ตอนที่ 3-3
“อาหารที่ร้านนี้อร่อยมากเลยนะคะ คุณวิไลพร โดยเฉพาะเมนูแนะนำ ปลาเจี๋ยนสามรส อร่อยมากๆ เลยค่ะ”
สุวีร์เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม หากแต่นัยน์ตากลับมีประกายของความกังวล เมื่อแอบเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ เกือบทุ่มครึ่งแล้ว อัคคีไปอยู่ไหนกันนะ เธอคิดอย่างหงุดหงิด เมื่อต้องพูดจาถ่วงเวลากับวิไลพรและลูกสาวมาแล้วพักใหญ่
“สงสัยวันนี้จะรถติดนะคะ”
วิไลพรเอ่ยขึ้นมาลอยๆ เธอเองก็ลอบมองเวลาเช่นกัน อยากจะเห็นบุตรชายคนเก่งของตระกูลเสรษฐภูมินัก ว่าตัวจริงจะหล่อเหลา เหมือนในนิตยสารบันเทิงหรือเปล่า บุตรสาวของเธอปลื้มเขาราวกับว่าชายหนุ่มเป็นเทพบุตรในดวงใจ ก็ไม่น่าแปลกหรอก รูปร่างหน้าตา ฐานะ สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง เพียงแต่ชื่อเสียงในบางเรื่องของชายหนุ่มออกจะฟังแล้วอันตราย น่ากลัวมากไปหน่อยก็ตาม ในเรื่องความเจ้าชู้ เจ้าเสน่ห์ เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น หากแต่วิไลพรก็ไม่ได้ถือสาอะไร ถ้าเกิดว่าบุตรสาวของเธอ รัญชิดาจะได้เป็นเมียแต่งออกหน้า การดองกับตระกูลใหญ่ขนาดนี้ มีแต่จะทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์
“ตาอาร์ตโทรศัพท์มาบอกเหมือนกันค่ะว่า รถติดมาก”
สุวีร์ได้ทีแก้ตัวให้กับบุตรชาย ในใจคิดโมโหอัคคีไม่น้อยที่เห็นว่าคำสั่งของเธอไม่ศักดิ์สิทธิ์พอ นี่คงจะไปร่วมงานวันเกิดของไอ้ลูกเมียน้อยนั่นสินะ นัยน์ตาของเธอหรี่ลง ซ่อนประกายร้ายกาจไว้ ก่อนจะยิ้มแย้ม แล้วเอ่ยชวนหญิงสาวที่อายุน้อยสุดในโต๊ะสนทนาเสียงอ่อนโยน
“หนูรัญสอบเสร็จแล้วใช่ไหมจ๊ะ มีโปรแกรมไปเที่ยวพักผ่อนหลังสอบที่ไหนบ้างหรือเปล่า”
“ยังไม่มีเลยค่ะ ตอนแรกคุณแม่ชวนไปยุโรป แต่หนูรัญไม่อยากไป อยากเที่ยวบ้านเรามากกว่า”
เสียงใสเอ่ยตอบ ใบหน้าอ่อนใสหวานละมุนจิ้มลิ้มราวกับตุ๊กตา ทำให้สุวีร์นึกเอ็นดูนัก น่ารักหวานแบบนี้ อัคคีคงจะชอบอยู่เหมือนกันน่ะแหละ แม้จะยังเด็กไปสักหน่อยก็ตาม แต่ปีหน้ารัญชิดาก็เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ไม่น่าครหาอะไรหรอกถ้าจะให้หมั้นหมายกัน งานนี้เธอตั้งใจจะดันคนทั้งคู่เต็มที่ ให้ได้พึงพอใจซึ่งกันและกัน ฝ่ายผู้ใหญ่ของแม่สาวน้อยรายนี้ ก็มีท่าทียินดีจะสานสันพันธ์กับครอบครัวของเธอ บางทีเธออาจจะให้คนทั้งคู่ได้สนิทสนมกันบ้าง ก่อนจะจัดการผูกมัดหมั้นหมาย
“ถ้าอย่างนั้น ป้ารู้จักรีสอร์ตสวยๆ แถวๆ กระบี่ หนูรัญสนใจไหมจ๊ะ”
สุวีร์เริ่มรุกคืบ รัญชิดามองมารดาอย่างลังเล แก้มเธอเป็นสีเรื่อขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากหญิงสาวก็พอจะรู้ตัวอยู่บ้าง ว่าการนัดรับประทานอาหารเย็นมื้อนี้ มีอะไรเคลือบแฝงอยู่ มันคือการนัดดูตัวกลายๆ นั่นเอง
