บทที่ 6
เรือนร่างแบบบางในชุดสูทกระโปรงทรงสอบสีชมพูอ่อนเดินเข้ามาภายในห้องทำงานของราชิตด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับแฟ้มเอกสารสำคัญในมือ
และสาเหตุที่ทำให้เธอกล้าบุกรุกเข้ามาภายในห้องทำงานของเจ้านายโดยที่ไม่คิดจะเคาะประตูขออนุญาตก่อน นั่นก็เป็นเพราะข่าวดีที่อยู่ในมือฉบับนี้
“ครับ ผมจะรอฟังข่าวดีนะครับ”
เสียงทุ้มกรอกผ่านโทรศัพท์ไปยังปลายสาย ก่อนจะเหลือบตามองผู้มาเยือนด้วยสีหน้าที่ไม่ใคร่จะพอใจนัก หากแต่คนถูกมองกลับเมินสายตาคมดุและเดินเข้าไปวางแฟ้มเอกสารสีดำขลับลงตรงหน้าเขา
ราชิตไม่ได้เอ่ยถามคำถามกับเธออย่างที่อีกฝ่ายรอคอย หากแต่มือหนากลับยื่นออกไปคว้าแฟ้มเอกสารเล่มนั้นมาเปิดอ่านด้วยตัวเองอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเพื่อแสดงความพอใจในผลตอบรับของคู่ค้าที่เขารอคอยมานานแสนนาน
“บริษัทลูกของเฉินกรุ๊ปตกลงจะใช้วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างสำนักงานใหม่จากเราแล้ว คุณดีใจไหมคะ”
ษริสาเอ่ยถามพลางเอนตัวไปด้านหน้าเพื่อใช้มือสัมผัสกับใบหน้าหล่อเหลาของผู้เป็นเจ้านาย ทว่าอีกฝ่ายกลับเอนตัวไปทางด้านหลังเพื่อหลบเลี่ยงการสัมผัสจากเธออย่างแนบเนียน
“ระวังกิริยาด้วยครับคุณริสา”
คนโดนตำหนิหน้างอง้ำอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะถอยออกไปยืนอยู่ข้างโต๊ะทำงานของเขาอย่างสงบเสงี่ยม
“ที่เราเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ เพราะคุณลดาใช่ไหมคะ” ผู้ช่วยเลขาสาวเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา ทว่าคนตรงหน้ากลับสั่นศีรษะเพื่อปฏิเสธ
“ไม่เกี่ยวกับลดาหรอก แต่นี่มันที่ทำงาน ถ้ามีใครมาเห็นเข้า เขาจะมองคุณไม่ดีเอาได้”
“แต่นี่มันห้องทำงานของท่านประธานนะคะ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากคุณก่อน นอกจากริสาแล้ว ใครจะกล้าเข้ามากัน” ษริสาโต้กลับ เพราะเธอรู้สึกไม่พอใจกับความเหินห่างที่เขามีให้ในช่วงหลายเดือนมานี้
“นอกจากคุณแล้วก็ยังมีจิน”
“แต่ว่าคุณจินเขาก็รู้เรื่องของเราดีไม่ใช่หรอคะ” หญิงสาวแย้งขึ้น
เนื่องจากจิณวัฒน์รับรู้ความสัมพันระหว่างเธอกับราชิตเป็นอย่างดี ต่อให้เขารู้เขาเห็นแล้วอย่างไร ถึงยังไงจิณวัฒน์ก็เป็นแค่เด็กในบ้านที่คนตรงหน้าเธอชุบเลี้ยงไว้ใกล้ตัวก็เท่านั้น เขาจะกล้ามีปากมีเสียงอะไรได้
หากว่าเธอได้กลายเป็นนายหญิงของบ้านหวังกิจรุ่งเรืองเมื่อไหร่ เขาก็เป็นได้แค่คนใช้ในสายตาเธอเท่านั้นล่ะ
ราชิตมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและไม่เห็นหัวคนอื่นของษริสาด้วยความรู้สึกของคนที่มองออกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ถ้าหากว่าเขาไม่จำเป็นต้องใช้เธอเป็นสะพานข้ามฟากไปหาเป้าหมายล่ะก็ เขาไม่มีทางพาตัวเองไปข้องเกี่ยวกับผู้หญิงประเภทนี้เด็ดขาด
“สำหรับผมแล้ว จินมีฐานะเท่าเทียมกันกับลดา”
คำพูดของราชิตทำให้ษริสาหน้าม้าน เพราะเธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้ยกเอาคนใช้ขึ้นมาอยู่ในฐานะเดียวกันกับคนในครอบครัว แค่ลดาคนเดียวเธอก็ยากจะรับมือแล้ว นี่เขายังเอาก้างชิ้นใหญ่อย่างจิณวัฒน์มาขวางทางเธออีก
น่าหงุดหงิดชะมัด!
