ตอนที่ 2-1
“หลีกไปหน่อยสิยะ เกะกะ!”
เสียงตวาดแหว ดังขึ้นมาจากสาวสวยที่เบียดชนร่างเพรียวค่อนข้างสูง กว่าพริตตี้ทุกคนที่มาทำงานนี้ ทำให้เจ้าของร่างสูงถึงกับเซไปเล็กน้อย นัยน์ตาคมสวยมองใบหน้าสวยจัดของคนที่ชนเธออย่างไม่ใคร่จะพอใจนัก และอีกฝ่ายเองก็มองหน้าเธออย่างท้าทายเช่นกัน
ตาต่อตาประสานกันอย่างไม่ยอมหลบ เจ้าถิ่นที่ยึดครองตำแหน่งสาวสวยที่สุดในโมเดลิ่งที่จัดพริตตี้ชุดนี้มาออกงานมอเตอร์โชว์งานนี้ มองหน้าสวยคมของอีกฝ่ายราวกับจะประเมิน มองกวาดแบบจ้องจับผิดกันทุกจุดเลยทีเดียว
ใบหน้าเรียวรูปไข่ คิ้วกันได้รูปสวย นัยน์ตาคมหวานระยับ ขนตาดกดำแบบชนิดแค่ปัดเพียงมาสคาร่าก็ไม่ต้องใช้ขนตาปลอมเพื่อเน้นให้ตาคมหวานแบบคนอื่นๆ ก็สวยระยับจับใจ จมูกโด่งปลายรั้นเชิด แบบที่ศัลยกรรมพลาสติกที่ไหนก็คงจะทำได้ไม่เป็นธรรมชาติแบบนี้ ริมฝีปากรูปกระจับสวย เจ้าหล่อนมีลักยิ้มเก๋ไก๋ที่แก้มด้านซ้าย ยามเม้มริมฝีปากแบบนี้ยิ่งเห็นชัด เรือนผมยาวตรงดำสนิท ยิ่งเน้นกรอบหน้าสวย รูปร่างเพรียวระหงไร้ไขมันส่วนเกิน ผิวเป็นสีน้ำผึ้งนวลเนียน ยิ่งอยู่ในชุดสีงาช้างแบบเกาะอกจนเห็นทรวงสาวอวบอิ่ม เว้าเปิดหน้าท้องเรียบเนียน และสั้นจนอวดเรียวขาได้รูปนั่น ก็ยิ่งทำให้คนมองถึงกับหรี่ตา แอบนึกอิจฉาในใจ และชื่นชมคนตรงหน้าอย่างเผลอลืมตัวไปชั่วครู่ ว่าธรรมชาติช่างสลักเสลามาได้อย่างสวยงามลงตัวเสียจริงๆ เธอเสียอีกที่ต้องไปศัลยกรรมมาหลายจุดกว่าจะได้ความงามไร้ที่ติแบบที่ต้องการ
“มองทำไมเด็กใหม่?”
เสียงเอ่ยถามอย่างยียวนดันขึ้น ทำให้เด็กใหม่เผลอกำมือ ก่อนจะท่องขันติในใจ เพื่อนเธอเตือนแล้วว่า ‘เจ้าที่’ แรงไม่ใช่ย่อย ตอนแรกก็เพียงนึกขำ เพราะว่าไม่เคยทำงานนี้มาก่อน จึงไม่คิดว่าจะมีการแก่งแย่งชิงดีกันแบบนี้ เธอนึกว่าต่างคนต่างรับงานกันเสียอีก
“ขอโทษด้วยค่ะ”
เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นอย่างพยายามปรับไม่ให้ห้วนนัก แม้เจ้าตัวจะไม่พอใจก็ตาม แต่เธอต้องทำงานที่นี่อีกอย่างน้อยสองสามวัน ค่าแรงที่แพงลิบลิ่ว มันไม่คุ้มถ้ามีเรื่องมีราวจนต้องถูกปลด ตอนนี้เงินทุกบาทสำคัญมาก จะมาเอาแต่อารมณ์ไม่ได้เด็ดขาด
“มาแทนขิงเหรอ?”
‘เจ้าที่’ ยังไม่ยอมเลิกราวีง่ายๆ สายตามองเด็กใหม่ด้วยความอิจฉาอย่างเปิดเผย สวยจัดขนาดนี้ ใหม่ๆ ขนาดนี้ มีหวังพวกเธอได้ตกกระป๋องแน่ถ้าแม่นี่อยู่ต่อไปอีกนานๆ ตอนนี้คุณาลัยกำลังเป็นดาวของโมเดลิ่งแห่งนี้ และคงจะปล่อยให้ตำแหน่งนี้หลุดลอยไปยังคนอื่นไม่ได้ เธอกอดอกแล้วมองอีกฝ่ายอย่างเขม่น โดยมีพริตตี้อีกสองสาวที่เป็นเพื่อนซี้ของคุณาลัยขนาบข้าง มองจ้องเด็กใหม่ด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเหมือนๆ กัน
“ค่ะ มาแทนขิง”
เสียงใสตอบแผ่ว พยายามยิ้มหวานให้มากที่สุด พยายามทำตาเบลอๆ เพื่อนึกว่าหน้าของสาวคนนี้เป็นธนบัตรใบละพันบาท ท่องไว้ปลา ท่องไว้ เงิน เงิน เงิน ห้ามอาละวาด เรายังตกงาน ยังหางานทำไม่ได้....
“หวังว่าคงจะไม่มาบ่อยๆ นะ ฉันไม่ชอบหน้าหล่อน ทำอะไรอย่างให้เด่นนัก ระวังจะโดนดี”
คุณาลัยข่มขู่ ก่อนจะสะบัดหน้าเดินเบียดชนเธออีกรอบ แล้วเดินจากไป อีกสองสาวก็ทำตามแบบคุณาลัย ด้วยการเบียดชนร่างเพรียวจนเซนิดๆ ก่อนจะหันมาสำทับเสียงแหลมพร้อมกัน
“ระวังจะโดนรับน้องนะยะ อย่ามาทำสวยเด่น เริ่ดมาก โมเดลิ่งของพี่มะนาว กี้สวยที่สุด เด่นที่สุดย่ะ อย่ามาแย่งตำแหน่ง ไม่อย่างนั้นโดนดีแน่ ๆ”
“ทำยังกับว่าเราอยากทำนักอย่างนั้นแหละ นี่ถ้าไม่เห็นแก่เงินนะ แม่จะชกโครม ให้ปากแตก ดั้งยุบจนต้องไปทำใหม่อีกรอบเลย”
เมื่อลับหลังสามสาวแล้ว ปราณปรียาก็บ่นเบาๆ กับตนเอง พร้อมกับมองเรือนร่างงามที่สวมชุดวาบหวิวอยู่ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ วันนี้เธอทำงานนี้เป็นครั้งแรก รู้สึกขยาดกับสายตาของผู้ชายที่มองลูบโลม แต่ก็จำต้องยิ้ม และพูดตามสคริปที่ไปฝึกฝนมา การเป็นพริตตี้ไม่ใช่แค่มายืนอวดความงามอย่างเดียว เธอต้องพรีเซ้นสินค้าได้ด้วย ซึ่งมันก็คุ้มกับเงินที่จ้างมาให้เป็นตุ๊กตาแสนสวยประดับสินค้าหรู ปราณปรียาคิดแล้วถอนใจ เธอเดินเข้าห้องแต่งตัวเพื่อจะเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับบ้าน บ้านสุดที่รักของเธอ หญิงสาวคิดแล้วพลางเม้มริมฝีปาก ความเครียดปรากฏบนใบหน้างามทันทีเมื่อคิดถึงใบแจ้งหนี้ และเอกสารเร่งรัดจากธนาคาร
