5 รสนาทะเลาะกับพ่อ
“ไปทำไมวะโรงพยาบาล มันจะไปสมัครเป็นพนักงานทำความสะอาดรึยังไง บ้านมีไม่อยู่ ดันไปอยู่ที่นั่น นังนี่วอนเจ็บตัวอีกแล้ว”
คิ้วเข้มหนาแต่ไร้ระเบียบขมวดเข้าหากัน ปากเบี้ยวนิดๆ ในขณะที่พูด โดยไม่รู้ว่าแต่ละถ้อยคำที่กล่าวออกมานั้นทำร้ายดวงใจน้อยๆ ยับเยิน เจ็บปลาบจนร่างผอมสั่นระริก จับจ้องมองพ่อตลอดเวลา นึกเห็นภาพนารินที่นอนนิ่ง มีเลือดไหลย้อยออกจากปากและจมูกแล้วใจหาย เกลียดผู้ชายที่ชอบใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้หญิงมากที่สุด
“ก็พ่อตีแม่ แม่เจ็บหนักจนต้องหามส่งโรงพยาบาล พ่อไม่เคยสนใจ นาเกลียดพ่อ นาเกลียดพ่อได้ยินไหม”
ในเวลานี้ไม่มีความกลัวอีกต่อไป รสนากล้าที่จะตะโกนใส่หน้าพ่อด้วยเสียงดังๆ ไทยชะงักไปชั่วขณะ หน้าเผือดสี ใจกระตุกวูบหนึ่ง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเกิดขึ้น มองมือตัวเองข้างที่ซัดนารินจนน่วม คิดไม่ถึงว่าเธอจะเจ็บหนัก
เขาทรุดลงนั่ง ยกมือทั้งสองข้างกุมขมับ เริ่มปวดสมองหนึบๆ มองดูลูกสาวที่ยังคงร้องไห้กรี๊ดๆ ด้วยความเกลียดชัง
“พ่อตีแม่ทำไม แม่ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”
“โอ๊ยๆ นังนา อย่าพูดได้ไหม กูปวดหัว เมียโน้นก็เรื่องมาก เมียนี่ก็จะตาย ลูกก็ด่าแต่พ่ออย่างไม่กลัวนรกจะกินกบาล ใครก็ได้ช่วยไอ้ไทยที จะบ้าตายอยู่แล้ว”
“ฮึ ทำตัวเองทั้งนั้น”
“นี่นังนา เอ็งเป็นลูกประสาอะไร ว่าพ่ออย่างนี้หา เดี๋ยว ปั๊ด”
ไทยเงื้อมือหนาขึ้นมาอีก ทำท่าจะซัดลงที่แก้มลูกสาวที่ยังเชิด รอรับการลงโทษอย่างไม่สะทกสะท้าน ไทยเห็นดังนั้นลดมือลง พ่นลมหายใจร้อนๆ ออกจากปลายจมูกเฮือกใหญ่ รสนามองผู้เป็นพ่อด้วยสายตาเกลียดชัง โกรธที่ทำร้ายแม่จนต้องเข้าโรงพยาบาล ปล่อยให้เธอนอนคนเดียวในเวลาค่ำคืน ส่วนพ่อหายไปไหนไม่รู้ ไม่สนใจใยดีว่าเธอจะอยู่จะกินอย่างไร
ถ้ากำนันอ่วมไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ป่านนี้คงตายไปแล้ว อยากจะถามพ่อเหลือเกินว่า พ่อยังมีความเป็นคนอยู่หรือไม่ ในที่สุดความชอกช้ำและน้อยใจเป็นตัวชักนำให้โพล่งออกไปดังๆ ด้วยน้ำตาคลอเบ้า
“พ่อกลับมาทำไม”
“หา นังนา เอ็งพูดอะไรวะ”
