บทที่ 8
ร่างสูงโปร่งที่มีหน้าตาหล่อเหลาตามแบบฉบับคนเอเชียเต็มเปี่ยมเดินเข้าไปภายในห้องอาหารแบบไพรเวตด้วยสีหน้าบูดบึ้งไม่สบอารมณ์ ส่งผลให้ดวงตาเรียวรีสีน้ำหมึกของเขามีลักษณะคล้ายกับใบมีดที่พร้อมจะกรีดไปตามร่างกายของผู้พบเห็น
ทว่าท่าทางของเขากลับทำให้มาเฟียหนุ่มตาน้ำข้าวที่นั่งรออยู่ภายในห้องระบายรอยยิ้มกว้างจนแทบจะเห็นฟันครบทุกซี่
“อะไรทำให้คุณหวังหน้าตาเคร่งเครียดได้ขนาดนี้ครับ อย่าบอกนะว่า…”
“รอนานไหม” ราชิตรีบถามเข้าประเด็น เพราะตอนนี้เขาหงุดหงิดเกินกว่าจะเอ่ยถึงเรื่องของลดากับอีกฝ่าย
“ผู้หญิงคนนั้นสวยเป็นบ้า ส่วนหุ่นก็โคตร…”
“คุณแบล็ก!”
คนที่อารมณ์ไม่ดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วส่งเสียงห้วนออกไปขัดคำพูดและท่าทางหื่นกามของคู่สนทนา แถมสีหน้าของเขาก็ยังบ่งบอกได้ถึงอารมณ์อันคุกรุ่น ที่อาจจะทำให้ราชิตสามารถหยิบปืนออกมากราดยิงใส่ลูวินซ์ แบล็ก ได้ทุกเมื่ออีกด้วย
“ช่วยใจเย็นๆ กับผมหน่อยเถอะคุณหวัง คุณก็รู้ว่าผมเป็นคนนิสัยยังไง ก็แค่รู้สึกชอบใจที่คุณหึงหวงเธอคนนั้นอย่างออกนอกหน้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้คุณไม่เคยแสดงพฤติกรรมแบบนี้ออกมาให้เห็นเลยสักครั้ง รู้ตัวไหมเนี่ย ว่าสาวน้อยคนนั้นเป็นจุดอ่อนรูเบ้อเริ่มของคุณเลยนะ”
มาเฟียหนุ่มที่คบหากับราชิตมานานหลายปีเอ่ยกลั้วหัวเราะ แถมดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลนั่นยังมีประกายเจิดจ้าคล้ายกับว่าพออกพอใจเป็นนักหนาที่ได้เห็นท่าทางร้อนรนราวกับถูกไฟเผาของคนตรงหน้าเสียเหลือเกิน
“พูดเรื่องธุรกิจกันได้แล้ว”
ลูวินซ์ยิ้มกว้าง เมื่อถูกคนตรงหน้าเร่งซ้ำ
“นี่ไม่ใช่ว่าจะออกไปตามสาวสวยคนนั้นหรอกนะ”
“ลูวินซ์!” ราชิตตะคอก
“อ่า… ผมชอบจัง ที่คุณใช้น้ำเสียงเหมือนพี่ชายที่กำลังดุน้องชายใส่ผมน่ะ คุณรู้ไหมว่าการเป็นลูกชายคนเดียวของมาเฟียน่ะมันเหงามาก คุณก็น่าจะเห็นแล้วว่าไม่มีใครกล้าเป็นเพื่อนกับผมนอกจากคุณ ให้ตาย… ความจริงแล้วคุณก็เป็นลูกชายมาเฟียเหมือนกันนี่นา สาวน้อยคนนั้นก็ด้วย”
มาเฟียตาน้ำข้าวยังคงร่ายยาวถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา เพื่อล้อเลียนคนในใจของราชิตไม่เลิก จนคนฟังต้องตัดสินใจทำหูทวนลมไปเสียเลย
“เอาล่ะๆ เข้าเรื่องกันก็ได้”
“ดี”
ลูวินซ์ส่งเสียงหัวเราะในลำคอ ก่อนจะหันไปขอเอกสารสัญญาทางธุรกิจของตนเองกับราชิตจากเลขาคนสนิท แล้วหยิบปากกาออกมาเซ็นชื่อลงไปบนนั้นอย่างไม่มีการยื่นข้อเสนอใดๆ ทั้งสิ้น
“ผมเชื่อใจคุณ”
“ขอบใจ” ร่างสูงตอบรับด้วยน้ำเสียงห้วนสั้น เขายื่นมือออกไปเลื่อนใบสัญญามาตรงหน้าตนเองและหยิบปากกาออกมาเซ็นชื่อลงไปบ้าง “เราจะเริ่มก่อสร้างกาสิโนนี่บนเกาะส่วนตัวของผมภายในเดือนหน้า คุณอยากจะแวะมาดูการก่อสร้างเมื่อไหร่ก็ตามใจคุณเลยแล้วกัน ถ้าต้องการคนรับรองก็โทรหาจิน หรือถ้าไม่ ก็ไปเอง รู้อยู่แล้วนี่ว่าจะไปที่นั่นได้ยังไง”
“คิดว่าคุณจะให้สาวสวยคนนั้นพาผมไปซะอีก”
“ฝันไปเถอะ!”
