่พอใจให้ทิวากร ชายหนุ่มรู้สึกขัดตายิ่งที่เห็นหญิงสาวทำร้ายตนเองจนปากเป็นรอยแบบนี้
“เร็วสิ!” ชายหนุ่มเร่งเร้าตวาดสั่งเสียงกร้าว
“ขอโทษค่ะ” หญิงสาวกล่าวเสียงเบา กะพริบตารัว ๆ ไล่น้ำตาที่คลอเบ้ากลับคืน
มีนาผุดรอยยิ้มร้ายสมใจแววตาฉายความยินดี “แม้จะไม่ค่อยได้ยิน แต่ก็โอเคค่ะ คุณทิวขา ขอบคุณนะคะ มีนมีความสุขที่สุดเลยค่ะ”
พูดจบก็เดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนตักแกร่ง มือขวาโอบรอบลำคอหนา มือซ้ายลูบไล้ที่แผงอกเบา ๆ ก่อนเลื่อนขึ้นไปไล้ใบหน้าคมสัน สายตาพราวระยับจับจ้องผู้ชายที่หวังใช้ประโยชน์จากเธอทำให้เขมิกาเจ็บด้วยความพอใจ
เขมิกาตกใจดวงตาเบิกกว้างแทบถลนไม่คิดว่ามีนาจะไร้ยางอายมากขนาดนี้ เธอยังอยู่ในห้องแท้ ๆ แต่หญิงสาวก็ยังกล้า!..
“หน้าไม่อาย” แล้วปากก็ไวกว่าความคิด
มีนาผินหน้ามามองส่วนเกินด้วยสายตาขบขัน หล่อนหัวเราะเล็กน้อยพลางว่า “ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย ฉัน หรือว่าเธอ”
ไม่หยุดแค่นั้นมีนายังเอนซบใบหน้าที่ต้นคอหนาแต่หางตายังมองเธอไม่ผละหนี มือไม้ลูบไล้ชายหนุ่มไม่หยุดโดยที่เขาไม่คิดห้าม ทั้งยังมองเธอด้วยสายตาต่อว่า
“ไม่มีคนมารยาทดีที่ไหนหรอกมายืนดูคนอื่นเขาพลอดรักกัน เอ๊ะ หรือว่าเธออยากดู ถ้าอยากดูก็บอกกันดี ๆ สิ ฉันไม่ว่าหรอก แค่ดูน่ะฉันแบ่งให้ได้ แต่ถ้าเธอคิดหวังอย่างอื่นอยู่... ก็หยุดคิดซะ มันไม่ทางเป็นไปได้หรอก หึ เสียเวลาจริง ๆ มาค่ะคุณทิว เรามาสานต่อเรื่องของเรากันดีกว่านะคะ ไหนคุณทิวบอกมีนว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศเป็นในห้องทำงานบ้างไงคะ เรามาเริ่มกันดีกว่า ส่วน...” เธอปรายตามองเขมิกาเล็กน้อยแล้วพูดว่า
“ใครอยากดูก็ดูไปถือว่าเราแบ่งปันคนไม่มีใครเอาก็แล้วกันนะคะ”
พูดจบมีนาก็ไม่รอช้าโน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มชายหนุ่มอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งยกมือโอบรอบต้นคอหนาไว้ทั้งสองข้าง ตั้งท่าจะเข้าไปจูบ เขมิกาส่ายหน้าพรืด เธอทนมองไม่ไหวอีกเเล้ว อุบาดตา!
ร่างเล็กหันหลังวิ่งออกจากห้องทำงานของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วด้วยใจเต้นระรัว เสียใจใช่เธอยอมรับ มากกว่านั้นคือความรู้สึกผิดหวัง
เธอไม่คิดว่าคนที่ดีพร้อมอย่างเขาจะเป็นคนผีทะเลแบบนี้
ไม่คิดว่าเขาจะทำตัวเฉยชาไม่รู้สึกรู้สาได้แบบนี้!
เธอจะรอจนกว่ามีนาจะกลับไปแล้วเข้าไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง ถ้าเขาจะคบกับมีนาจริงก็ต้องไปเคลียร์กับเพื่อนของเธอให้ชัดเจน ส่วนแพทริเซียเธอไม่ติดใจสงสัยแล้ว เพราะวันก่อนดนุภพนำรูปถ่ายของหญิงสาวมาให้เธอดู ซึ่งมันเป็นภาพหยอกล้อกันระหว่างเธอกับคนรัก ถ้าถามว่าทำไมแน่ใจ ก็พวกเขาจูบและกอดกันเสียแนบแน่นจนไม่มีช่องว่างเสียขนาดนั้นเธอคงคิดเป็นอื่นได้หรอก
ถึงตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่า แพทริเซียเป็นแค่เพื่อนของทิวากรเท่านั้น ส่วนปานวาดคือหมากที่ใช้ในการทำร้ายเธอ ส่วนมีนา... ถึงจะไม่รู้สถานะแต่ก็พอคาดเดาได้เลา ๆ
มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาของความคับแค้นใจออกจากใบหน้าที่ไม่รู้ว่าไหลออกมาตั้งแต่ตอนไหนทิ้งอย่างไม่ยินดี ก่อนจะไม่คิดเรื่องของเขาอีกก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองไป