บท
ตั้งค่า

บทที่ 17 ภาพบาดตา2

เข้าใจว่าตัวเองเข้มแข็งพอและไม่ได้คิดอะไรกับทิวากรแล้ว แต่พอมาเห็นเขาจูบกับหญิงอื่นแบบนี้ ถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้เข้มแข็งอะไรเลย ที่เห็นนิ่งเฉยก็แค่เกาะป้องกันที่เธอสร้างขึ้นมาปกป้องตัวเอง

สุดท้ายเธอก็ยังเป็นคนอ่อนแอและรักเขาอยู่...

เขมิการู้สึกเจ็บปวดกับภาพบาดตาตรงหน้ามาก เหมือนโดนคมมีดกรีดลงกลางหัวใจแล้วตัดออกมาเป็นชิ้น ๆ ดวงตาหญิงสาวไหวระริกพยายามหักห้ามความรู้สึก แต่!

มันช่างยากเหลือเกิน...

ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันลำคอตีบตันจนเปล่งเสียงพูดออกมาไม่ได้ คนทั้งสองก็ราวกับไม่รับรู้ว่าเธอเข้ามา ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอเคาะประตูห้องแล้ว

หญิงสาวยืนนิ่งมองภาพบาดตาของชายหญิงทั้งสองอยู่อย่างนั้นอย่างคนทำอะไรไม่ถูก สมองสั่งให้ออกไปจากที่นี่ แต่ขากลับก้าวไม่ออก หัวใจชาหนึบเหมือนหยุดเต้นเอาเสียดื้อ ๆ

ทำไมเธอต้องมาเห็นภาพนี้

ทำไมต้องเป็นปานวาด

ทำไมต้องเป็นเพื่อนสนิทของเธอด้วย

คนใจร้าย เขมเจ็บจะตายอยู่แล้วนะ

เขมิกาบริภาษทิวากรอยู่ในใจ เธอมองทั้งสองคนด้วยสายตาตัดพ้อ อยากพ่นคำทั้งหมดออกไปตามความรู้สึกอัดอั้นที่มีแต่ก็ไม่รู้จะพูดในฐานะอะไร

เจ็บปวดเหลือเกินกับความรู้สึกนี้ ความรู้สึกของคนที่ยังรักแต่แสร้งว่าไม่รักมันทรมานแบบนี้นี่เอง

ถ้าเลือกได้เธอก็ไม่อยากรักเขา ไม่อยากเป็นคนเดียวที่ยังรู้สึก ใจเจ้ากรรมก็ทำงานสวนทางกับการสั่งการของสมองเหลือเกิน ขนาดเขาต้องการแก้แค้นทำให้ตัวเองเจ็บเธอยังไม่รู้สึกโกรธเขาเลย น่าตายนัก!

“ขะ ขอโทษค่ะ เขมเอาของว่างมาให้” ด้วยไม่อยากเห็นภาพตรงหน้าให้มันบาดใจไปมากกว่านี้หญิงสาวก็เค้นหาเสียงตัวเองจนเจอ

ปานวาดแสร้งสะดุ้งตกใจก่อนกลับมานั่งโซฟาตามเดิมแล้วก้มหน้าก้มตาเหมือนเขินอายที่ถูกคนจับได้ว่าทำเรื่องไม่สมควร หากความจริงเธอกลับลอบมองเพื่อนสนิทของตัวเองด้วยสายตาจับผิด

“เขมขอตัวก่อนนะคะ” เขมิกาว่าหลังวางขนมและน้ำลงบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวรีบเดินดุ่ม ๆ ออกจากห้องทันที โดยที่สายตาไม่มองคนในห้องเลยแม้แต่น้อย

ทิวากรมองตามแผ่นหลังบางด้วยสายตาลุ่มลึก ความรู้สึกยินดีผุดขึ้นในใจ ก่อนปรายสายตามองปานวาดที่ยังนั่งก้มหน้าอยู่นิ่ง ๆ

“คุณวาดเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ เมื่อกี้สะดุดล้มเจ็บตรงไหนไหม ไปหาหมอหรือเปล่า”

“มะ ไม่เป็นไรค่ะ วาดโอเค วาด เอ่อ วาดขอโทษนะคะที่ล้มทับคุณแบบนั้น” หญิงสาวพูดอย่างตะกุกตะกักรู้สึกกระอักกระอ่วนใจกลัวคนที่เธอชอบรู้ว่าเธอตั้งใจล้มทับเขาให้เขมิกาเห็น

แน่นอนว่าทิวากรไม่โง่ ลูกไม้ตื้น ๆ แค่นี้เขาดูออก แม้จะไม่ชอบใจที่เธอถึงเนื้อถึงตัวเขาอย่างอุกอาจ แต่ถ้ามันทำให้เขารับรู้ว่าเขมิกายังคงเจ็บปวด และมีความรู้สึกลึกซึ้งให้เขาอยู่ เขาจะไม่ว่าอะไรแล้วกัน

พูดตามตรงเขาควรขอบคุณปานวาดด้วยซ้ำ ที่ทำให้เขารู้ว่าถ้าอยากเห็นเขมิกาเสียใจเขาควรทำอย่างไร

ชายหนุ่มหยุดคิดเรื่องอดีตคนรักชั่วครู่แล้วชวนคนที่นั่งกระอักกระอ่วนกลัวเขาจับได้วกเข้าเรื่องงานแทน รีบคุยให้มันจบ ๆ เธอจะได้ไม่หาข้ออ้างมีเรื่องมาคุยกับเขาอีก

“ไม่เป็นไรครับ คุณวาดไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เรามาคุยงานกันต่อเลยดีไหมครับ เพราะเดี๋ยวผมต้องไปประชุมบอร์ดบริหารอีก”

“ได้ค่ะ” ปานวาดรู้สึกเบาใจที่ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเหตุการณ์เมื่อครู่เธอตั้งใจ

ก็บอกแล้วว่าไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น เห็นหน้ากันทุกวันมันก็ต้องมีคิดบ้างแหละ เธอเห็นนะว่าเมื่อครู่อาการของเพื่อนเธอแปลกไปอย่างไร เอาเถอะ อย่างน้อยพฤติกรรมเลียนแบบตามนางร้ายในละครหลังข่าวที่เธอแสดงออกมาเมื่อครู่อาจทำให้เพื่อนของเธอตระหนักได้ว่า ตอนนี้เธอกับทิวากรเป็นอะไรกัน หากการกระทำเมื่อครู่ทำให้เพื่อนเธอเสียใจ ปานวาดก็ได้แต่ขอโทษในใจแล้ว

หลังปานวาดกลับไปทิวากรก็นั่งอยู่ในห้องคนเดียว ก่อนนี้ที่บอกว่ามีประชุมเขาแค่หาข้ออ้างให้เธอกลับเร็ว ๆ เท่านั้น

ชายหนุ่มเคาะนิ้วลงบนโต๊ะตัวใหญ่ดวงตาคู่คมครุ่นคิดเกี่ยวกับเขมิกา แม้ตอนที่ปานวาดล้มลงนั่งตักเขาจะเห็นไม่ชัดว่าเขมิกามีท่าทางและสายตาอย่างไร แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

ใบหน้าหวานที่พยายามก้มจนคางแทบชิดอก แพรขนตางอนหนาที่กะพริบไหวถี่ ๆ นั่นไม่ใช่ปฏิกิริยาธรรมชาติของเจ้าตัวที่พยายามห้ามไม่ให้ตัวเองร้องไห้หรือไร

ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขมิกาเขาจำได้มันทั้งหมดนั่นแหละ

ว่าแล้วก็หงุดหงิด ทำไมเขาต้องจำรายละเอียดของผู้หญิงใจร้ายคนนี้ด้วยก็ไม่รู้ ช่างเรื่องนี้เถอะ มาว่ากันด้วยเรื่องสนุก ๆ นี่ดีกว่า

