ตอนที่4 เคี้ยวไม่ฝังเขี้ยว
คนเก่งและไวไฟที่เห็นก็แค่ภาพลวงตา ถึงแม้ว่าเธอจะอยากได้แค่ไหนแต่ก็อยากยั่วเล่นให้เขากระสันในตัวเธอไปก่อน
นั่นทำให้พอเริ่มมึนจนตาลาย ก็เลือกจะถอยออกมาแทนที่จะสานต่อทันที
“เพิร์ลเมาแล้ว วันนี้เพิร์ลกลับก่อนนะคะ” ได้ช่องทางการติดต่อมาแล้ว ไม่กลัวหรอกจะแหย่แล้วหนี
“ให้ไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไร เพิร์ลมากับเพื่อน” ถ้าได้ไปส่งในสภาพแบบนี้จะส่งถึงไหนล่ะ
สวรรค์ชั้นเจ็ดล่ะสิไม่ว่า
“อยากไปส่งนะ” พูดเสียงพร่า พันผมเธอเล่นอย่างหยอกล้อ
“ไว้วันหลังดีกว่าค่ะ เพราะรถเพิร์ลด้วย ไม่อยากทิ้งเพื่อนด้วย” ไซ้ใบหน้ากับฝ่ามือราวกับแมวอ้อน แต่ปฏิเสธสิ่งที่เขาชักชวน
“ก็ได้” ไม่เป็นไร ถ้าเธออยากเล่นเขาก็จะเล่นด้วย
จะดูว่าเล่นได้นานแค่ไหน
แต่ถ้านานเกินกว่าที่คิดเดี๋ยวสอนวิธีเอาจริงให้
“ฝันดีนะคะ” ส่งยิ้มหวานแววตาเย้ายวนให้อีกฝ่าย หันไปก้มหัวลาเพื่อนของเขาแล้วลุกเดินออกไปอย่างไม่เหลียวหลังกลับ
“ว้า! โดนเด็กแหย่เข้าแล้วสิ” ไฟว์แซวเพื่อนที่มองตามร่างเย้ายวนไม่ละสายตา
“ให้แหย่กูก่อน ถึงเวลาเดี๋ยวกูแหย่กลับ” พูดทั้งที่สายตายังคงมองเธอที่เดินไปจนถึงกลุ่มเพื่อน
“ว่าแต่พี่เพลิงจะแหย่อะไรครับ” ชินถามด้วยรอยยิ้มใสซื่อ
“แหย่ตีนมั้งครับ”
“เหยื่อน่ารักน่าเคี้ยวขนาดนี้ พี่เสือคงไม่เอ็นดูเหยื่อหรอกนะครับ” ไฟว์แซวขึ้นอีกครั้ง
“มึงพูดเองว่าน่าเคี้ยว แล้วจะเหลือ?”
“กูกลัวแต่เคี้ยวให้เหลือซาก เคี้ยวไม่ฝังเขี้ยวน่ะสิ” ไม่ได้สบประมาทเพื่อนตัวเอง
แต่ต้องประเมินสาวน้อยคนสวยใหม่และสูงหน่อยแล้ว
เท่าที่นั่งฟังนั่งคุย น้องแม่ง ไม่เบาเลยนะ
“เกิดมาไม่เคยเห็นคนสวย?” ต้องถามมันใหม่ “ไม่เคยเห็นตัวเด็ด?”
แม่งก็เห็นกันมาพอ ๆ กัน เห็นกันมานักต่อนัก
แล้วเด็กน้อยร้อนวิชา เด็กน้อยโชว์ของแบบนี้
จะทำอะไรเขาได้
“ครับ ถูกของพี่เพลิง” ไฟว์ตอบรับอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง แต่... “เผื่อเด็กมันเคี้ยวมันกว่าง่ายกว่าจะติดใจ ติดหนึบจนแกะไม่ออกก็แค่นั้น”
บนรถของหญิงสาวที่มีเพื่อนทั้งห้าคนพร้อมหน้า มีน้ำตาลที่ดื่มน้อยที่สุดเป็นคนขับ ส่วนคนที่เหลือสภาพก็ไม่ได้ต่างจากเพิร์ลเท่าไหร่
นั่นเลยทำให้สภาพในรถตอนนี้ราวกับตลาดสด แข่งกันพูด แข่งกันถามไม่หยุด
“แกบอกมาว่าทำไมแกถึงได้ไปนั่งกับพวกพี่เขา”
“แล้วพี่เขาว่ายังไงบ้าง”
“แล้วแกคุยอะไรกับเขา”
“โอ้ย! พวกแกจะตื่นเต้นเพื่อ?” ก็ว่าไป ตัวเธอเองก็ตื่นเต้นเหมือนกันนั่นแหละ ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้ทำความรู้จักกับว่าที่พ่อของลูก “ก็คุยกันไง แล้วก็แลกช่องทางติดต่อกันไว้”
“แล้วไง แกจะสานต่อถึงไหน”
“ถึงไหน ก็ถึงกันสิ” ตอบอย่างไม่เขินอายสักนิด
“กรี๊ด! อีเพื่อนชั่ว!”
“แล้วทำไมตอนนั้นแกไม่เรียกพวกฉันไปด้วย ฉันอยากรู้จักเจ้าของคลับ”
“ก็ฉันทำภารกิจอยู่ ให้พวกแกไปก็ก้างขวางคอสิ” ไหวไหล่อย่างไม่รู้สึกผิด “อีกอย่าง ถ้าอยากรู้จักก็ทำเองสิจ๊ะ”
อยากรุมเธอดีหนัก เรื่องอะไรจะเปิดทางให้ล่ะเพื่อนจ๋า
“เพื่อนชั่ว!”
“ฮ่า ๆๆ พวกแกได้เสียเงินค่ากระเป๋าแน่” หัวเราะอย่างสะใจกับสิ่งที่เพื่อนเคยมั่นใจว่าไม่แพ้เธอ
“สงครามยังไม่จบ ไม่นับศพทหารหรอกจ้ะ”
“ก็คอยดู” ฝีมือระดับนี้ เข้าถึงขนาดนี้
ได้เข้าถึงมากกว่านี้แน่นอน
แล้วบนรถก็ส่งเสียงดังไม่หยุด จับไปรวมหัวกันอยู่ที่คอนโดใครสักคนแทนการขับรถด้วยความง่วงและเหนื่อย
เพิร์ลหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมามองช่องทางการติดต่อที่แลกกับเพลิงเกือบทุกบัญชี รวมถึงเบอร์
แต่เธอกลับไม่ส่งอะไรไปหาเขาอย่างที่ควรจะเป็น
“ใครส่งก่อน ก็แพ้สิ”