๒.๑ รอยรักชีคจอมเถื่อน
๒
รอยรักชีคจอมเถื่อน
แสงสีส้มนุ่มตาสว่างเรืองรองสาดส่องมาจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกของเมืองหลวงในเช้าตรู่วันใหม่ ตึกรามบ้านช่องมีเสียงจ้อกแจ้กจอแจของคนที่ต้องตื่นไปทำภารกิจแข่งกับเวลา และบนถนนก็คึกคักด้วยการจราจรของรถรายี่ห้อต่างๆ อีกครั้ง แพรมุกตื่นขึ้นแต่เช้าและแต่งตัวอย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษเพราะเช้านี้เธอต้องไปปรากฏตัวที่ห้องชาฟากีย์ สาวน้อยบรรจงแต่งหน้าอย่างประณีตเพื่อให้ดูสวยสะดุดตามากที่สุด และเน้นความโดดเด่นตรงช่วงอกอิ่มเป็นพิเศษเช่นเดิม ด้วยหวังจะลบภาพความเปิ่นของตัวเองที่ทำไว้เมื่อวานให้ออกจากสมองของเขาจนหมดสิ้น ร่างอรชรหมุนซ้ายหมุนขวาอยู่หน้ากระจกจนมั่นใจว่าตัวเองดูดีแล้วจึงออกไปฝึกงานที่โรงแรมตั้งแต่ยังไม่ได้เวลาเริ่มงาน เมื่อไปถึงก็จัดการชงกาแฟสุดฝีมือ จากนั้นก็ขึ้นไปยังห้องเป้าหมายทันที
ก๊อก... ก๊อก...
มือเรียวเล็กยกขึ้นเคาะห้องตามมารยาทก่อนจะผลักประตูเข้าไป
“ฉันเอากาแฟมาให้ตามสัญญาค่ะ” เสียงหวานเอ่ยเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพบว่าเจ้าของห้องยังนอนอยู่บนเตียงโดยไม่ได้ห่มผ้า ร่างใหญ่อยู่ในสภาพเปลือยท่อนบนส่วนท่อนล่างมีเพียงชั้นในตัวเดียวปกปิดอยู่ แพรมุกหน้าแดงระเรื่อเมื่อเห็นจะจะว่าความเป็นบุรุษของเขาโดดเด่นขึ้นอย่างประเจิดประเจ้อมากแค่ไหน
สีหน้าของชาฟากีย์ยังคงงัวเงีย แต่ก็ยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาในห้องของตัวเองคือสาวน้อยจอมซุ่มซ่ามที่เขาพามาในห้องเมื่อวาน ชายหนุ่มอดขำตัวเองไม่ได้เพราะนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาพาผู้หญิงเข้าห้องแล้วปล่อยให้เจ้าหล่อนเดินออกไปโดยที่เขาไม่ทำอะไร
“ทำไมมาแต่เช้าจัง” เสียงเข้มถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูสนิทสนม แต่แพรมุกนี่สิเริ่มสั่นเป็นเจ้าเข้าแล้วเพราะไม่ทันคิดว่าจะเข้ามาเจอเขาในสภาพที่ชวนใจหวิวๆ แบบนี้
“เออ...ฉันขอโทษค่ะ นึกว่าคุณตื่นแล้วก็เลยเข้ามา คุณจะให้ฉันวางกาแฟไว้ที่ไหนคะ”
“เอามาวางที่โต๊ะข้างๆ หัวเตียง” เขาบอกแค่นั้นก่อนจะลุกขึ้นนั่งพิงพนักเตียงโดยไม่คิดจะหาผ้าห่มมาคลุมปกปิดร่างกายตัวเองอย่างที่แพรมุกอยากให้เป็น
สาวน้อยรีบยกกาแฟไปวางให้เขาที่โต๊ะข้างหัวเตียงตามคำสั่งเพื่อที่จะได้ออกไปจากห้องนี้ไวๆ ขืนอยู่นานกว่านี้มีหวังได้หัวใจวายตายเพราะความหล่อเหลาและสภาพอันหมิ่นเหม่ของผู้ชายมากเสน่ห์คนนี้แน่ๆ
“เรียบร้อยแล้วนะคะ เชิญคุณพักผ่อนต่อตามสบายค่ะ ฉันต้องขอโทษอีกครั้งที่เข้ามารบกวนคุณแต่เช้า” เสียงหวานเอ่ยขึ้นหลังจากวางกาแฟลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้วจากนั้นก็หมุนตัวทำท่าจะเดินออกไปข้างนอก แต่เจ้าของเสียงเข้มเอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน
“เดี๋ยวก่อนสิ”
“คุณต้องการอะไรอีกหรือคะ” แพรมุกเอ่ยถามหลังจากหันกลับมา
“ผมต้องการให้คุณวางถาดแล้วมานั่งตรงนี้” ชาฟากีย์ออกคำสั่งพร้อมทั้งตบมือลงบนที่ว่างตรงขอบเตียงข้างๆ เขา
“ฉันว่าไม่เหมาะมั้งคะ คุณเป็นแขกของโรงแรม ฉันเป็นพนักงานทำแบบนั้นมันเหมือนไม่ให้เกียรติแขกค่ะ” สาวน้อยหาหนทางปฏิเสธเพราะยังไม่รู้เจตนาของเขา
“เหมาะหรือไม่เหมาะผมเป็นคนตัดสินเอง เมื่อกี้คุณถามผมว่าต้องการอะไรไม่ใช่หรือ แล้วทำไมคิดจะขัดใจผมซะล่ะ”
“เอ่อ...ก็ได้ค่ะ”
แพรมุกรับคำอย่างค่อนข้างประหม่า ก่อนจะเดินกลับไปวางถาดลงบนโต๊ะ แล้วจึงขยับไปนั่งลงบนขอบเตียงพลางบอกตัวเองในใจว่าคงไม่มีอะไร ผู้ชายหล่อๆ อย่างเขาคงไม่มองผู้หญิงธรรมดาๆ เช่นเธอหรอก แต่ถ้าเกิดเขาเป็นประเภทผู้ชายบ้ากามล่ะ เธอจะทำยังไง สองวันนี้เธอยิ่งอึ๋มๆ อยู่ด้วย!
สมองของแพรมุกเต็มไปด้วยความคิดเห็นสองฝ่ายที่ขัดแย้งกันหากทว่าความคิดอันวุ่นวายของแพรมุกก็สิ้นสุดลง เมื่อชาฟากีย์สอดแขนข้างหนึ่งเข้ามาล็อกเอวเล็กของเธอไว้ แล้วลากเข้าไปใกล้เขามากขึ้นกว่าเดิม
“นี่คุณจะทำอะไร??” เสียงหวานโวยวายอย่างตกใจ
“คิดว่าผมจะทำอะไรล่ะ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นโดยที่สีหน้าของเขายังคงเรียบเฉย แพรมุกจึงเบิกตากว้าง คิดว่าเขาจะต้องลวนลามหรือทำอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะคะ ถ้าคุณลวนลามฉัน ฉันแจ้งตำรวจจับคุณแน่ อย่าคิดว่าเป็นแขกวีไอพีของโรงแรมแล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรนะ” สาวน้อยขู่ฟ่อรัวเป็นชุด
ชาฟากีย์หัวเราะออกมาเหมือนกับขบขันท่าทางที่กำลังตื่นเต้นแกมโวยวายของเธอ “จะแจ้งจับในข้อหาอะไรล่ะ”
“ลวนลาม ข่มขืน ข้อหาหนักๆ ทั้งนั้นเลยนะ ฉันรับรองว่าคุณได้ติดคุกหัวโตแน่”
คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงราวกับได้ยินสิ่งประหลาด “ข่มขืนงั้นหรือ ฟังดูน่าสนใจดีนะ”
“ฉันไม่ได้ขู่นะฉันเอาจริง” แพรมุกยังขู่ฟ่อ ตั้งใจว่าจะขัดขืนให้ถึงที่สุดถึงแม้จะรู้สึกว่าเขาเร้าใจมากแค่ไหนก็เถอะ แต่เธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆ ที่จะยอมให้เขาทำอะไรตามใจชอบก็ได้
“ตกลง ผมจะรอตำรวจที่ห้องนี้ก็แล้วกัน”
พูดจบชาฟากีย์ก็ลากร่างของแพรมุกเข้าไปใกล้กว่าเดิม จากนั้นมืออีกข้างที่ว่างก็จัดการแกะกระดุมเสื้อสองเม็ดบนของแพรมุกออกอย่างคล่องแคล่ว สาวน้อยดิ้นรนสุดกำลัง มือเล็กๆ ทุบบนไหล่แกร่งของเขาไม่ยั้ง
“อย่าทำอะไรฉันนะไอ้บ้า ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่านะ”
“หยุดดิ้นไม่อย่างนั้นจะข่มขืนให้ยับ” เขาขู่เสียงดุดันจริงจัง
“คุณก็หยุดข่มขืนฉันด้วยสิ”
