บทที่ 3 ...ไฟเสน่หาเพลิงอารมณ์...
ระหว่างรอภีมะอ่านจดหมายอยู่นั้น ทางคุณหญิงเดือนเพ็ญกับท่านรัฐมนตรีนัททีและคุณพินิจน้องชายได้เล่ารายละเอียดต่างๆให้ทางคุณภมรกับคุณกรองแก้วฟังอีกครั้ง และตามมาด้วยคำขอโทษขออภัยจากคุณหญิงเดือนเพ็ญไม่หยุดปาก เพราะนางละอายใจต่อการกระทำแบบไม่นึกถึงความเดือดร้อนของผู้อื่นของลูกสาว ซึ่งก็ได้รับความเห็นใจจากอีกฝ่ายเป็นอย่างดี แล้วทุกคนต่างลงความเห็นตรงกันว่า จะให้ภีมะเป็นคนตัดสินใจในการแต่งงานผิดฝาผิดตัวครั้งนี้
“ว่าไง ตาภีม หนูดาบอกอะไรมาบ้าง”
คุณภมรเอ่ยถามเมื่อลูกชายเดินกลับมานั่งขณะสังเกตเห็นสันกรามของชายหนุ่มขบแน่นจนเป็นสันนูนและมือสองข้างกำแน่นราวกับกำลังคิดจะบีบสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่อยู่ในอุ้งมือให้แหลกลาญเป็นลักษณาการบอกชัดว่าเจ้าตัวกำลังโกรธจัด
“ไม่มีอะไรหรอกครับคุณพ่อ”
ภีมะพูดผ่านไรฟันอันขบแน่น ภายในใจของเขาร้อนรุมด้วยเพลิงโกรธแผดเผาจากข้อความในจดหมายของหญิงสาวคนรักที่เขียนบอกเรื่องราวการเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้ายไว้ด้วยเหตุผลอันน่าสงสารเห็นใจ
“หนูดาว่าไงบ้างครับ ทำไม...”
ท่านรัฐมนตรีนัททีชะงัก เมื่อเห็นดวงตาคมวาวของภีมะที่มองจับจ้องเจ้าสาวตัวแทนผู้เป็นหลานสาวของภรรยาอย่างกับเกลียดชังเสียนักหนา เขาชักจะไม่แน่ใจเสียแล้วว่าดารุณีลูกสาวของตนได้อธิบายให้เจ้าบ่าวได้รู้ความจริงเรื่องต้องทิ้งงานแต่งของตัวเองไป เพราะรู้นิสัยของลูกสาวเป็นอย่างดีว่าดารุณีมักจะปัดความผิดให้พ้นตัว และกลัวว่าดารุณีจะโยนความผิดญาติผู้น้องที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวแทน
“เอ้อ...ผมขอไม่พูดถึงนะครับ เอาเป็นว่าผมยอมรับเหตุผลการตัดสินใจของดารุณีโดยไม่ติดใจสงสัยอะไร”
ภีมะจำต้องเก็บเรื่องที่ดารุณีบอกเอาไว้อย่างที่เธอร้องขอมาในจดหมายเพื่อความสบายใจของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย แม้เขาอยากจะบอกแก่ทุกคนเหลือเกินว่า...เป็นเพราะหญิงสาวที่นั่งทำหน้าใสซื่อไร้เดียงสาอยู่ต่อหน้าทุกคนนี่แหละเป็นต้นเหตุให้ดารุณีต้องจากไป...