มารดานำภาพของอัคคีที่ลงในนิตยสารนักธุรกิจ มาให้เธอดู ทำให้รัญชิดาถึงกับตื่นเต้นที่จะได้พบเขาตัวจริง เนื่องจากเธอหลงใหล ต้องมนต์กับสายตาคมกริบของอัคคี เมื่อแรกเห็นเขาในจอโทรทัศน์ ตอนที่เขาออกมาปฏิเสธข่าวซุบซิบกับดารานางแบบสุดเซ็กซี่ เธอเห็นข่าวเขาบ่อยๆ ตามหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิงทั้งที่อัคคีไม่ใช่ดาราสักนิด แต่ก็มีข่าวได้เกือบทุกวัน รัญชิดาหลงรักเขา ราวกับว่ากามเทพแผลงศรรักปักเข้าตรงหัวใจเธออย่างจัง หญิงสาวคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องเคลิ้มฝัน แบบที่เธอต้องเก็บไว้เพียงคนเดียวตลอดไปเสียแล้ว แต่เมื่อมารดาบอกว่า จะพาเธอมาทานอาหารเย็น กับครอบครัวเสรษฐภูมิ พูดเป็นนัยว่า เธออาจจะได้เจอกับคนในครอบครัวนี้บ่อยๆ โดยเฉพาะอัคคี มันก็ทำให้รัญชิดารู้โดยอัตโนมัติว่า มารดากำลังจะวางแผนจับคู่ให้กับเธอ ถ้าเป็นคนอื่นรัญชิดาอาจจะไม่เต็มใจ แต่นี่เป็นชายในฝันของเธอ โอกาสไขว่คว้าเขามาเป็นชายในชีวิตจริงใกล้เพียงแค่เอื้อมถึง และรัญชิดาก็ไม่อยากปล่อยให้มันหลุดลอย
“ดีเลยค่ะ อยากไปพักผ่อนพอดี ท่าทางจะสนุกนะคะ ถ้าไปกันหลายๆ คน หนูรัญกับดิฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะไปเที่ยวกัน ยังไม่เคยไปกระบี่เลยค่ะ น่าอายจัง ทั้งที่เป็นสถานที่สวยงามขึ้นชื่อ”
วิไลพรเองก็เปิดโอกาสอย่างสุดๆ เช่นกัน สุวีร์รีบรวบรัดเลยทันที
“ถ้าอย่างนั้นดิฉันอาสาเป็นไกด์ให้เองค่ะ จะได้ชวนตาอาร์ตไปด้วย ขานั้นชอบดำน้ำ รู้จักสถานที่สวยๆ ดีๆ เยอะ อืม...เอาเป็นเดือนหน้าไหมคะ”
“ดีเลยค่ะ”
คุณแม่ทั้งสองดำเนินการเชื่อมสัมพันธ์ให้กับลูกๆ ของตนเองอย่างรวดเร็ว รัญชิดาถึงกับนั่งยิ้มคนเดียว เมื่อจินตนาการเคลิ้มฝันไปไกล ถึงชายในฝันของเธอ ยามเขาและเธอไปเที่ยวที่ทะเลสวยด้วยกัน เธอจะมีความสุขมากขนาดไหนกันหนอ
“ขอโทษครับ”
เสียงห้าวๆ เอ่ยขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มที่ทุกคนกำลังรอคอย อัคคีค้อมศีรษะเล็กน้อยให้กับมารดา แล้วยกมือไหว้อีกฝ่าย พลางยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก เพียงแค่นั้นก็กระตุกหัวใจคนมองให้เต้นแรง
“สวัสดีครับ คุณวิไลพร รถติดมากเลยครับ มีอุบัติเหตุด้วย ผมเลยเสียเวลาไปนิดหน่อย เอ่อ...คุยกันไปถึงไหนแล้วครับ”
วิไลพรถึงกับขมวดคิ้ว พลางกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะยิ้มตอบอีกฝ่าย แม้จะยังงงอยู่บ้างว่าอัคคีกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่สุวีร์รีบเอ่ยขัดขึ้นมาทันที
“นั่งก่อนตาอาร์ต เดี๋ยวค่อยคุยกัน กินข้าวกันก่อน อาหารมาพอดี”
“ครับ”
อัคคีมองใบหน้าเรียบเฉยของมารดาพลางหรี่ตา สลับกับมองไปยังวิไลพร และสาวน้อยอีกคนหนึ่งที่กำลังแอบมองเขาพลางทำหน้าแดงก่ำ แบบนี้ไม่น่าจะเจรจาธุรกิจเสียแล้วกระมัง ถึงได้มาลูกสาวมาด้วยแบบนี้ มันคล้ายกับ...