“เคยถูกข่มขืนหรือไงถึงได้รู้ว่าผมกำลังจะข่มขืน”
“คนบ้า ถามอะไรบ้าๆ”
“ถ้าอย่างนั้นก็อยู่เฉยๆ หยุดดิ้น หยุดโวยวาย” ชาฟากีย์พูดเหมือนรำคาญ ทั้งๆ ที่เขากำลังลวนลามเธออยู่แท้ๆ คนอะไรทำท่ารำคาญได้ตลอดเวลา แพรมุกทำอะไรไม่ถูกจึงได้แต่ทำหน้าเหวอๆ อย่างงงๆ ชาฟากีย์จึงใช้โอกาสนั้นก้มสำรวจปทุมถันอวบอิ่มซึ่งถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเสื้อลูกไม้ดันทรง เขาคลี่ยิ้มเล็กน้อยพลางดึงอะไรบางอย่างออกมาจากส่วนนั้นทีละข้าง แล้วโยนทิ้งก่อนจะกลัดกระดุมเสื้อให้เธอเช่นเดิม
“คุณทำอะไร?” แพรมุกถามอย่างอับอายสุดชีวิต ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีผู้ชายแบบนี้ในโลก เขาทำท่าเหมือนจะปล้ำเธอแต่สุดท้ายเขาก็ทำเพียงแค่จะดึงฟองน้ำที่เธออุตส่าห์ยัดไว้ออกอย่างนั้นหรือ โอ๊ยตายแล้ว อะไรจะน่าขายหน้าขนาดนี้ แล้วไอ้ที่โวยๆ ไปนั่นล่ะ คราวนี้จะเอาหน้าไปไว้ไหน
“ผมไม่ชอบอะไรที่มันจอมปลอมน่ะสาวน้อย หน้าอกคุณก็ไม่ได้ขี้ริ้ว ขี้เหร่อะไรนี่ ทำไมจะต้องยัดฟองน้ำให้มันรกหูรกตา” ชาฟากีย์พูดออกมาตรงๆ
“แล้วคุณมายุ่งอะไรด้วย มันหน้าอกของฉัน ฉันจะเติมเสริมแต่งยังไงมันก็เรื่องของฉันนี่” คนถูกจับผิดเถียงข้างๆ คูๆ โดยลืมไปเสียสนิทว่าควรจะยั่วยวนเขามากกว่าเถียงเขาฉอดๆ แบบนี้
“ผมชอบแบบธรรมชาติ มันน่ามองกว่าเยอะ”
“เรื่องของคุณสิมาบอกฉันทำไม ฉันจะใส่แบบไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ”
“แน่ใจนะว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม แล้วทำไมวันแรกที่ผมเจอคุณมันไม่ได้เป็นแบบนี้ล่ะ” ชาฟากีย์ย้อนถามทำเอาแพรมุกถึงกับหน้าร้อนผ่าว วันนั้นเขาเห็นเธอไกลๆ ไม่ใช่หรือ แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงว่าวันนั้นเธอไม่ได้ใส่ดันทรงแบบตูมๆ และไม่มีฟองน้ำยัดอยู่ หรือว่าตาของเขาติดเรดาร์ที่สามารถสแกนอะไรต่อมิอะไรได้เพียงแค่มองผ่านๆ
“ไม่จริงฉันใส่แบบนี้ทุกวัน” แม้เขาจะพูดถูกแต่เธอก็ยังเถียงเพราะไม่อยากเสียหน้ามากกว่านี้
“เอาละๆ สาวน้อยผมไม่อยากเถียงกับคุณ เป็นอันว่าวันหลังคุณอย่าใส่แบบนี้ก็พอ ตกลงไหม”
“ทำไมฉันต้องตกลง” แพรมุกถามเสียงแข็งๆ
“เพราะผมขอ” ชาฟากีย์ตอบกลับมาง่ายๆ ทำเอาสาวน้อยพูดไม่ออก “แล้วนี่คุณเริ่มงานกี่โมง”
“แปดโมงค่ะ”
“งั้นก็เหลืออีกยี่สิบกว่านาที นั่งรออยู่นี่ก่อนนะ ผมไปอาบน้ำก่อน” เขาบอกหลังจากเหลือบตามองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังห้อง
“คุณอยากได้อะไรคะบอกฉันก่อนก็ได้ ฉันจะไปหามาให้”
“ผมอยากให้คุณรอผมอยู่ในนี้ เข้าใจแล้วนะ” เสียงเขายังคงเป็นแบบออกคำสั่งเช่นเดิม ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินอาดๆ ไปหยิบเอาผ้าเช็ดตัวพาดบ่าเข้าห้องน้ำไปทันที