“แล้วเรื่องเจ้าสาวตัวแทนนี่ล่ะ ลูกจะว่ายังไง”
คุณภมรมองบุตรชายอย่างสงสัย อยากรู้นักว่าเหตุผลอะไรหนอที่ทำให้ภีมะยอมอภัยให้เจ้าสาวที่หนีงานแต่งงานกลางคันง่ายดายอย่างนี้ แต่จะมาซักไซ้ไล่เลียงกันต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ของดารุณีก็คงจะไม่เหมาะไม่ควร เพราะมีเจ้าสาวตัวแทนรอส่งตัวเข้าหออยู่แล้ว
“แล้วแต่คุณพ่อคุณแม่จะเห็นควรเถอะครับ”
ภีมะชำเลืองมองผู้ที่ตนอยากจะปฏิเสธไม่ยอมรับเป็นภรรยาด้วยสายตามาดร้าย เขากำลังรอเวลาชำระแค้นกับหล่อนอยู่ คอยดูเถอะ หล่อนจะต้องชดใช้การสูญเสียเจ้าสาวตัวจริงของเขาอย่างสาสม ตอนนี้ที่เขายอมให้บิดามารดาเป็นผู้ตัดสินใจก็เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย
“อึม...เรื่องมันเลยเถิดมาขนาดนี้ ก็คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ เป็นอันว่าลูกยอมรับหนูนาเป็นภรรยานะ”
คุณภมรสรุปอย่างโล่งใจ การที่ภีมะบอกให้เขากับคุณกรองแก้วเป็นเป็นคนตัดสินใจ ก็แสดงว่าบุตรชายไม่ปฏิเสธจะรับเจ้าสาวตัวแทนเป็นภรรยาอยู่กินกันต่อไป
“หมายความว่าคุณภีมจะรับลูกสาวของผมเป็นภรรยาใช่ไหมครับ”
คุณพินิจไม่แน่ใจ เพราะทีท่าของเจ้าบ่าวไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจในตัวเจ้าสาวหรือลูกสาวของเขาเลยสักนิด
“ภีมะกับนาราได้แต่งงานกันถูกต้องตามกฎหมายเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือแต่การส่งตัวเข้าหอเท่านั้น”
ท่านรัฐมนตรีนัททีกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน พร้อมที่จะสนับสนุนหลานสาวอย่างเต็มที่ เพราะนาราเป็นหญิงสาวผู้งามพร้อมอย่างกุลสตรีและน่าจะเป็นภรรยาที่ดีของภีมะ
“ต้องรับสิคะ หนูนาแกน่ารักน่าเอ็นดูอยู่หรอกค่ะ ดิฉันก็เต็มใจรับหนูนาเป็นลูกสาวอีกคนค่ะ” คุณกรองแก้วสนับสนุน พร้อมยิ้มปลื้มที่ได้ลูกสะใภ้ถูกใจ
“โอ...ขอบคุณ คุณภมรกับคุณกรองแก้ว...และขอบใจคุณภีมมากที่เมตตายัยหนูนา”
คุณหญิงเดือนเพ็ญกล่าวด้วยสีหน้าแช่มชื่นขึ้นทันตาเห็น นางดีใจที่ภีมะยอมรับเจ้าสาวตัวแทนได้ เพราะนางเองก็ห่วงใยหลานสาวที่ต้องมาแต่งงานออกเรือนโดยไม่ทันได้ตั้งเนื้อตั้งตัวและกลัวภีมะจะไม่ยอมรับ เพราะชายหนุ่มกับดารุณีลูกสาวของนางรักชอบกันมานานนับปี ถ้าต้องมีการหย่าร้างก็จะทำให้นาราหลานสาวที่นางรักเหมือนดั่งลูกในไส้ต้องอับอายขายหน้าและเสื่อมเสียจากการได้ชื่อว่า...เป็นแม่ม่ายหย่าสามีทั้งที่อายุยังน้อยและเพิ่งเรียนจบการศึกษาออกมาไม่ถึงสามเดือน...
“ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ดิฉันจะช่วยดูแลหนูนาเป็นอย่างดี”
คุณกรองแก้วกล่าวย้ำ การได้ตัวนารามาเป็นลูกสะใภ้เป็นสิ่งเหนือความคาดหมายและเป็นที่พึงพอใจของนางกับสามี อาจจะพูดได้ว่าพอใจมากกว่าเจ้าสาวตัวจริงของลูกชายเสียด้วยซ้ำไป เพราะนางพอจะรู้จักตัวตนของเจ้าสาวตัวแทนคนนี้
นาราเป็นเด็กสาวผู้มีอัธยาศัยเรียบร้อยอ่อนหวานที่เพิ่งเรียนจบการศึกษาระดับปริญญาสาขาคหกรรมศาสตร์จากสถาบันมีชื่อของเมืองไทย นางเคยได้ยินคุณหญิงเดือนเพ็ญเล่าให้กลุ่มเพื่อนในสมาคมฟังว่าช่วงที่นารายังศึกษาในมหาวิทยาลัยเด็กสาวยังสนใจใฝ่รู้เรียนจนได้ประกาศนียบัตรด้านอาหารระดับเชฟทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งต่างจากดารุณีลูกสาวของตัวเองที่แทบจะทำอะไรไม่เป็นเลยและยังใช้ชีวิตแบบหญิงสาวทันสมัยสนใจแต่เรื่องแฟชั่นเรื่องช็อปปิ้งมากกว่าจะสนใจงานบ้านงานเรือน