ตอน 8
“แม่ครับ เทพขอโทษครับที่มาช้าพอดี...” เทพนิธิยังไม่ทันจะอธิบายเหตุแห่งความล่าช้ามาสายให้กับมารดาฟังจนจบ สายตาเหลือบไปเห็นผู้หญิงใบหน้าหวานเจิดจรัส พกพาดวงตากลมโต ใบหน้ารูปหัวใจ จมูกนิด เรียวปากจิ้มลิ้มพริ้มเพรา เขาจำได้ใบหน้านี้สร้างความประทับใจกับเขาจนไม่อาจลืมได้ กระทั่งติดตาตรึงใจเขาตั้งแต่เห็นเธอ เปิดประตูรถออกมาเจรจากับเขาบนท้องถนนเมื่อร่วมชั่วโมงที่ผ่านมา
หลังจากต้องรีบไปส่งแอมมี่ยังกองถ่าย กว่าจะสลัดเจ้าหล่อนได้ นับว่าเสียเวลาหลายนาที หากหล่อนไม่ต้องรีบถ่ายละคร เขาคงเสียเวลากับหล่อนอีกนาน เมื่อได้รับอิสระ เขาจึงรีบบึ่งรถมายังโรงแรมแห่งนี้ราวกับขับจรวจยังไม่ปาน นับได้คุ้มค่าเมื่อได้เจอกับสาวน้อยน่ารักโดยไม่คาดฝัน เขายังคิดทบทวน เพื่อหาทางได้พบเธอ ในระหว่างทางขับรถมาพบมารดา โชคช่างเป็นใจเข้าข้างเขา เมื่อได้เจอกับเธออีกครั้ง ใบหน้าหวานปะทะสายตาระยะใกล้แค่เอื้อม โดยไม่ต้องออกแรงตามหาให้เสียเวลา
เทพนิธิ พงศ์พนาพิสุทธ์ บุตรชายคนโต ในบรรดาลูกๆทั้งสามซึ่งมี เทพนิธิ และน้องสาวอีกสองคนล้วนคือหัวเรี่ยวหัวต่อในตระกูล เพื่อแตกหน่ ดำเนินธุรกิจเจริญรอยตามครอบครัวแทบทั้งสิ้น คุณทิพย์อาภา ตั้งความหวังไว้กับเทพนิธิ ซึ่งปีนี้ย่างเข้าวัยสามสิบสาม แต่ยังหาหลักยึดเหนี่ยวเพื่อแต่งงานกับสาวคนไหนไม่ได้สักคน ส่วนมากสาวที่ชายหนุ่มควง ล้วนไม่เหมาะไม่ควร ไม่สมใจคุณทิพย์อาภาสักราย ไม่ดารา ก็นางแบบภาพนู๊ด ถ่ายภาพอล่างฉ่าง ซึ่งคุณทิพย์อาภาคงไม่หมายให้เข้ามาร่วมชายคา
เมื่อคุณรณกรเอ่ยถึงธัญชนก ซึ่งกำลังโตเป็นสาวสะพรั่ง แม้ไม่เคยพบหน้าค่าตากันจริงจัง แต่จากภาพที่คุณรณกรให้ดูก่อนหน้า หญิงสาวจัดได้ว่าสวยบาดตา ถูกใจคุณทิพย์อาภาอยู่มากจากวันนั้นจึงเกิดให้มีวันนัดดูตัวในวันนี้ แม้บุตรชายช่างมากเรื่องจะไม่ยอมมาตามนัดกับมารดาง่ายๆ หากว่านาทีนี้ เทพนิธิมาถึงอย่างสมใจ
“มานี่สิตาเทพ” คุณทิพย์อาภาคว้าลำแขนบุตรชายให้ลงนั่งข้างๆ “แม่จะแนะนำให้รู้จักกับคุณอากร เจ้าของเต้นท์รถมือสองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ” คุณทิพย์อาภาคุยโอ้อวด
“สวัสดีครับคุณอา ได้ยินคุณแม่พูดถึงคุณอาบ่อยๆ วันนี้โชคดีจริงๆได้เจอกับคุณอา” เทพนิธิพุ่มมือไหว้คุณรณกร ทว่าสายตากลับจับจ้องยังดวงหน้าหวาน ที่ไม่ยอมมองเขาแม้เพียงเศษเสี้ยวสายตา
“ครับยินดีที่ได้รู้จักและเจอตัวหลานชายซะที ปีนี้โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ดูภูมิฐานสมวัยดีนะ ว่าแต่มีแฟนหรือยังล่ะ” คุณรณกรแกล้งเย้าชายหนุ่มเล่น หากชายหนุ่มมีคู่ควงหมายตา การจับคู่คราวนี้คงต้องยกเลิก เพราะคุณรณกรในฐานะพ่อคนหนึ่ง คงไม่ปลื้มหากต้องยกลูกสาวให้กับผู้ชายที่มีแฟนแล้ว
