30 ฟ้าวลัยรู้แล้วว่าตะวันคือใคร
“ยัยฟ้าจอมหยิ่งมากับผู้ชายหล่อ รวยเสียด้วย ใครกัน ลูกค้าหรือ ไม่น่าจะใช่หรือว่าแฟน ยัยฟ้าหาผู้ชายได้ดีขนาดนี้เลยหรือ เหนือกว่าเราเสียอีก บ้าชะมัดเลย”
“พี่ว่าหนูบ้าหรือคะแล้วทำไมต้องนั่งตัวเอียงขนาดนั้นด้วย เดี๋ยวก็ตกเก้าอี้หรอก”
“โอ๊ะ..! เปล่า พี่คิดอะไรเพลิน ๆ น่ะ อย่าทำหน้าอย่างนั้นซี่ ไม่เกี่ยวกับหนูหรอกจ้ะ เอาเป็นว่ารีบทานซะ พี่เพิ่งนึกได้ว่ามีธุระ”
ด้วยความกลัวว่าน้องภรรยาจะเห็นว่าเขามีกิ๊ก กิตติเร่งนักศึกษาคนนั้นให้รีบรับประทานอาหารทั้งที่เพิ่งเข้ามานั่งได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่ก็ต้องพาออกไปก่อนที่เรื่องจะแดง
อาหารในจานพร่องไปพอสมควร ฟ้าวลัยคิดว่าถึงเวลาที่จะซักฟอกหนุ่มหล่อว่าเป็นใครมาจากไหน ชะลอการตักให้ช้าลง มองใบหน้าหล่อที่ยังคงจับจ้องเธอด้วยสายตาคมกริบเช่นกัน ฟองเบียร์ขาว ๆ ติดอยู่ที่ริมฝีปากเล็กน้อยกลายเป็นเสน่ห์แห่งบุรุษเพศ
เธอเกลียดผู้ชายดื่มแอลกอฮอล์ที่สุด ทำไมกับชายคนนี้ถึงได้ถูกใจนัก
“คุณดื่มบ่อยหรือคะ”
“ไม่หรอกครับ นาน ๆ ครั้ง ถ้ามีความสุขก็นึกครึ้มดื่มนิดหน่อย ไม่เยอะหรอก แค่ขวดเดียวก็พอแล้วเพราะจะต้องไปคุยงานกับลูกค้าอีก”
“ลูกค้า คุณทำงานให้กับคุณวรรณพรหรือคะ”
หลังจากถามไปแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นรอยยิ้มน้อย ๆ จากมุมปาก ไม่รู้ว่าจะขำอะไรนักหนา ไม่มีคำพูดใดที่ตลกเลย สายตาวาววับนั่นอีก จ้องเอา ๆ เจอแบบนี้เริ่มไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ได้แต่นั่งกระสับกระส่าย อยากรู้ว่าเขาจะตอบว่าอย่างไร
เอาอีกแล้ว เขาคิดอะไรกับเธอ เกลียดสายตาคม ๆ คู่นั้นนัก มองสบตาทีไรราวกับบาดเข้าไปถึงหัวใจ หากว่าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป คิดว่าเขากำลังสนใจเธอไม่น้อย
“ผมไม่ใช่ลูกจ้างคุณวรรณพรหรอกครับแต่เป็นลูกชาย ลูกคนเดียวครับ”
“คุณคือลูกชายคุณวรรณพรหรือคะ คนที่ท่านเคยบอกเอาไว้ว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับซื้อขายที่ดิน”
“ถูกต้องแล้วครับ ผมนายตะวันลูกชายคนเดียวของคุณวรรณพร เอ ทำไมคุณฟ้าถึงคิดว่าผมเป็นลูกจ้างล่ะครับ”
“เอ่อ วันนั้นที่คุณไปรับของ ท่าทางแย่มาก เสื้อผ้า หน้าผมยับยู่ยี่นี่คะ”
สาวสวยอ้อมแอ้มตอบด้วยความอาย เมื่อรู้ว่าเป็นการเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง เขินเสียจนแทบไม่อยากมองหน้าด้วยซ้ำ ใครจะคิดว่าผู้ชายในสภาพย่ำแย่คนนั้นคือบุตรชายคนเดียวของคุณวรรณพร เศรษฐีใหญ่และเป็นลูกค้าใจดีคนสำคัญของเธอ มักจะซื้อเครื่องหอมครั้งละเยอะ ๆ
หลังจากพิจารณาดูถี่ถ้วน รู้ว่าตะวันมีส่วนคล้ายกับคุณวรรณพรไม่น้อย ริมฝีปากรูปกระจับนั่นไง ราวกับถอดออกมาจากพิมพ์เดียวกัน
“วันนั้นหนักไปหน่อย แต่ก็ผ่านมาด้วยดี ผมสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ให้สนุกกว่านี้อีกแล้ว ตื่นขึ้นมารู้สึกแย่มาก”
“ผู้ชายเวลาดื่มก็มักลืมตัว”
“นั่นสิครับ อย่างว่าผมไม่มีที่ยึดเหนี่ยวก็เลยทำตัวตามสบายไปหน่อย หากว่ามีผู้หญิงที่รู้ใจ คงไม่กล้าทำแบบนั้น”
ตะวันพูดออกไปแล้วมองหน้าฟ้าวลัยด้วยสายตามีความหมาย ทำเอาคนถูกมองถึงกับเก้อเขิน หน้าร้อนชาวาบ วางตัวไม่ถูกได้แต่นิ่งเงียบเพียงอย่างเดียว
ก่อนที่จะถูกแทะโลมด้วยคำพูด เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ช่วยเอาไว้ทัน
“สวัสดีค่ะแม่ กำลังทานข้าวค่ะ เดี๋ยวก็เข้าบริษัทแล้ว แม่ทานข้าวแล้วใช่ไหมคะจะเอาอะไรไหมฟ้าจะซื้อไปให้ค่ะ”
หญิงสาวพูดคุยกับมารดาเพียงชั่วครู่แล้วตัดสาย หันมายิ้มให้กับตะวันที่มองด้วยความฉงนเมื่อรู้ว่ามีมารดาของเธออยู่ในบริษัทวัฒนาเครื่องหอม
“แม่ค่ะ เข้าบริษัทแล้ว”
“แม่ นี่หมายความว่า แม่คุณฟ้าทำงานที่บริษัทด้วยหรือครับ”
“ค่ะ ท่านเป็นประธานบริษัทค่ะ”
ชายหนุ่มเหวอ เมื่อรู้ความจริงว่า ฟ้าวลัยเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัทวัฒนาเครื่องหอมที่ผ่านมาเขาเข้าใจผิด คิดว่าเธอเป็นลูกจ้าง
“อ้าว แล้วกันนี่ก็หมายความว่าคุณเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัทสิครับ ผมคิดว่าเป็นพนักงานเพราะคุณลงมือนับของแล้วบรรจุลงลังด้วยตัวเอง”
กลายเป็นว่าเข้าใจผิดไปอีกคน ว่าเธอคือพนักงานทั้งที่ความจริงเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัท ถึงเวลาฟ้าวลัยหัวเราะออกมาบ้าง
“เท่ากับว่าเราเจ๊ากันนะคะ”
“ครับ มีความคิดเหมือนกันเลย ผมมีความสุขจังที่ได้รู้จักคุณ เอาเป็นว่าคงไม่รังเกียจนะครับ ผมจะรับออกมาทานข้าวบ้าง”