ตอน 7
“เห็นด้วยใช่ไหม งั้นเราคงได้เวลาไปพบพ่อของคุณได้แล้วสิ” เขากระตือรือร้นเกินงาม เกินกว่าคนไม่เต็มใจทำเรื่องแบบนี้
“ว่าแต่คุณเต็มใจเล่นเกมนี้กับฉันหรือคะ” ถามอีกครั้งเพื่อยืนยันให้มั่นคงกับตัวเอง เมื่อเจอหน้าบิดา เธอจะไม่ตกม้าตายเพราะข้อมูลที่เขากับเธอสร้างขึ้นมาหลอกๆ
“มั่นใจสิครับ” เจ้าเด็กซุกซนคิดสร้างเรื่องหลอกผู้ใหญ่ แต่ดันคิดไม่รอบคอบ เขาอาบน้ำอุ่นจากเครื่องทำน้ำอุ่นมาก่อน แผนที่เขาคิดเพื่อหาทางรอดให้กับยัยตัวเล็ก คือหนทางที่ไม่ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงของชายอื่น โดยทำให้เขาอาจหมดสิทธิ์ในตัวหญิงสาวไปด้วย แผนเพื่อเธอมันเอื้อเพื่อเขาไปในเวลาเดียวกัน
“ไปกันได้แล้วที่รัก” เซบาสเตียนถือโอกาสยกลำแขนโอบไหล่บอบบาง เดินไปตรงประตู
“คือไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้คะ ยังไม่เจอพ่อ” มือบางแกะมือใหญ่ตรงไหล่มน ทว่าเขากลับไม่ยอมโดยง่าย กดฝ่ามือแน่นขึ้น จนหญิงสาวต้องเบี่ยงหัวไหล่หลบ
“ฝึกไว้สิแนบเนียนนะจะบอกให้” เขากดยิ้มหลังบอกเธอ แววตาเขาสุกใสซ่อนบางอย่างไว้มิดชิด
“เราเพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก คงไม่ต้องซ้อมให้สมจริงขนาดนี้ก็ได้มั้งคะ” ความจริงเธอเขินอายกับท่าทีสมจริงถึงเนื้อถึงตัวของเขามากกว่า ร่างกายร้อนผ่าวราวกับมือหนานั้นคือคบเพลิงทาบทั้งกาย
“ไม่สมจริงพ่อคุณอาจให้เราเลิกกัน เพราะเห็นผมเป็นคนต่างชาติ ส่วนใหญ่คนไทยย่อมอยากให้ลูกสาวแต่งกับคนไทย เพราะกลัวชาวต่างชาติหลอก” เขารู้ละเอียดมาก ขนาดไม่ได้ใช้ชีวิตในเมืองไทย นานๆมาครั้ง แต่กลับรู้รายละเอียดเกี่ยวกับนิสัยคนไทยเยอะพอสมควร
“มาซาจ ซาน ฉันจะลงไปพบพ่อตาที่ห้องอาหารสักหน่อย พวกนายพักผ่อนเถอะไม่ต้องตามไป ถ้าพวกนายตามไป มันออกจะวุ่นวายสักหน่อย” เขาสั่งบอดี้การ์ดที่อยู่ยงเฝ้าหน้าห้องไม่ยอมก้าวขยับไปไหน
“ไปพบพ่อตาอย่างนั้นหรือครับเจ้านาย ที่อยู่ในห้องกันร่วมยี่สิบนาที เอ่อ...เจ้านายกับ...” มาซาเจโลชี้นิ้วสลับระหว่างเจ้านายสุดหล่อเท่ห์ร้ายกาจกับแม่สาวหน้าอ่อนตัวเล็ก แสนหวานอาจใช้เวลาอันรวดเร็วสานสัมพันธ์สายฟ้าแลบต่อกันกระทั่งถึงปลายฝั่งฝัน ให้ตายสิเจ้านายรวดเร็วเสมอเกี่ยวกับเรื่องหญิง ปกติเจ้านายใช้เวลาหลายชั่วโมง กับการหาความสุขกับผู้หญิงสักคน สำหรับแม่ตัวเล็กคนนี้ เร็วเกินคาด ซานโดรซึ่งยืนตะลึงอยู่ข้างมาซาเจโล ยังรู้สึกไม่ต่างกัน พวกเขามองกันไปมา ราวกับประมวลเหตุการณ์ไม่ต่างกัน
“เอาน่าไม่ใช่อย่างที่นายสองคนคิดแน่นอน” ทั้งที่ลำแขนแกร่งยังโอบไหล่มน หญิงสาวแสดงสีหน้าสีตา บอกบุญไม่รับปุเลี่ยนๆชอบกล
“ไม่ให้พวกผมตามไปดูแลจริงๆหรือครับ” ปกติสองบอดี้การ์ดไม่เคยห่างกายเจ้านายยกเว้นเวลานอนหรือทำธุระส่วนตัวมากๆ
