บทย่อ
“น้องกูไม่อยากเจอมึง” “บอกไปว่าผัวมาหา” “ไอ้!” สุรเชษฐ์สบถลั่นบ้าน ด่าเป็นชุด “กูไม่ได้ป้องกันเอาไปหลายที เผื่อท้องขึ้นมา ไปตามมาคุยกันให้รู้เรื่อง” “ไอ้นนท์มึง มึง!” สุรเชษฐ์ชี้หน้าเพื่อนมือไม้สั่น อยากจะชักปืนลูกซองมายิงกบาลเพื่อนให้กระจุย แต่เขาไม่อยากติดคุก ได้แต่โกรธหน้าดำหน้าแดง “ซื้อของมาฝากบำรุงจะได้หายป่วย ฤกษ์แต่งงานให้ผู้ใหญ่หาให้แล้ว ลดาตกลงแล้วใช่ไหม” “ตกลงบ้านป้ามึงเหรอ น้องกูไม่เอามึง” “งั้นกูฉุด” “มึงกล้าเหรอ กูยิงไส้พรุน” “กูจะคุย” รัชชานท์เท้าสะเอวมองขึ้นไปบนห้องนอนของเมียเด็ก สุรเชษฐ์ขยี้หัวตัวเอง เขารู้นิสัยเพื่อนดี ไอ้หมอนี่มันบ้า เคยมีใครขวางอะไรมันได้ “ลดาไม่อยากคุยกับมึง” “แต่กูจะคุย” “มึงกลับไปก่อน” สุรเชษฐ์เสียงอ่อนลง “ไม่ไป อีกไม่กี่วันปิดเทอม แต่งงานกันเลยกูจะได้วางใจว่าไม่มีผู้ชายที่ไหนมาเกาะแกะอีก” “มึงฟังภาษาคนรู้เรื่องไหมวะไอ้นนท์” “ฟังรู้เรื่องแต่กูไม่ไป หน้าที่ไปไม่ใช่หน้าที่กู” “เออวะ! กูเพิ่งเห็นคนหน้าด้าน” “ห้องเมียกูอยู่ไหน จะขึ้นไปคุย” “ปัดโธ่เว้ย! บอกว่าไม่ได้” รัชชานนท์ทรุดนั่งลงไปปักหลักไม่ไปไหน ถ้าเป็นคนอื่นสุรเชษฐ์คงไปตามลูกน้องมาลากมันออกไปทิ้งหน้าบ้าน แต่กับเพื่อนคนนี้เขาได้แต่ส่ายหน้าไปมา “น้องมึงท้องกูเลี้ยงเอง ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียการเรียน มีลูกกี่คนกูก็เลี้ยง น้องมึงแต่งกับกูไม่ต้องทำงานทำการอะไร จะเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี รักไปจนวันตาย ไม่ชายตาแลใคร ส่งเสียให้เรียนอีก จะเรียนจนจบปริญญาเอกก็ได้นะ” “กูอ่อนใจกับมึง” สุรเชษฐ์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามกับเพื่อน “กูจะไม่เจ้าชู้” “ก็น้องกูไม่เอามึง” “มึงให้กูฉุดลดาไปกกสักอาทิตย์รับรองว่าต้องใจอ่อนแน่ๆ” “ไอ้เพื่อนห่า จะฉุดน้องกูท่าเดียว มึงเป็นเด็กมีปัญหาหรือไงวะ” “ตอนนี้กูเป็นคนแก่มีปัญหา เด็กมันไม่เอาทำผัว” สุรเชษฐ์ไม่รู้จะขำหรือจะด่าเพื่อนยังไงดี ดูมันพูดแต่ละอย่าง
1
เสียงกริ่งหน้าบ้านทำให้รมิดาเดินไปเปิดประตูบ้าน แต่เธอต้องชะงักเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตู
“เรน...” เกริกพลเรียกภรรยา ก่อนรีบแทรกตัวเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
“ออกไปเลยนะคะ ใครอนุญาตให้คุณเข้ามาในบ้าน” น้ำเสียงเย็นชา ของเธอไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านแต่อย่างใด เขาเข้าใจว่าเธอกำลังโกรธ แต่เรื่องราวจริงๆ มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด
“คุยกันก่อนสิเรน”
“คุณเกริกพลคะ ถ้าคุณยังพูดไม่รู้เรื่อง ฉันจะแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุกนะคะ” เธอพูดกับเขาเสียงเขียว เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย เขานอกใจไปมีผู้หญิงอื่น เธอจะทนได้ยังไงกัน
“เรียกเสียห่างเหิน นี่มันบ้านของผมด้วยนะครับคุณรมิดา ตำรวจคงไม่ไล่เจ้าของบ้าน ออกจากบ้านของตัวเองหรอกนะ” เกริกพลยียวน เขาเดินเข้าบ้านหน้าตาเฉย ปล่อยให้ภรรยายืนหน้าเครียดอยู่ที่ประตู
“คุณพ่อ” เมื่อนาเดีย... เด็กหญิงตัวน้อยวัยหกขวบเห็นบิดาเข้าก็รีบวิ่งเข้าไปหาในทันที
