บทที่ 2
อ้อมแขนนุ่มนวลโอบรัดเขาจากเบื้องหลัง พร้อมกับกลิ่นหอมที่คุ้นเคย ทำให้เด็กชายตื่นขึ้นมาจากภวังค์ แล้วหันหน้าไปซุกกับอกนุ่มตามสัญชาตญาณ กันทิรายิ้มออกมาเมื่อแขนเล็กๆ นั่นโอบตอบเธอ หญิงสาวกระซิบที่ข้างหูของบุตรชายเสียงแผ่วหวาน
“ยังไม่นอนหรือจ๊ะ ตัวเล็ก แม่กวนให้หนูตื่นหรือเปล่า?”
“เปล่าครับ”
กันต์ระวีตอบเสียงอู้อี้ เขากอดท่านแน่นขึ้นอีกหน่อย อยากจะถามไถ่ว่าบิดาหายโกรธท่านแล้วหรือยัง แต่ก็ไม่กล้า กันทิราหัวเราะเบาๆ ลูบหลังให้บุตรชายเหมือนจะเห่กล่อม
“เพลงที่ตัวเล็กแต่งเอง เพราะมากเลยนะลูก ลูกชายของแม่เก่งมากจริงๆ”
“แม่เกดตั้งชื่อเพลงให้หน่อยสิครับ”
เด็กชายเงยหน้ามองใบหน้าของมารดา แม้จะอยู่ในเงาสลัว แต่เขาก็จำท่านได้ทุกรายละเอียด จำได้กับใบหน้าของท่าน รอยยิ้ม... และเสียงหัวเราะของท่าน บอกตัวเองไม่ถูกว่าวันนี้ทำไม... ใจคอของเขามันถึงรุ่มร้อน ไม่ค่อยจะปรกติสุขนัก อาจะเพราะสิ่งที่ได้ยินมาเมื่อตอนบ่ายก็เป็นได้
“อืม...เอาเป็นอะไรดีนะ เอาชื่อนี้ก็แล้วกัน สวนดอกไม้แห่งความรัก ดีไหมจ้ะ แม่เกดฟังที่ตัวเล็กเล่นเปียโนแล้วรู้สึกอบอุ่น มีความสุข เหมือนได้ไปชมสิ่งสวยงามอย่างดอกไม้”
“แม่เกดเก่งจังเลยครับ ชื่อนี้เพราะมาก ผมจะตั้งเป็นชื่อของเพลงนี้เลย”
กันต์ระวียิ้มออกมาได้ แล้วหอมแก้มของท่านเบาๆ กันทิรายิ้มและกอดบุตรชายให้แน่นขึ้น เธอหายเศร้าเพียงแค่ได้กอดร่างน้อยนี้ไว้แนบอก ตอนนี้หัวใจของเธอมันกำลังทุกข์ระทมมากมายเหลือเกิน
“นอนได้แล้วจ้ะ พรุ่งนี้ต้องไปเรียนแต่เช้า”
“ครับ”
กันต์ระวีหลับตาลงอย่างว่าง่าย เพียงแค่พักเดียว เด็กชายก็หลับปุ๋ยไปในอ้อมแขนอันอ่อนโยนของมารดา กันทิราจูบหน้าผากของเขาเบาๆ แล้วค่อยคลายวงแขนออก เธอทรงตัวขึ้นนั่ง มองมายังร่างที่นอนอย่างสบายของบุตรชาย สายตานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่อย่างสุดหัวใจ มือเรียวลูบแก้มนิ่มนั้นเบาๆ พลางถอนใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
ตอนนี้เธอกำลังเหนื่อยเหลือเกิน...เหนื่อยกับสิ่งที่เป็นอยู่ ท้อกับสิ่งเลวร้ายที่แผ้วพานเข้ามาในชีวิต และสิ่งนี้กำลังจะทำให้ชีวิตคู่ของเธอและคนที่เธอรักที่สุดอาจจะพังทลาย
ไม่ใช่อาจจะ...กันทิรายิ้มเหยียดกับตนเอง มันใกล้จะพังทลายแล้วต่างหาก หยงชางเกลียดเธอ นัยน์ตาคมกริบยาวรีของเขาบอกความหมายว่าแบบนั้น เธอจะประสานรอยร้าวนี้ได้อย่างไร เมื่อมีสิ่งที่ต้องทำอีกอย่าง และมันอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตรักระหว่างเขาและเธอต้องถึงจุดจบเร็วขึ้น!
ร่างบางลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินทอดขาอย่างเหนื่อยล้าออกไปจากห้องของบุตรชาย ความผิดพลาดที่เธอโง่งมจน เผลอก้าวเท้าลงไปในกับดักนายพรานอย่างณัฐ มันทำลังจะทำให้ชีวิตที่เหลือของกันทิราต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็น
กันต์ระวีจมอยู่ในห้วงนิทราอันน่าหวาดกลัว มีสัตว์ร้ายไล่ล่าทำร้ายเขา เด็กชายพยายามวิ่งหนีอย่างสุดกำลัง แต่กรงเล็บแหลมนั่นกำลังตรงเข้ามาเพื่อฉีกกระชากชีวิตเขาออกไป
เปรี้ยง! เปรี้ยง!