คำตอบของราชิตส่งผลให้รอยยิ้มกว้างอย่างหุบไม่ลงปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลาของมาเฟียหนุ่ม ก่อนที่เขาจะปรบมือเสียงดังเพื่อขับไล่บรรยากาศอึมครึมนี่ออกไปจากห้องอาหาร และส่งสัญญาณให้จิณวัฒน์เรียกพนักงานเสิร์ฟของภัตตาคารเข้ามารับออร์เดอร์ทันที
“คุณหวังเองก็เป็นคนจีนแท้ๆ ไม่คิดจะแนะนำอาหารจีนขึ้นชื่อให้ผมบ้างหรอ” ลูวินซ์ถามคนที่กำลังทำสีหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ใกล้ๆ “เอ๊ะ! หรือว่าจะเป็นเพราะ…”
“อยากกินอะไรก็สั่งไปเถอะลูวินซ์ อย่าเรื่องมาก”
น้ำเสียงห้วนสั้นที่เขามักจะได้ยินอยู่เสมอเวลาที่ราชิตอารมณ์ไม่ดี ส่งผลให้มาเฟียหนุ่มหัวเราะรวนและยอมรามือในการกวนประสาทอีกฝ่ายไปในที่สุด
บอกตามตรงว่าเขาไม่ใคร่จะกวนใจตอนที่ราชิตโกรธเท่าไหร่นัก เพราะต่อให้เขาเป็นลูกชายของมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลหรือเป็นมาเฟียคนหนึ่งที่ใครๆ ต่างก็ให้การเคารพนับถือ
แต่นั่นไม่ใช่กับมังกรหนุ่มเลือดร้อนตรงหน้าเลยสักนิด ในสายตาของราชิตเขาแทบจะกลายเป็นเศษฝุ่นไร้ค่า ขณะที่ในสายตาของเขา ราชิตถูกจัดให้เป็นไอดอลรองจากผู้เป็นพ่อเลยก็ว่าได้
“บอกตามตรงนะคุณหวัง ถึงแม้ว่าเรื่องอื่นคุณจะเหนือกว่าผมทุกด้าน แต่ในเรื่องความรัก… ผมว่าคุณยังอ่อนประสบการณ์มากกว่าผมเยอะ”
ราชิตแค่นหัวเราะเมื่อได้ยินการอวยตัวเองของคู่ค้าคนสนิท
“ทำเป็นพูดดีไปเถอะ ได้ยินว่าคุณพ่อแบล็กกำลังจะหาเมียให้คุณอยู่ไม่ใช่หรือไง ผมขอเตือนไว้ก่อนนะ ว่าคุณน่ะควรจะเลือกเมียมาสักคนได้แล้ว ก่อนที่จะถูกพ่อจับคลุมถุงชนกับลูกคนในวงการเดียวกัน คนรักอิสระแบบคุณคงไม่อยากหาเชือกเส้นหนาๆ มาผูกคอหรอก จริงไหม”
“ก็จริง ลูกสาวมาเฟียที่พ่อผมรู้จักแต่ละคน มีแต่คนน่าสยดสยองทั้งนั้นเลย คุมยากชะมัด สู้สาวน้อยของคุณหวังก็ไม่ได้”
“เลิกพูดถึงผู้หญิงของผมสักทีเถอะน่า” ราชิตเอ่ยเสียงห้วน
“หวง?” ลูวินซ์เลิกคิ้วถาม
“เออ!”
หลังจากที่ลูวินซ์จัดการกับอาหารบนโต๊ะจนเกือบหมดทุกอย่างแล้ว มือหนาจึงตัดสินใจวางตะเกียบลงพร้อมกับผูกสายตาเอาไว้ที่คนตรงหน้าจนเขารู้สึกได้
“มองหน้าผมทำไม” ราชิตเอ่ยถามเสียงห้วน
“เฮ้! ผมไม่ได้คิดอะไรไม่ดีกับคุณหรอกน่า แค่สงสัยว่าทำไมมื้อนี้กินน้อยกว่าปกติ แถมยังแอบมองไปที่ประตูตลอดเวลาอีกต่างหาก ถ้าเป็นห่วงเธอมากขนาดนั้น ทำไมถึงไม่ให้ลูกน้องของคุณไปลากเธอเข้ามาในนี้ซะเลยล่ะ ถึงผมจะแอบถูกใจเธออยู่บ้าง แต่ผมก็ไม่แย่งผู้หญิงของคนที่ผมนับถือเหมือนพี่ชายหรอกนะ คุณหวัง” มาเฟียตาน้ำข้าวเอ่ยขึ้น เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา เขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายมีอาการกระวนกระวายใจอย่างนี้มาก่อนเลยสักครั้ง
“อาหลิงไม่ชอบให้ทำอย่างนั้นแน่” ราชิตตอบ
“คุณแคร์เธอมากเลยหรอ”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณสักหน่อย เอาเรื่องของตัวเองให้รอดก่อนเถอะ”
คนถูกตอกกลับหรี่ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลลงเล็กน้อย ก่อนจะไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระและหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม เพื่อบอกให้คนตรงหน้ารู้ว่าเขาอิ่มแล้ว
“กินเสร็จแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็แยกย้าย”
ราชิตเอ่ยขึ้นทันที ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่อีกฝ่ายยังคงนั่งทำท่าทางเกียจคร้านคล้ายต้องการจะยั่วโทสะเขาต่อ
“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้มั้ง คนทั้งคนนะคุณหวัง จะหายไปโดยที่คนของคุณไม่รู้ได้ยังไง ใช่ไหมคุณเทียน” คนตาฟ้าแกล้งเหน็บ และไม่วายหันไปขอเสียงสนับสนุนจากจิณวัฒน์ ที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของผู้เป็นนายด้วยอีกแรง
“ครับ”
“จิน!”