“ค่ะ แล้วคุณจะให้ริสาติดต่อทางนั้นเลยไหมคะ” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่อง
“เอาไว้ก่อนแล้วกันครับ ผมมีนัดกับลูกค้าข้างนอก น่าจะกลับเข้าบริษัทอีกทีช่วงสี่โมงเย็น ยังไงคุณลองโทรไปถามเวลาจากทางนั้นดูก่อนก็ดีนะ หลังจากสี่โมงเขาสะดวกเมื่อไหร่ก็ให้นัดเวลามาได้เลย” ราชิตตอบกลับเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปคว้าเสื้อสูทตัวนอกที่พาดไว้บนพนักพิงของเก้าอี้ทำงานขึ้นมาสวม
“ให้ริสาช่วยนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ รบกวนตามจินเข้ามาพบผมที”
ร่างบางที่กำลังจะก้าวเข้ามาชะงักค้าง เพราะเห็นได้ชัดว่าครั้งนี้คนที่จะได้ไปคุยงานข้างนอกกับเขาคือจิณวัฒน์ ไม่ใช่เธอ
“คุณจิน… พาคุณลดาไปดูงานที่ฝ่ายการตลาดค่ะ ถ้าคุณจะออกไปข้างนอก ริสาพร้อมสแตนด์บายเสมอนะคะ” ษริสาพยายามขันอาสาอย่างกระตือรือร้น ทว่าอีกฝ่ายกลับสั่นศีรษะปฏิเสธ
“ตามมาทั้งจิน ทั้งลดาเลยครับ”
ผู้ช่วยเลขาสาวพยักหน้ารับ และทำท่าว่าจะเดินออกไปจากห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่ที่เธอไม่ได้ยืนกรานจะขอไปด้วย เนื่องจากครั้งนี้คนที่จะร่วมเดินทางไปพบลูกค้าข้างนอกไม่ได้มีเพียงแค่จิณวัฒน์เหมือนทุกครั้ง แต่ยังมีลดาที่ชอบทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองติดสอยห้อยตามไปด้วย
“อย่าลืมเช็กเวลากับทางนั้นให้ผมด้วยนะครับ” ราชิตกำชับ
“ค่ะ”
ร่างสูงโปร่งนั่งรออยู่ภายในรถตู้เป็นเวลาเกือบสิบนาที จนกระทั่งประตูรถถูกเลื่อนออกด้วยฝีมือของจิณวัฒน์ และตามมาด้วยร่างแบบบางของหญิงสาวที่เดินตามหลังอีกฝ่ายมาติดๆ
“รอนานไหมคะ ที่ฝ่ายการตลาดมีแต่เรื่องสนุกๆ เยอะเลย ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับคุณริสาของเฮียทั้งนั้น”
น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของคนที่พึ่งมาถึงสร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้คนรอเป็นอย่างมาก จนเขาอดไม่ได้ที่จะต้องเก็บเอาอารมณ์ฉุนเฉียวไปลงที่คนขับรถแทน
“ไอ้ทิวา!”
“ครับนาย”
“ถ้าไปไม่ถึงที่หมายภายในยี่สิบนาที เตรียมไส้แตกได้เลยมึง”
จิณวัฒน์เบิกตาโพลงด้วยความตกตะลึงในคำขู่นั้นยิ่งกว่าคนโดนขู่เองเสียอีก และถ้าหากว่าเขาไม่ยอมคิดหาวิธีให้ลดาเลิกพูดถึงษริสาเพื่อประชดประชันผู้เป็นนายล่ะก็ มีหวังทิวาได้ไส้แตกกลางถนนแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวแหงๆ
“เจ้” คนอายุน้อยที่สุดในรถเรียกขึ้น
“หืม?”
“เย็นนี้มีงานอีเว้นท์ของนักแสดงจากช่องหนึ่งร้อยสามสิบสามที่ห้างใกล้ๆ บริษัทเรานี่เอง เจ้ไปอยู่อังกฤษตั้งหลายปีได้ดูละครไทยบ้างไหมครับ มีนักแสดงที่ชอบบ้างไหม ถ้ามีเดี๋ยวเย็นนี้ผมจะพาแวะไปดูเอง รับรองว่ามีสาวสวยหนุ่มหล่อเพรียบ เอ่อ… ถ้าเจ้ยังไม่ได้เปลี่ยนสเปคไปชอบหนุ่มตาน้ำข้าวน่ะนะ”
ลดาหันไปให้ความสนใจกับคำพูดของจิณวัฒน์ ก่อนจะเอ่ยปฏิเสธแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด
“เจ้ชอบเจมส์ แต่วันนี้เขาคงไม่มาที่งานอีเว้นท์นี้หรอก”
คิ้วหนาของจิณวัฒน์ขมวดมุ่น แล้วถามกลับ “เจ้รู้ได้ยังไงครับ”
“โอ๊ยย! เจ้ก็ติดตามความเคลื่อนไหวของเขาผ่านทางอินสตราแกรมน่ะสิ ถ้าเขาจะมางานนี้ เขาก็คงลงตารางงานบอกแฟนคลับล่วงหน้าแล้ว ดูเหมือนรูปล่าสุดจะเที่ยวอยู่ยุโรปนู่นเลยมั้ง รู้อย่างนี้เจ้น่าจะอยู่เที่ยวที่อังกฤษนานอีกสักหน่อย เผื่อว่าจะได้ไปโป๊ะป๊ะกันกลางทางเหมือนนิยายรักโรแมนติก หูยย แค่คิดก็ฟินแล้วเหอะ”