ไทยสะดุ้งเฮือก ไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามที่สะเทือนใจ ย้อนถามออกด้วยใบหน้างุนงง รสนาย้ำคำเดิมด้วยเสียงกระชากตาวาวโรจน์ คราวนี้ไทยมึนงงต่อคำถามของบุตรสาว เจ็บปลาบกลางใจด้วยความระทมทุกข์
“นาถามว่า พ่อกลับมาทำไม”
“นังนา นี่ เอ็งกล้า กล้า ถามพ่ออย่างนี้เลยหรือ”
“ใช่ ทำไมจะไม่กล้า ในเมื่อพ่อทำร้ายแม่จนเกือบตาย ไม่รู้ว่าออกจากโรงพยาบาลแล้ว แม่จะเป็นยังไงบ้าง”
“โอ นี่กูเลวชาติขนาดนั้นเลยหรือ”
ผู้เป็นพ่อล้มตัวลงนอนแผ่หลากับพื้นอย่างหมดแรง มองหน้าเล็กแห้งที่ยังคงจับจ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา นิ้วใหญ่หยาบเคาะลงกับกระดานที่เต็มไปด้วยฝุ่นจนเกิดเสียงดังโป๊ก เหมือนกำลังหาคำตอบ
“ทำไมกูจะมาไม่ได้ ในเมื่อที่นี่ก็บ้านของกูเหมือนกันนี่หว่า เอาเหอะวะ ตอนนี้เอ็งยังอารมณ์ไม่ดี เอ็งบอกแม่ก็แล้วกัน วันไหนออกจากโรงพยาบาล วันนั้นกูจะพาเมียใหม่มารู้จัก”
“พ่อ!”
เด็กหญิงเรียกพ่อเสียงดัง ตกตะลึงจนตัวชานึกไม่ถึงว่าไทยจะกล้าพูดออกมา นับว่าเป็นคำที่ทำร้ายความรู้สึกอย่างที่สุด น้ำตาล้นทะลักออกมายากที่จะควบคุมเอาไว้ได้ เรี่ยวแรงที่มีแค่เพียงน้อยนิด บัดนี้สูญสิ้นไปหมดแล้ว
“เพราะนังผู้หญิงคนนั้น ทำให้พ่อเปลี่ยนไป คอยดูเถอะ เราจะร้ายกับมันให้ถึงที่สุด อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะทนได้สักแค่ไหน”
ด้วยความเจ็บปวดที่ได้รับต่อการกระทำของพ่อ พาลโกรธเคียดแค้นไปถึงเมียใหม่ของพ่อ ห่วงแต่แม่ถ้าออกจากโรงพยาบาลจะต้องมาเจอกับเรื่องเลวร้าย ผู้ที่เพิ่งฟื้นไข้ใหม่ๆ จะทนต่อการกระทำอันสุดแสนเลวร้ายได้หรือ
เอาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้าน คนที่ไหนเขาทำกัน หยามหน้าเกินไป รสนาจะต้องเป็นทัพหลังหนุนแม่อย่างเต็มที่
ในที่สุดนารินผู้น่าสงสารออกจากโรงพยาบาล หลังจากนอนรักษาตัวเป็นเวลาเกือบเดือน เรือนร่างผอมบางยังคงซีดเซียว แม้ว่าร่องรอยฟกช้ำหายไปแล้ว แต่แผลกลางใจยังคงประทับแน่นไม่อาจที่จะลบเลือนไปได้
กำนันอ่วมเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการรักษาให้จนหมดสิ้น ครั้นขึ้นไปข้างบนบ้าน เท้าแห้งเล็กชะงัก จ้องไทยที่นั่งเคียงข้างกับผู้หญิงคนหนึ่ง ท่าทางกร้านชีวิต อายุคงมากกว่าเธอ แต่แต่งหน้าจัดราวกับลิงที่เล่นละคร แทนที่จะกลัวเมียเจ้าของบ้าน เธอกลับนั่งเชิด คอแข็งราวกับว่าเป็นบ้านของตัวเอง