“ยังเลยครับ รอให้คุณแม่หาให้” เขาตีขลุมยกหน้าที่ให้มารดาจัดการเรื่องนี้ ทั้งที่ปกติ เทพนิธิเอาแต่ใจสำหรับเรื่องหาคู่ครองคู่ควง เขามักขัดแย้งกับมารดาเสมอ เวลาที่ท่านเอ่ยถึงการแต่งงาน
“ตายๆ แม่ลืมแนะนำ ส่วนนี่หนูธัญชนก เรียกหนูสองก็ได้ ลูกสาวคนสวยอากร รู้จักกันไว้สิจ๊ะ” ที่แนะนำหญิงสาวช้า เพราะจะลองเชิงบุตรชายซึ่งกำลังส่งสายตาหวานเยิ้มให้หญิงสาว โดยไม่ยอมสนใจมองทางอื่น แม้ปากจะสนทนากับรณกร ทว่าสายตากลับไม่คลาดจากใบหน้าหวานได้เลย
“สวัสดีครับคุณธัญชนก” เขาเน้นชื่อหญิงสาว ด้วยจำขึ้นใจ จดจำจากใบขับขี่ ที่มีรูปหน้าตาน่ารักไร้เครื่องสำอางของหญิงสาว แม้รูปถ่ายต่างจากตัวจริงลิบลับ แต่ได้อารมณ์ไปอีกแบบ เขายื่นมือเพื่อจับกับหญิงสาว เธอมองแล้วเมิน พุ่มมือไหว้แทน เทพนิธิหน้าเหลอไปนิดหน่อย แต่เขาปรับสถานการณ์ได้เยี่ยม รับไหว้หญิงสาวทัน
“ค่ะยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง”
“เอ๊ะ หนูสองพูดเหมือนกับรู้จักกับตาเทพอย่างนั้นล่ะ”
“อ๋อ ไม่หรอกค่ะคุณป้า สองคุ้นหน้าพี่เขาน่ะค่ะ”
“หรือจ๊ะ แหมป้าแอบดีใจ นึกว่ารู้จักกันแล้ว”
“งั้นรู้จักกันแล้ว เรามาร่วมรับประทานอาหารกันดีกว่านะครับ เสียเวลานานแล้ว”
“เดี๋ยวก่อนค่ะป๋า” ธัญชนกเอ่ยห้ามบิดา
“ว่าไงล่ะหนูสอง ป๋าหิวแล้วนะ รอเรานานไส้ป๋ากิ่วหมดแล้วเนี่ย” คุณรณกรตบฝ่ามือลงกับหน้าท้องที่เริ่มมีพุงนิดหน่อยเมื่อไร้ภรรยาคอยดูแล รวมทั้งเรื่องสุขภาพที่แอบปิดบังลูกๆไว้ด้วย
“พอดีสองอยากให้ป๋ารู้จักกับใครบางคนค่ะ” ใครบางคนที่เธอแทบไม่รู้จักเขา แต่เขาจะทำให้สถานการณ์ยุ่งยากในหัวใจธัญชนกคลี่คลาย หรืออาจเลวร้ายเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ เธอไม่อยากคาดเดา แต่จะขอรับผลแห่งการกระทำของตัวเองไว้ด้วยความยินดี หากมันเลวร้าย อีกอย่างเธอไม่ชอบขี้หน้าผู้ชายคนนี้ ทั้งที่ตัวเองควงกับแม่นางร้ายเบอร์หนึ่ง แต่กลับบอกบิดาของเธอหน้าตาเฉยยังไม่มีแฟน ฉะนั้นเมื่อเขาไม่มีแฟน แต่เธอจะมีให้ดู
“เอ๊ะ มีใครมาอีกหรือคะคุณกร” คุณทิพย์อาภาย่นคิ้วที่สักไว้ยุ่งเป็นยุงตีกัน มองหน้าสองพ่อลูกสลับกัน เพราะต้องการคำตอบ
“เปล่านี่ครับผมไม่ได้นัดใครนอกจากเราสองครอบครัว”
“คนสำคัญของสองเองค่ะป๋า” คำกล่าวจากปากธัญชนก เรียกทุกสายตาให้สนใจจับจ้องหญิงสาวไม่วางตาโดยเฉพาะเทพนิธิ ในเมื่อเขาวาดหวังไว้กับหญิงสาวมากนัก เธอกลับเอ่ยวาจาได้มีคนสำคัญตามมาด้วย หัวใจเขาฝ่อลงเกือบครึ่งรออีกครึ่งเมื่อคำว่าคนสำคัญถูกเฉลย
ธัญชนก ลุกเดินไปยังหน้าห้องอาหาร เพียงครู่จึงย้อนกลับมา พร้อมกับผู้ชายร่างสูงใหญ่ เดินตามมาติดๆ ที่สำคัญมือเกี่ยวกันแนบแน่น มือบางอยู่ในอุ้งมือใหญ่ เทพนิธิไม่สนใจใบหน้าคนทั้งสอง นอกจากสองมือที่ประสานกันราวกับคำว่า คนสำคัญ นั้นสำคัญเหนือสิ่งใด จิตใจเขาเจ็บปวดอย่างแปลกประหลาด ราวกับถูกแย่งของที่หมายตาไปต่อหน้าต่อตา
ร่างสูงใหญ่กับอีกหนึ่งร่างเล็กไม่เหมาะสมกันสักนิดในสายตาเทพนิธิ กำลังสาวเดินเข้ามาใกล้ จนฉายชัดเต็มสองตาเขา หากไม่เกรงใจผู้ใหญ่ เทพนิธิคงเสียมารยาท ลุกพรวดแล้วเดินจากไป
“ป๋าคะนี่เซบาสเตียน เอ่อ...คนพิเศษของสองค่ะ” มือบางผายไปทางชายหนุ่มซึ่งกายเขาแนบชิดเธอไม่ยอมห่าง เขาแสดงได้สมบทบาทเกินไป จนหัวใจบางชักหวั่นจะหลงเสน่ห์ร้ายกาจ บาดอุราของเขา เพียงใช้เวลาใกล้ชิดกันไม่ถึงสองชั่วโมงเท่านั้น
“คนพิเศษ ที่หนูสองหมายถึงแฟน หรือคนนักหรือเปล่าจ๊ะ”
“เรากำลังดูใจกันอยู่ค่ะ จริงไหมคะเซบ” ธัญชนกไม่รู้ด้วยซ้ำชายหนุ่มชื่อเล่นว่าอะไร เธอขอเรียกเขาแบบสนิทใจอย่างนี้ไว้ก่อน เพื่อความสมจริง
“สวัสดีครับ” ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่แบบชายยุโรป พุ่มมือไหว้บิดาของหญิงสาวแบบแข็งทื่อเก้ๆกังๆ เขารู้จักธรรมเนียมไทยด้วย หัวไวชะมัด ธัญชนกได้แต่มองเขานิ่งอึ้ง เป็นเขาอีกนั่นแหละที่คว้ามือบางให้อยู่ในอุ้งมืออบอุ่น ราวกับระหว่างเธอกับเขาคือคนรักกันจริงๆ
“คุณกรนี่มันหมายความว่ายังไงคะ” คุณทิพย์อาภาอึงเอ็ดขึ้นทันควัน เมื่อภาพสองหนุ่มสาว ท่าทีสนิทสนมราวกับเป็นคนรักกัน เท่าที่นางรู้จักธัญชนก จากปากคุณรณกรหญิงสาวยังไม่มีแฟนโสดสนิท ไม่เช่นนั้นนางจะหมายหมาดให้กับบุตรชายของตัวเองได้อย่างไร เห็นแบบนี้คงกระเดือกแต่งเป็นลูกสะใภ้ไม่ไหว
“เอ่อ...ใจเย็นๆครับคุณทิพย์” มือที่ค้างรับไหว้คนพิเศษของบุตรสาวถึงลดลงแล้วยกห้ามปรามแขกคนสำคัญทันที
“นั่งลงสิหนูสอง เชิญเพื่อนหนูนั่งด้วย” คุณรณกรต้องการความกระจ่างจากบุตรสาวไม่ต่างจากคนอื่นๆ มันเกิดอะไรขึ้น ร้อยวันพันปีเขาไม่เคยเห็นบุตรสาวคบกับหนุ่มไหนออกหน้า ยกเว้นเพื่อนนักศึกษาด้วยกัน คอยส่งขนม ส่งดอกไม้ แต่เมื่อถามบุตรสาวทีไร ธัญชนกบอกเสมอว่า แค่เพื่อน แล้วหนุ่มนัยน์ตาสีทองอล่าม ผมดำ ตัวสูง รูปร่างสมส่วน ภูมิฐานด้วยการแต่งกายจากอาภรณ์ชั้นเลิศ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เพียงแต่ดูเหมือนเสื้อสูทจะทิ้งรอยคราบด่างๆไว้นิดหน่อย
“ผมไม่ใช่เพื่อนสองครับ” เสียงทุ้มชวนฟังกล่าวขึ้นด้วยภาษอังกฤษ
“เขาว่าไงนะหนูสอง” คุณรณกรฟังภาษาอังกฤษจากปากชายหนุ่ม ฟังไม่ค่อยได้ศัพท์นักไม่ใช่ฟังไม่รู้เรื่อง แต่เพราะนานๆได้พูดคุยกับพวกชาวต่างชาติที ศัพท์แสงในหัวจึงน้อยลงเต็มที่ แต่ธัญชนกเก่งหลายภาษา เพราะเรียนอักษรศาสตร์