“พักผ่อนเถอะฉันรับมือไหว” ฝ่ามือผู้เป็นนายตบไหล่กว้างผึ่งผายบอดี้การ์ดมือขวาผู้รู้งาน ที่ไม่เคยปล่อยให้เขาคลาดสายตาสักครา มาซาเจโล ตื่นตัวเสมอ เพื่อการรักษาความปลอดภัย กะอีแค่พ่อตาคนเดียว จะยากแก่การรับมือให้มันรู้ไป เขาปกครองบริวารหลายพันคน คนเพียงคนให้รู้ไปเขาจะจัดการให้เชื่อในเรื่องราวที่เขาสร้างขึ้นไม่ได้ เขาลอบคิดอย่างสนุกสนาน กับงานฆ่าเวลาแสนน่ารักน่าชัง
“ปล่อยได้แล้ว” ร่างบางสลัดเพื่อให้หลุดจากอุ้งมือใหญ่ เมื่อเขาประคองหญิงสาวเข้าไปในลิฟต์ประทั่งประตูลิฟต์ปิดสนิท เคลื่อนลงไปยังชั้นหนึ่งตามตัวเลขดิจิตอลสีแดงบนหน้าจอบนแผงลิฟต์
“ก็ได้ หวงตัวจังเลยนะคุณ ทีตอนโดนผมจูบยังไม่เห็นดิ้นแบบนี้” พอปล่อยลำแขนจากไหล่มนได้ เขาเย้าหญิงสาวด้วยการเอ่ยถึงจูบกระชากวิญญาณในห้องพักหรูเมื่อครู่ “ว่าแต่เมื่อกี้หวานมากเลยนะ”
“อะไรหวาน” ธัญชนกสะบัดเสียงถาม ไม่กล้าสมตาคู่คมกริบด้วยซ้ำ
“ปากคุณไง ผมชักอยากลองจูบกับคุณอีกสักครั้งซะแล้วสิ” พูดจบใบหน้าคมคร้ามพร้อมดวงตาคมก้มต่ำลงหาธัญชนกไม่ให้หญิงสาวได้ตั้งตัว เท้าเรียวถอยห่างราวกับใต้พื้นรองเท้าเหยียบลงบนถ่านไฟ
“พูดบ้าๆ” ไม่รู้จะต่อว่าเขาอย่างไร ในเมื่อเธอเคลิ้มไปกับจุมพิตที่ไม่เคยพานพบจากเขาจริงๆ ให้ตายหน้าแตกยับเยิน ที่ปล่อยให้ผู้ชายแปลกหน้าอันเป็นที่หมายตา เพื่อจับทำแผนหลอกลวงบิดาเล่นงานซะไร้หนทางต่อสู้ ธัญชนกแอบซ่อนแก้มเนียน จากสายตาช่างเร้าโรมจากผู้ชายเจ้าเสน่ห์ เพียงแค่พบเห็นในเสี้ยววินาที
ทั้งสองก้าวเข้าไปในห้องอาหารหรูของโรงแรมปริ้นเซส ธัญชนกกวาดตามองหาบิดา ซึ่งเห็นใบหน้าท่านเจืออาการกระวนกระวายอยู่ตรงโต๊ะของท่านไม่ได้มีท่านเพียงคนเดียว ตามที่ธัญชนกได้คาดการไว้แต่แรกบิดามากับคนอื่นตามที่คาดไว้
“สวัสดีค่ะคุณป๋า” เสียงหวานเอ่ยทักทายบิดา ท่ากำลังยกนาฬิกาขึ้นดูเวลา เธอมาถึงล่าช้าผิดวิสัยคงตรงเวลา รวมเวลาที่เสียไปกับอุบัติเหตุบนท้องถนน กระทั่งถูกพาขึ้นไปบนห้องกับเซบาสเตียน ร่วมชั่วโมง ซึ่งเป็นการเสียมารยาทอยู่สักหน่อย
“สองมาแล้วหรือลูกป๋าเป็นห่วงแทบแย่ ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับลูก ไหนลองเล่าให้ป๋าฟังซิ” พ่อหม้ายเมียตายลูกติดสอง มักอ่อนโยนสุขุมกับลูกๆเสมอ ตั้งแต่เสียภรรยาไปเมื่อต้นปี รณกรที่มุมานะสนใจแต่เรื่องงาน จำต้องหันมาใส่ใจลูกๆบ้าง หลังจากที่ภรรยาป่วยกระเสาะกระแสะ เข้าออกโรงพยายามเป็นว่าเล่นราวกับเดินห้างสรรพสินค้าในช่วงที่มีการโปรโมชั่นสินค้าลดราคาซะอีก
“อุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ เคลียร์กันลงตัวแล้ว” หญิงสาวบอกสาเหตุที่ทำให้ล่าช้าในการเดินมาพบบิดาไม่ครบทุกประเด็น ด้วยประเด็นหลังไม่อาจเผยได้ และตัวตนเหตุยังถูกเก็บไว้ตรงมุมหนึ่งของห้องอาหาร