“คิดถึงลูกหมูตัวน้อยของพ่อจังเลยครับ” เขาอ้าแขนอุ้มร่างน้อยขึ้นสู่อ้อมอก กอดหอมบุตรสาวด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ รมิดาเม้มปากเข้าหากันแน่น มองสองพ่อลูกอย่างไม่สบอารมณ์
“ไหนพี่แม็กบอกว่าจะไม่มายุ่งกับเราสองแม่ลูกอีกแล้วไงคะ” เธอเอ่ยทวงถามสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ เผลอเรียกเขาว่าพี่เหมือนก่อน
“ตอนไหนเหรอเรน พี่จำไม่ได้” คนหน้ามึนเอ่ยถาม เธอแทบเต้นเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น
“พี่แม็ก!” เธอเรียกเขาเสียงเขียว
“เมียจ๋า อย่าหน้าบึ้งสิ นาเดียดูคุณแม่สิครับ หน้าบึ้ง หน้าเขียวหน้าเหลือง เหมือนยักษ์ไหมครับ” เกริกพลอุ้มบุตรสาวตัวน้อยเข้าไปใกล้คนหน้าบูด ชี้ชวนให้ดู นาเดียเลยหอมแก้มมารดาฟอดหนึ่งอย่างเอาใจ คนถูกหอมแก้มยกมือขึ้นกุมแก้มตัวเอง บรรเทาความโกรธลงไปได้เยอะมาก ก่อนจะค้อนบุตรสาวตัวน้อย
จ๊วบ!!! เสียงจ๊วบอีกฟอดไม่ได้มาจากลูกสาวตัวน้อย แต่มาจากอดีตสามีที่เธอไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวด้วย รมิดาตาโตเมื่อโดนหอมแก้มแบบไม่ทันตั้งตัว
“พี่แม็ก”
“แก้มห้อมหอม จริงไหมครับหนูเดีย” เขาหันไปหาแนวร่วม นาเดีย รีบพยักหน้าทันที
“จริงด้วยค่ะคุณพ่อ”
“วันนี้มีอะไรกินบ้างครับ พ่อหิวจัง ยังไม่ได้กินอะไรเลย” คนพูดลูบท้องไปมา ออดอ้อนบุตรสาวด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร
“ไม่มีอะไรให้กินค่ะ พี่แม็กกลับไปเลยนะ ที่นี่ไม่ต้อนรับพี่” รมิดาเดินตามสองพ่อลูกไปไม่ห่าง เธอรีบพูดโต้ตอบกับเขาในทันที
“มีค่ะคุณพ่อ วันนี้คุณแม่ทำขาหมูพะโล้ ปลาผัดขิง หมูสามชั้นทอดไข่เจียวกุ้งสับ แล้วก็ยำมะม่วงอีกอย่างด้วยค่ะ”
“น่ากินจังเลย พ่อขอกินด้วยคนได้ไหมครับ” รมิดาโกรธจนตัวสั่นที่ สองพ่อลูกคุยกันกะหนุงกะหนิงไม่ยอมหันมาคุยกับเธอบ้างเลย ทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน มันน่าน้อยใจนัก...
“ไม่ได้!” รมิดารู้สึกเหมือนพูดอยู่คนเดียว
“ทำไมคุณแม่ใจร้ายจังล่ะครับหนูเดีย” เกริกพลหันไปฟ้องบุตรสาวทำตาปรอย หน้าละห้อย
“คุณแม่ขา... ให้คุณพ่อกินขาหมูพะโล้กับเราด้วยนะคะ คุณพ่อหิว นาเดียสงสารคุณพ่อค่ะ” คนที่รักบิดายิ่งชีพบีบน้ำตา กอดคอ ซบที่อกกว้าง ท่าทีสงสารจับใจ รมิดาเม้มปากแน่น พูดไม่ออก บอกไม่ถูก จะตัดรอนลูกก็กลัวนาเดียเสียใจ
ตวัดสายตาไปมองหน้าพ่อของลูกแล้วค้อนควัก เขารู้จักเข้าหาลูก เรียกร้องความสงสาร เธอรู้สึกว่าตัวเองน้ำท่วมปาก จะไล่เขาก็เห็นใจบุตรสาว ที่รักบิดามาก และยิ่งนาเดียไม่ได้พบเจอกับบิดาหลายวัน คงอยากอ้อนเป็นธรรมดา
“คุณแม่อนุญาตนะคะ”
“อยากจะทำอะไรก็ทำไปเลย” เธอโมโหอย่างที่สุด เขาจะกลับมาอีกทำไม เขามีผู้หญิงอื่นไม่ใช่เหรอ จะมายุ่งกับเธอกับลูกอีกทำไม คนเจ้าชู้แบบเขาไม่สมควรจะเอามาเป็นสามีตั้งแต่แรก
“คุณแม่อนุญาตแล้วค่ะคุณพ่อ” นาเดียรีบบอกบิดา เกริกพลยิ้มให้บุตรสาว มองตามร่างภรรยาไปจนสุดตา
เขายอมรับว่าเมื่อก่อนเคยเจ้าชู้ แต่หลังจากได้รู้จักเธอและตัดสินใจแต่งงานกัน เขาก็เลิกพฤติกรรมพวกนั้นหมดแล้ว เขาเคยบอกตัวเองว่าหากเจอคนที่ใช่ เขาจะเลิกกับผู้หญิงทุกคนและซื่อสัตย์กับผู้หญิงที่รักเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ผู้หญิงก็ยังวนเวียนเข้ามายุ่งกับเขาอยู่ไม่ขาด ทำให้รมิดาเข้าใจผิด