24 ตะวันค้างกับผู้หญิง
“คุณแก่ถึงขนาดใช้ลูกประคบแล้วหรือครับ”
“คุณเติมศักดิ์เนี่ยพูดอะไรออกมาใครบอกว่าแก่ผิวยังตึงอยู่เลย”
“หรือครับ ตึงขนาดไหนเนี่ยอืม ใช้ได้อยู่นะ มีกลิ่นด้วย”
“นี่ หาว่ามีกลิ่นเน่าหรือไง พูดให้ดีนะไม่อย่างนั้นเกิดเรื่องแน่”
เสียงเขียวพอ ๆ กับดวงตาที่เขม้นมอง เติมศักดิ์หัวเราะชอบใจ รู้ดีว่าจะต้องพลิกสถานการณ์อันน่ากลัวให้กลายเป็นสดชื่นได้ไม่ยาก
“ยังไม่ได้พูดว่าเหม็นเลย หอมต่างหาก ใช้ครีมอะไรหรือครับ ไม่คุ้นเลย”
“ก็เครื่องหอมของบริษัทวัฒนานี่แหละ ฉันใช้ผลิตภัณฑ์ของเขาทุกอย่าง มีคุณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยนะ”
“บริษัทวัฒนาอะไรเนี่ย จ้างคุณเป็นพรีเซนเตอร์ให้หรือเปล่าครับ ถ้าจ้างจริง ๆ สงสัยว่าจะต้องคิดหนักหน่อยนะ”
“ทำไมคะ พูดให้ดีนะ”
“อ้าว ถ้าจ้างคุณก็คงขายได้เฉพาะพวกวัยทองขึ้นไปสิครับ โอ๊ย เจ็บนะ เห็นแก่ ๆ อย่างนี้เขี้ยวเล็บคมเหลือเกิน”
สามีส่งเสียงโวยวายหลังจากปลายเล็บแหลมจิกลงบนหลังมือ แม้ว่าไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากนักแต่ก็แกล้งทำเป็นว่าหนักกว่าปกติ คุณวรรณพรค้อนควักเป็นการใหญ่แล้วมองหาลูกชายคนเดียว แต่ไม่เห็นแม้เงา
“คุณก็เหมือนกัน ปากร้ายยังไงก็ยังเป็นเหมือนเดิม แล้วนี่ไอ้ลูกชายมันหายหัวไปไหนนะ ป่านนี้แล้วยังไม่กลับ เกือบเที่ยงแล้วเนี่ย”
“คุณจะทำไมเล่า บางทีอาจจะเลยเข้าบริษัทก็ได้”
“ให้เป็นอย่างนั้นเถอะ ฉันจะไหว้วานให้ไปเอาลูกประคบกับเครื่องหอมที่บริษัทวัฒนา สั่งเอาไว้อย่างละสามโหล”
“ซื้อทำไมตั้งมากมาย”
“จะเอาไปแจกญาติ ๆ ในช่วงปีใหม่ค่ะ เห็นทีว่าจะต้องให้เจ้าตัวดีไปเอามาให้แล้วล่ะ โทรจิกก่อนนะ เอ...ทำไมไม่รับสายหรือว่าติดธุระสำคัญ”
ผู้เป็นมารดาบ่นด้วยความแปลกใจ ตะวันไม่ยอมรับสาย คิดว่าอาจจะติดธุระสำคัญ เว้นระยะการโทร เอาไว้ อีกสิบนาทีแล้วค่อยติดต่อไปใหม่
ความจริงแล้วตะวันยังไม่ได้เข้าบริษัท ยังคงอยู่ในชุดเดิม เสื้อผ้ายับยู่ยี่ ผมยุ่งเป็นกระเซิง นอนหลับอยู่บนเตียงภายในอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่ง ข้าง ๆ กันหญิงสาวผู้มีใบหน้าผ่านการทำศัลยกรรมมาหลายจุด ผมสีทองอร่ามลืมตาขึ้น หลังจากได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตะวัน
“สงสัยเมียโทรมาตาม แน่ะดังอีกแล้ว พี่เขายังไม่ตื่น เรารับสายเองก็ได้ ทำให้ครอบครัวแตกแยกแล้วสวมรอยเข้าไปแทน สวัสดีค่ะ”
“ใคร นั่นใช่เบอร์ของตะวันไหม”
คุณวรรณพรถามกลับด้วยเสียงกระด้าง หญิงคนนั้นสะดุ้ง คิ้วโก่งขมวดเข้าหากัน สงสัยว่าทำไมภรรยาของตะวันถึงเสียงแก่นัก
สาวบริการที่เป็นคู่ขาของตะวันยังคงถือโทรศัพท์ราคาแพงเอาไว้ ไม่กล้าพูดต่อ หันไปมองตะวันเห็นว่ายังคงหลับสนิท แต่ก็ไม่อาจที่จะนิ่งอยู่ได้เมื่อต้นสายส่งเสียงพูดดัง ๆ จนแทบตะโกน ด้วยนิสัยเห็นแก่ได้ ไม่ชอบเห็นคนอื่นมีความสุข แผนร้ายถูกกำหนดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เสียงแก่เป็นบ้าเลย สงสัยได้เมียแก่ อ่า สวัสดีค่ะ”
“ไม่ต้องมาสวัสดี เบอร์ตะวันใช่ไหม”
“ค่ะใช่ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เธอรับสายเขาทำไม บอกให้ตะวันมาพูดกับฉันเดี๋ยวนี้”
คุณวรรณพรไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าคนที่รับโทรศัพท์บุตรชายเป็นผู้หญิง เสียงเหมือนพวกที่ไร้การศึกษา คิดว่าคงเป็นผู้หญิงไม่ดี เธอเกลียดที่สุด กลัวว่าจะจับบุตรชาย เรื่องแบบนี้ยอมไม่ได้เด็ดขาดจะต้องฉะให้แหลกไปข้าง ผู้หญิงกลางคืนอย่าได้หวังว่าจะได้เป็นลูกสะใภ้
“พี่เขาหลับอยู่ค่ะ”
“ปลุกสิ บอกว่าคุณวรรณพรจะคุยด้วย ถ้าเธอแกล้งล่ะก็ มีเรื่องแน่”
“ว้าย ใหญ่เสียด้วย”
“ฉันเป็นแม่มันไม่ใหญ่ได้ไง”
“โอ๊ะ ! คุณแม่หรือคะ ขอโทษค่ะ”
สาวผมทองตระหนกสุดขีดเมื่อรู้ว่าคนที่กำลังกวนประสาทคือมารดาของตะวัน พลาดไปอย่างน่าโมโห หากว่าทำให้เหม็นขี้หน้า คงไม่ได้ก้าวเข้าไปอยู่ในบ้านเขา ตอนนี้ควรทำตัวเป็นคนดีแล้วซ่อนความชั่วร้ายเอาไว้ คิดได้ดังนั้นรีบปลุกชายหนุ่มให้ลุกขึ้นมารับโทรศัพท์ทันที
“พี่ พี่คะ ตื่นเถอะค่ะ คุณแม่พี่โทรมา”
“แม่โทรมาหรือแล้วเธอรับสายทำไม”
“ดังตั้งหลายครั้ง พี่ไม่ยอมตื่นซะที น้องก็เลยรับ ท่าทางท่านไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ พูดสิคะ”
“แม่ มีอะไรหรือครับ”
“ตะวัน อยู่ที่ไหน ทำไมปล่อยให้ผู้หญิงอย่างนั้นรับสายล่ะ น่าเกลียดที่สุด นังพวกขายตัวใช่ไหม กล้านอนค้างด้วยหรือ ไม่กลัวหรือไง”