บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ...ไฟเสน่หาเพลิงอารมณ์...

“เอ้อ...ไม่ใช่หรอกครับ”

คุณพินิจตอบแทนพี่สาวและพี่เขยที่นั่งนิ่งเหมือนกับจะพูดอะไรไม่ออก เพราะเรื่องการหายตัวไปของดารุณีเป็นเรื่องที่ยากจะอธิบาย ในทีแรกทุกคนก็คิดว่ารถที่เจ้าสาวนั่งมาอาจจะเกิดปัญหาอะไรสักอย่าง เจ้าสาวจึงได้มาถึงล่าช้า แต่พอรถเจ้าสาวมาก็มีเพียงเพื่อนเจ้าสาวกับคนขับรถเท่านั้น

“ไม่ใช่อุบัติเหตุแล้วเป็นเรื่องอะไรครับ” ภีมะมองหน้าเครียดๆของผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวก็ยิ่งไม่สบายใจ ดารุณีหายตัวไปไหนกันแน่

“พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“ยังไง เจ้าสาวของผมหายตัวไปโดยไม่มีใครรู้หรือ”

ภีมะลุกพรวด ด้วยความโกรธผสมผสานกับความห่วงใยในตัวคนรัก เขาไม่เชื่อว่าการหายตัวไปของดารุณีจะเป็นความเต็มใจหนีหายไปเอง เพราะไม่มีเหตุผลที่คนรักของเขาจะทำเช่นนั้น

“รอฟังเรื่องราวก่อนเถอะลูกภีม” คุณกรองแก้วกล่าวกับบุตรชาย พลางดึงมือให้เขานั่งลงอย่างเดิม แล้วจับมือบีบเบาๆเป็นการเตือนสติและปลอบใจในคราวเดียวกัน

“ใจเย็นก่อนเถอะตาภีม อย่าเพิ่งเอาแต่โมโหโทโส” คุณภมรปรามบุตรชาย สีหน้าเรียบเฉยของเขาเก็บซ่อนความสงสัยใคร่รู้ไว้อย่างแนบเนียน

“เจ้าสาวของผมหายไปทั้งคนนะครับพ่อ แล้วยังไงถึงได้เอาเด็กกะโปโลนี่มาสวมรอยแทน”

ภีมะมองเจ้าสาวตัวแทนด้วยสายตาดูแคลน เขาเคยเห็นหน้าเด็กสาวไม่กี่ครั้งก็จริงแต่สิ่งที่ได้ยินจากคำบอกเล่าของดารุณีทำให้เขาไม่นิยมชมชอบญาติผู้น้องของหล่อนมากนัก

“มีคนแทนก็ดีแล้ว และดีมากด้วยที่ทางเราไม่ต้องยกเลิกงานพิธีกลางคัน ไม่อย่างนั้นก็ต้องเป็นข่าวใหญ่ให้อับอายขายหน้าแขกเหรื่อด้วยกันทั้งสองฝ่าย” คุณภมรบอกลูกชาย แล้วหันมาถามทางฝ่ายเจ้าสาว

“หนูดารุณีไม่ได้บอกอะไรไว้เลยหรือครับว่าจะไปไหน”

“ไม่ได้บอกค่ะ” คุณหญิงเดือนเพ็ญพูดได้แค่นั้นก็ร้องไห้ขึ้นมาอีก ท่านรัฐมนตรีนัททีผู้เป็นสามีจึงต้องเป็นผู้อธิบายต่อ

“ทางเราต้องขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ เพราะยัยหนูดามาหายตัวไประหว่างนั่งรถมาเข้าพิธีไม่ถึงชั่วโมง พวกเราสอบถามเพื่อนเจ้าสาวที่นั่งมาด้วยกัน ก็ได้ความแค่ว่าเจ้าสาวขอลงทำธุระกลางทาง ผมพยายามโทรหายัยหนูดาก็ปิดเครื่อง รออยู่จนจวนเวลา พวกเรากลัวจะเสียหายกันใหญ่โต เลยรับข้อเสนอของพินิจน้องชายคุณหญิงให้หนูนามาเป็นเจ้าสาวเข้าพิธีแทนไปก่อน”