เสียงปืนดังแผดก้องกัมปนาท ปลุกทุกคนในบ้านพิพิธชัยสกุลให้ตื่นขึ้นมา กันต์ระวีเองก็ผวาเฮือกสะดุ้งตื่นขึ้นสุดตัว เขาหันขวับไปข้างตัวแบบเคยชิน หวังจะได้พบมารดานอนเคียงข้างและโอบกอดปลอบเขา แต่ที่นอนเย็นเชียบและไร้แม้แต่เงาของท่าน
“คุณวี ฮือๆ คุณวี”
ป้าแช่มเปิดประตูห้องผั๊วะเข้ามา น้ำตากลบตาของหญิงวัยกลางคน นางคว้าร่างของเด็กชายเข้าไปกอดรัดไว้แน่น กันต์ระวีที่พึ่งจะตื่นนอนได้แต่งุนงงและถามออกไปอย่างไร้เดียงสา
“มีอะไรครับป้าแช่ม ทำไมถึงมีเสียงดังแต่เช้า ใครจุดพลุ หรือประทัดหรือครับ”
“ฮือๆ คุณวี โฮ!”
นางตอบเขาได้เพียงแต่เสียงร้องไห้ และสะอื้นตัวโยน สักพักแววก็เข้ามากอดเด็กชายร้องห่มร้องไห้ไปอีกคน แต่สิ่งที่แววตอบเขามันฟังชัดเจนกว่ายิ่งนัก
“คุณวีขา คุณผู้ชาย กับคุณผู้หญิงท่านไม่อยู่แล้วค่ะ โฮ!”
..........
“ไม่นะ ไม่!”
เสียงห้าวตะโกนออกมาดังลั่น พร้อมกับร่างหนาแกร่งที่สะดุ้งลุกพรวดขึ้นสุดตัว มือของเขายังคงไขว่คว้าไปในอากาศ เหมือนจะเกาะเกี่ยวไขว่คว้าหาสิ่งที่หลุดลอยไปจากมือ ฝันร้ายของเขาเกิดขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่มันหายไปมานานหลายปี
ชายหนุ่มหอบฮัก หัวใจของเขาเต้นถี่ระรัวราวกับไปวิ่งออกกำลังมา กันต์ระวีสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อทำให้การหายใจเป็นปรกติ เหงื่อของเขาผุดขึ้นทั่วใบหน้าคมสัน ร่างสูงลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินดุ่มตรงไปยังห้องน้ำ เขาเปิดน้ำที่อ่างล้างหน้าก่อนจะวักน้ำสาดใส่ใบหน้าคมคาย เหมือนจะให้น้ำให้สติและความสดชื่นคืนมาแก่ร่างกาย
กันต์ระวีเงยใบหน้าที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำ มองดูเงาสะท้อนของตนเองในกระจกเงา มันสะท้อนภาพชายหนุ่มใบหน้าเรียวยาว ผิวขาวจัด คิ้วเข้ม นัยน์ตาสีนิลยาวรี บอกเชื้อชาติของเขาได้ชัดเจน จมูกโด่งสวย ริมฝีปากบางได้รูป ตอนนี้มีไรเคราขึ้นเขียวครึ้ม ทำให้ใบหน้านั้นดูคมเข้มมากขึ้น
ชายหนุ่มลูบไล้ใบหน้าของตนเอง มองพินิจถึงเครื่องหน้าแต่ละชิ้น ก่อนจะรำลึกถึงผู้ให้กำเนิดทั้งสอง นัยน์ตาสีนิลของเขาคล้ายบิดา รวมถึงจมูกโด่งได้รูปสวย ริมฝีปากบางและรูปหน้าของเขาได้มาจากมารดา เป็นส่วนผสมที่ลงตัวและงดงาม
เขาคงไม่ใช่ผลิตผลของความผิดบาปของมารดา สมองของเขาเผลอคิดตรงนี้ขึ้นมาชั่วแวบ ก่อนจะกำกำปั้นทุบผนังห้องน้ำแรงๆ จนรู้สึกเจ็บ กัดริมฝีปากของตนเองเพื่อเรียกสติ เพราะฝันนั่น ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน การสูญเสียที่เขาได้ประสบตั้งแต่เยาว์วัย มันทำให้กันต์ระวี กลายเป็นเด็กชายขี้ระแวง และไร้สุข ปรารถนาจะทวงคืนในสิ่งที่เคยเป็นของครอบครัวคืนมา เขาต้องการทวงทุกอย่างคืนมาจากชายโฉดคนนั้น! คนที่ปลูกฝังฝันร้ายให้ตามหลอกหลอนเขาจนวันนี้
‘หน้าตาคล้ายๆ ฉันเหมือนกันนะเราน่ะ หึๆ หรือว่าจะเป็น...’