“มาก็ดีแล้ว นี่ป๋าจะแนะนำให้รู้จักเพื่อนของป๋า” ความจริงแทบไม่เรียกว่าเพื่อนด้วยซ้ำ คือลูกค้าเก่าแก่ติดต่อทำการค้าการมาเนิ่นนานมากกว่า นายรณกร อิทธิชัยกุล ประกอบธุรกิจเต้นท์รถมือสองส่วนใหญ่มีแต่รถยุโรป ซึ่งกำลังเฟื่องฟูอยู่ในขณะนี้แล้วคุณทิพย์อาภาคือลูกค้าคนสำคัญ ที่มักส่งออเดอร์รถมือสอง สภาพยิ่งกว่ารถป้ายแดง เพื่อไปใช้ในโรงงานผลิตเสื้อผ้าของนางอยู่บ่อยๆ จึงติดต่อกันเป็นประจำ เมื่อเร็วๆมานี้บุตรชายคนโตของคุณทิพย์อาภาก้าวขึ้นมารับตำแหน่งแทนบิดา ชายหนุ่มอนาคตไกล ทางคุณทิพย์อาภาคุยชวนหัว จริงๆคือปรึกษากับคุณรณกร เพื่อหาคู่ให้ลูกชายกับลูกสาวเพื่อลงเอยกัน ชายหนุ่มเรียนจบจากเมืองนอก ส่วนธัญชนกเพิ่งคว้าปริญญาตรีมาให้บิดาหมาดๆ นับว่าเหมาะสมกันอย่างยิ่ง
“ค่ะป๋า” ธัญชนกหย่อนก้นลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับแขกคนสำคัญมากของบิดา ระบายยิ้มบางให้กับบิดาและแขก
“นี่คุณทิพย์อาภาลูกค้าคนสำคัญของพ่อ” หญิงสาวพุ่มมือไหว้ พลางส่งยิ้มน่ารักเน้นแก้มป่องให้กับคุณทิพย์อาภาที่บิดาแนะนำ
“นี่ลูกสาวคนเดียวของผมครับคุณทิพย์หนูสอง”
“แหม...ไหว้พระเถอะหนู หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก กิริยางดงาม สมกับที่คุณกรว่าไว้จริงๆ ว่าแต่มีลูกชายอีกคนไม่ใช่หรือคะ วันนี้ไม่มาด้วยหรือคะ” คุณทิพย์อาภารับไหว้หญิงสาว ดูหน้าตาน่ารักเหมาะสมอย่างมากที่จะจับคู่กับบุตรชายสุดหล่อของตัวเอง แต่จนป่านนี้เลยเวลานัดร่วมชั่วโมง เจ้าบุตรชายกลับยังไม่โผล่หน้ามาสักที นางโทรศัพท์ไปตามบอกกำลังเดินทาง เดินทางหรือติดพันกับผู้หญิงที่คุณทิพย์อาภาไม่ชอบกันแน่แม่นางร้ายในจอที่มักแต่งตัวอวดเรือนร่าง
“ครับรายนั้นยังเรียนไม่จบ กำลังเรียนอยู่ปีสองชื่อหนึ่ง”
“อ้าวเป็นน้องทำไมชื่อหนึ่งละคะ”
“เป็นเคล็ดครับ ผมอยากได้ลูกชายคนแรก แต่กลับได้ลูกสาวคนแรก พอดีตั้งชื่อรอไว้แล้ว ไม่อยากเปลี่ยนคนโตเลยให้ชื่อสอง คนเล็กให้ชื่อหนึ่ง” คุณรณกรบอกที่มาของชื่อสลับกันระหว่างบุตรชายกับบุตรสาว ที่แท้อยากได้ลูกชายก่อน ครั้งแรกล่ะที่ธัญชนกได้ยินจากปากบิดา
“แปลกดีนะคะ”
“ครับผมก็ว่าแปลก แต่ภรรยาผมแปลกกว่า เห็นด้วยซะอย่างนั้น” คุณรณกรเล่าไปหัวเราะไปด้วยความอารมณ์ ที่ได้เห็นหน้าบุตรสาวโผล่มา แม้จะช้าไปนิดแต่ยังดีกว่าแม่ตัวดีต่อต้านการดูตัว หรือการร่วมรับประทานอาหารกับเพื่อนบิดาแล้วชิ่งหาย
ระหว่างการสนทนา ธัญชนก คิดหาหนทางดึงเซบาสเตียน เข้ามาในวงสนทนา แต่ยังไม่ทันไร เสียงหนึ่งดังสวนขึ้นกลางวงสนทนาที่กำลังสรวลเสระหว่างบิดากับแขกคนสำคัญซะก่อน