เหตุการณ์ฉุกละหุกก่อนพิธีเพียงไม่ถึงชั่วโมงดีเป็นเรื่องสุดวิสัยจะแก้ทันได้ เมื่อตามหาตัวเจ้าสาวไม่เจอเข้าจริงๆ คุณพินิจจึงเสนอกับพี่สาวพี่เขยให้แก้สถานการณ์ด้วยวิธีดังกล่าว เพราะการปล่อยให้งานแต่งงานต้องล่มกลางคัน จะต้องเสียหายเสียชื่อเสียงด้วยกันทั้งสองฝ่าย

“ต้องขอโทษด้วยค่ะ พวกเราไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีไปกว่านี้แล้ว”

คุณหญิงเดือนเพ็ญบอกด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า ฝ่ามือเย็นเฉียบกำมือหลานสาวผู้เป็นเจ้าสาวตัวแทนแน่นจนเจ้าตัวรู้สึกเจ็บแต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร เห็นใจผู้เป็นป้าที่กำลังเศร้าโศกเสียใจ

“เอ้อ...พี่หนูดาฝากจดหมายมาให้คุณภีมด้วยค่ะ”

น้ำเสียงหวานใสของเจ้าสาวตัวแทน ดึงสายตาทุกคู่มาหยุดอยู่กับสิ่งที่เธอยื่นส่งให้เจ้าบ่าวด้วยมือสั่นไหวเล็กน้อยบอกอาการประหม่า โดยมีสายตาของผู้ใหญ่ทั้งห้ามองตามด้วยความอยากรู้ว่าเนื้อหาในจดหมายของดารุณีจะบอกอะไร และต่างโล่งใจที่ไม่มีอันตรายเกิดแก่ผู้ที่หายตัวไป

“เพื่อนเจ้าสาวของพี่หนูดาเอามายัดใส่มือให้ดิฉันแล้วก็ขอตัวกลับไป บอกว่าพี่หนูดาฝากมาส่งให้ถึงมือคุณภีมเลย แต่เธอไม่กล้าฝากต่อให้ดิฉันนำมาให้แทน”

เจ้าสาวตัวแทนเห็นสายตาวาววับของเจ้าบ่าวก็สังหรณ์ใจว่าเจ้าบ่าวจะมุ่งความโกรธมาที่ตนเพียงคนเดียว จึงเล่าเหตุการณ์ที่เพื่อนเจ้าสาวคนหนึ่งของดารุณีนำจดหมายมายัดใส่มือพร้อมกำชับนักหนาว่าอย่าให้ใครได้รู้เห็นก่อนจะถึงมือภีมะแล้วรีบร้อนขอตัวจากไป เลยกลายเป็นว่างานแต่งงานขาดทั้งเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว ทางคุณหญิงเดือนเพ็ญจึงต้องเลือกหาเพื่อนเจ้าสาวคนใหม่มาแทน โชคดีที่มีเพื่อนสนิทของเธอมาร่วมงานสองคนเลยถูกจับแต่งตัวเป็นเพื่อนเจ้าสาวแทนอีกเหมือนกัน

“แม่หนูดาคงจะเขียนบอกเหตุผลมากับจดหมายนะคะ คุณภีมรีบอ่านเถอะค่ะ น้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าหนูดาอยู่ที่ไหน”

คุณหญิงเดือนเพ็ญตื่นเต้น ดีใจที่ลูกสาวไม่ได้เมินเฉยต่อความรู้สึกของเจ้าบ่าวหรือคนรอบข้าง เพราะยังมีแก่ใจเขียนจดหมายมาอธิบายความจริงให้เข้าใจบ้าง อย่างน้อยทุกคนก็จะได้รู้ว่าดารุณีไปไหนและเหตุใดจึงไม่มาเข้าพิธีแต่งงานของตัวเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel