ตอนที่ 2-2
‘อะไรกัน ฉันไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย มันเป็นเรื่องของตาพลกับพ่อของเธอ ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย ไปตามหาตาพลสิ’
ยุวดีตอบสั้นๆ เมื่อหลานสาวไปหา พร้อมกับเอกสาร ขอร้องให้เธอช่วยติดต่อกับบุตรชายตัวดี ปราณปรียาถึงกับอ้าปากค้าง กับสิ่งที่ไม่คาดว่าจะได้ยิน
‘แต่ว่าป้าคะ เอกสารที่ธนาคารนี้บอกว่าจะมายึดบ้านของปลา ปลาจะไม่มีที่อยู่นะคะ อย่างน้อยๆ ป้าก็น่าจะติดต่อพี่พลให้กับปลาบ้าง พ่อของปลายอมเอาบ้านค้ำประกันให้กับพี่พลนะคะ บ้านของปลา สมบัติชิ้นเดียวของปลา ถ้าไม่มีบ้าน ปลาจะไปอยู่ที่ไหน’
น้ำตาเธอเริ่มหยาดริน พร้อมกับพูดจาอ้อนวอนให้อีกฝ่ายเห็นใจเธอบ้าง หากแต่ยุวดีเพียงแค่กอดอก แล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ทำไม่รับรู้ได้อย่างน่าเกลียดนัก ก่อนจะกวาดตามองหลานสาวคนสวย ด้วยสายตาประเมิน งดงามหวานหยดย้อยแบบนี้ ทางปลดหนี้คงจะมีมากมาย สมองของยุวดีเริ่มคิดถึงหนทางที่จะได้ผลประโยชน์จากหลานสาวทันที
‘ฉันก็จะช่วยแกปลดหนี้ได้บ้าง แกสนใจไหมล่ะ สวยๆ แบบแก ไม่ต้องไปทำงานให้เหนื่อยหรอก สนใจไหม? ฉันมีเพื่อนฝูงเยอะแยะ จะได้ช่วยๆ กัน รับรองว่าแกจะสบาย หนี้สามสี่ล้านแค่นี้ไม่มีปัญหาหรอก’
‘ป้าหมายความว่ายังไงคะ’
ปราณปรียาย่นคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แต่แล้วเมื่อสบกับสายตาที่ราวกับประเมินสินค้าจากผู้เป็นป้าแล้ว ปราณปรียาก็หน้าแดงก่ำ เธอลุกพรวดขึ้นยืน และตัดสินใจขาดว่าจะไม่ยอมมาเหยียบบ้านหลังนี้อีก หนี้สินพวกนี้เธอจะหามาชำระเอง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นคนสร้างมันเลยสักสตางค์ก็ตามที...
เธอสะบัดหน้าน้อยๆ ไล่ภาพความหลังอันหดหู่นั่นออกไปเสีย การทำงานแบบนี้ทำให้เธอมีเงินมากพอจะไปชำระหนี้งวดแรก สงสัยจะต้องรับงานแบบนี้บ่อยๆ กระมัง แม้ใจเธอจะอยากทำงานประจำที่มั่นคงมากกว่าก็ตามที แต่ตอนนี้อะไรคว้าไว้ได้ก็ต้องคว้าไว้ก่อน เพื่อนของเธอ ขิง หรือ ภารดีก็ดีใจหายนัก ที่ยอมสละงานนี้ให้กับเธอ ภารดีเหมือนเป็นเพื่อนแท้ ที่อยู่เคียงข้างเธอทั้งในยามลำบากและยามที่เธอมีความสุข
“กลับด้วยกันไหมคะ”
เสียงหวานๆ เอ่ยทักทายที่หน้าห้องแต่งตัว ทำให้ปราณปรียายิ้มให้โดยอัตโนมัติ พริตตี้สาวอีกคนหนึ่งที่ร่วมงานกับเธอนั่นเอง
“เอ่อ...ก็ดีเหมือนกันค่ะ”
เมื่ออีกฝ่ายหยิบยื่นไมตรีให้ ปราณปรียาก็รีบตอบรับ เธอมองใบหน้ารูปหัวใจน่ารักของอีกฝ่าย สาวน้อยรายนี้น่าจะยังเรียนไม่จบและอายุน้อยกว่าเธอ ตลอดเวลาของการทำงานทั้งวัน สาวใสรายนี้ตั้งใจทำงานมากกว่าแม่สาวสวยเจนเวทีสามคนนั่น ที่ได้แต่กินแรงพวกเธอโดยการไม่ค่อยยอมพรีเซ้นต์สินค้า การวางท่าเซ็กซี่ยั่วยวนใส่กล้องที่พากันกดรัวชัตเตอร์ คือสิ่งที่พวกหล่อนทำ ราวกับว่าถูกจ้างมายืนสวยอย่างเดียวอย่างนั้นแหละ
“พี่ปลาพึ่งมาอยู่โมเดลิ่งของพี่มะนาวเหรอคะ”
สาวหน้าใสเอ่ยถามยิ้มๆ เธอยังดูดีแม้จะล้างเครื่องสำอางออกจนหมดจด ปราณปรียาพยักหน้า ตอนนี้พวกเธอเดินไปด้วยกันที่หน้าบริเวณงาน และตกลงกันว่าจะเรียกแท็กซี่ไปด้วยกัน เพราะเป็นเวลาค่อนข้างดึกแล้ว รถสาธารณะหาได้ยากและต้องรอนานมาก
“พี่มารับงานแทนขิงน่ะจ้ะยังไม่มีสังกัด งานนี้เป็นงานแรก”
“มิน่าล่ะ เชียร์ถึงไม่เคยเห็นพี่เลย เชียร์ไม่ค่อยได้รับงานพร้อมกับพวกพี่กี้หรอกค่ะ เจ้าที่แรง”
เธอว่าแล้วย่นจมูก ทำเอาปราณปรียาถึงกับหัวเราะกิ๊กออกมาอย่างอดไม่อยู่ เพราะประโยคที่สาวน้อยพูดตรงกับประโยคที่เพื่อนรักเตือนมาเปี๊ยบ
“ไม่รู้ว่าเจ้าที่แบบนี้ต้องเอาอะไรปัดไล่ด้วยนะจ๊ะ ของเค้าแรงจริงๆ”
คำพูดของปราณปรียาทำเอาถึงกับพากันหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่ เชียร์หรือ ชัยรัมภาพยักหน้าเห็นด้วย
“แรงจริงๆ ด้วยค่ะ เราก็ต้องทนเจ้าที่ไปอีกสักสองสามวัน พี่ปลาน่าจะเป็นดาวเด่นแทนพี่กี้ได้เลยนะคะ เพราะพี่ปลาสวยมากๆ สวยคมแบบนี้ แถมพรีเซ้นส์งานได้คล่องแคล่วมากๆ ด้วย พี่กี้ดีแต่สวยแหละค่ะ ถ้าเจ้าของงานอีเว้นท์มาเจอตัวล่ะก็ จ้างไปเป็นเอ็มซี ได้เงินเยอะนะคะ งานดีกว่าพริตตี้อีก”
“ไม่รู้สิจ๊ะ เจ้าที่แรงออกขนาดนั้น พี่ไม่รู้ว่าจะรับงานต่อดีหรือเปล่า”
ปราณปรียายักไหล่ แม้ข้อมูลที่ชัยรัมภาพูดจะน่าสนใจมากก็ตามที แต่มะนาวสาวประเภทสองเจ้าของโมเดลิ่งก็บอกแล้วว่ารับเธอเพราะเป็นตัวแทนของภารดี ไม่ได้คุยเรื่องเซ็นสัญญาถาวรแต่อย่างใด
“เชียร์ว่าพี่มะนาวน่าจะคุยกับพี่หลังงานนี้แน่ๆ เลยค่ะ เป็นเด็กพี่มะนาวงานดีนะคะ”
ชัยรัมภาว่ายิ้มๆ ขณะที่อีกฝ่ายไม่ได้คิดจริงจังนัก เธอไม่ค่อยชอบงานนี้เท่าไหร่ ความรู้สึกยามถูกมองโลมลูบจากสายตากระหายของพวกผู้ชายนั่นกระมัง ทำให้ปราณปรียารู้สึกแย่ จะอย่างไรเธอก็ไม่ได้อยากยึดงานนี้จริงจัง ปราณปรียาต้องการงานประจำมากกว่า
แต่อะไรที่ต้องการหนีหลีก มันก็ต้องกลายเป็นทางเลือกไปเสียได้ เมื่อวันต่อมา มะนาวเจ้าของโมเดลิ่งเรียกเธอไปคุย และข้อเสนอนั้นก็ทำให้ปราณปรียาต้องตอบรับไปอย่างแทบไม่ลังเล ตอนนี้เธอต้องหาเงินมาเป็นค่าผ่อนชำระหนี้ธนาคาร อะไรที่ทำให้ ปราณปรียาไม่เคยเกี่ยงเลย เธอต้องสู้เพื่อรักษาบ้านสุดที่รัก สมบัติชิ้นเดียวของตระกูลบริสุทธิ์พร ให้ได้