ปราณปรียา ต้องกลายเป็นสาวสู้ชีวิตอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทั้งที่ตอนแรกครอบครัวของเธอมีพรั่งพร้อม มีอนาคตที่สดใสกวักมือรอเธออยู่ หากแต่กลับเหมือนมีมือมืดอันร้ายกาจมากระชากทุกสิ่งไปจากเธอ บิดามารดาที่พึ่งเคยจะขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรก พวกท่านตั้งใจใช้เงินเก็บไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ต้องประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก เสียชีวิตตั้งแต่เธอเรียนอยู่มัธยมปลาย เงินชดเชยที่ได้แม้จะมีจำนวนมาก แต่บางส่วนก็ถูกญาติที่ทำเป็นเหมือนว่าดีต่อหน้า หากแต่แฝงเร้นความชั่วไว้ มาโกงมันไปจากเธอจำนวนมาก เหลือเพียงเงินติดบัญชีให้กับปราณปรียาในหลักแสน และบ้านอีกหลังที่เป็นมรดกของพ่อและแม่ของเธอ
เธอกระเบียดกระเสียร ทำงานทุกอย่างส่งเสียตัวเองจนเรียนจบ พร้อมๆ กับวาดอนาคตให้กับตัวเอง เธอต้องอยู่ให้ได้ เพราะว่าพ่อและแม่ให้ชีวิตอันแสนจะคุ้มค่ากับเธอมา ถ้าเกิดปราณปรียาท้อถอย และทำร้ายตัวเอง พวกท่านจะเสียใจมากแค่ไหน การคิดแบบนี้ทำให้หญิงสาวแม้จะเหน็ดเหนื่อยกับงานและการเรียน แต่ก็มีความสุขบ้างกับการวาดอนาคตให้กับตัวเอง ปราณปรียาใฝ่ฝันอยากจะเปิดร้านเบอเกอรี่เล็กๆ เธอชอบทำอาหาร ทำขนม จึงอยากจะมีร้านน่ารักๆ เป็นของตนเอง เธอเก็บเงินไว้ทุกบาท เพื่อตั้งใจจะทำร้านตามที่ได้ฝันไว้
แต่ตอนนี้เหมือนจะมีอุปสรรค ถาโถมเข้ามา เมื่อธนาคารแจ้งว่าบ้านของเธอ กลายเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเงินกู้ และลูกหนี้รายนั้นก็หายสาบสูญไป จึงจะต้องยึดบ้านเธอไปขายทอดตลาด หรือไม่เธอก็ต้องชดใช้หนี้สินแทน ปราณปรียารับทราบข่าวร้ายนี้ด้วยใจแทบจะแหลกสลาย เออหนอ...ฟ้าจะกลั่นแกล้งเธอไปอีกนานแค่ไหนนะ เธออุตสาหะจนเรียนจบ กำลังจะเริ่มทำงานเก็บเงินเพื่อมีร้านขายขนมอย่างที่เธอใฝ่ฝัน แต่แล้วต้องมาเป็นหนี้จำนวนเป็นล้านแบบนี้ ภาระแบบนี้ที่ต้องแบกรับทั้งที่ไม่ได้ทำ ทำให้เธอนึกท้อยิ่งนัก แต่จะอย่างไรเธอก็ปล่อยให้บ้านนี้หลุดลอยไปไม่ได้ มันเป็นสมบัติของบิดามารดาที่เธอต้องรักษาไว้จนสุดความสามารถ ปราณปรียาจึงเริ่มเจรจากับธนาคาร รวมถึงทำการหาเงินมาผัดผ่อนหนี้สินก้อนโตนั้น และไม่ว่าจะต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหน เหนื่อยแค่ไหน เธอก็ต้องรักษามันไว้ให้ได้
เธอมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก ที่สะท้อนหญิงสาวหน้าสวยคม งดงามแบบหาตัวจับยากมองกลับมา นัยน์ตาคมหวานมีประกายตาเหนื่อยอ่อน นึกถึงถ้อยคำดูถูกของญาติของบิดา ที่พูดมาลอยๆ ตอนที่เธอตากหน้าไปหา ก็ทำให้ปราณปรียานึกโมโหนัก