เขมิกายังคงรู้สึกลึกซึ้งกับเขาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน คิดแค่นี้ใบหน้าหล่อเหลาพลันฉีกยิ้มพราย ความสุขสะท้อนออกมาทางแววตาก่อนชายหนุ่มจะรีบสะบัดหัว

“แกจะมีความสุขแบบนี้ไม่ได้นะไอ้ทิว จำเอาไว้ แกต้องเอาคืนและล้างแค้นเธอ อย่าลืมสิว่าเธอเคยทำให้แกเจ็บปวด แกเสียใจทรมานมากขนาดไหนลืมไปแล้วเหรอ อย่าได้มีความรู้สึกเหมือนเมื่อกี้อีกเด็ดขาด”

เขาพูดกับตัวเองเสียงเข้ม ดวงตาคู่คมฉาดฉายความโกรธแค้นออกมาอีกครั้ง ถึงจะไม่ใช่หนี้เลือดแต่เขมิกาต้องชดใช้ให้เขา

หนี้รักนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องเรียกร้องมันคืนจากเธอให้จงได้!

ทิวากรเริ่มเรียบเรียงและจัดระเบียบความคิดอีกครั้ง ก่อนอื่นเริ่มที่เขมิกายังคงรู้สึกกับเขาเหมือนเดิมไม่มากก็น้อย ที่เห็นท่าทีนิ่งเฉยแววตาไร้อารมณ์ในบางครั้งเพราะเจ้าตัวปิดบังไว้ ถ้าเขาอยากเห็นดวงตากลมโตคู่นั้นสะท้อนความเสียใจและเจ็บปวดมันก็ต้องใช้แรงกระตุ้น ซึ่งเขารู้แล้วว่าจะกระตุ้นความรู้สึกส่วนลึกของเธออย่างไร

ชั่วแวบหนึ่งที่ชายหนุ่มคิดใช้ปานวาด แต่เขาไม่กล้าพอ ไม่ใช่หรอก เขาแค่ไม่อยากดึงเธอเข้ามาพัวพันหนี้รักระหว่างเขาและเขมิกามากไปกว่านี้แล้วเท่านั้น แค่พาเธอเข้ามาเกี่ยวข้องตอนนี้ก็วุ่นวายเกินไปแล้ว หากมีความสัมพันธ์ทางกายขึ้นมาเรื่องมันคงวุ่นวายสุดโต่งจนฉุดไม่อยู่แน่

ส่วนลึกในใจของเขาก็ไม่ยินยอมเช่นเดียวกัน มันกู่ร้องบอกไม่ให้เขามีความสัมพันธ์ใด ๆ กับปานวาด ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ

เหตุการณ์เมื่อกี้ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงจูบไปแล้ว แต่นี่เป็นปานวาดเขาถึงไม่ทำ มุกตื้น ๆ อย่างการสะดุดขาตัวเองน่ะมองออกง่ายจะตายไป ซึ่งเวลาถูกอ่อยผู้ชายเขามักรู้กัน เพียงแต่จะเล่นด้วยไหมเท่านั้น อย่างปานวาดเองถ้าจิตใต้สำนึกไม่บอกว่าคนนี้ไม่ได้ อย่างไรก็ไม่ได้ เขาคงเล่นกับเธอไปแล้ว

เพราะเป็นแบบนี้และไม่อยากทำอะไรที่ขัดต่อจิตใต้สำนึก แผนต่อไปเขาจึงใช้ปานวาดไม่ได้ ...ต้องเป็นคนอื่น ซึ่งเขามีคนที่เหมาะสมนั้นแล้ว

ทิวากรผุดรอยยิ้มสมใจที่คิดอะไรดี ๆ ออก ชายหนุ่มเอนหลังพิงเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่ ยกมือทั้งสองประสานไว้ที่ท้ายทอย หลับตาพริ้มอย่างคนอารมณ์ดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel