บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 17 มีเท่าไหร่ข้ารับหมด

โจวเหวินหลงไปที่ร้านของหวังต้าหยูเป็นอันดับแรก เขายื่นกระบอกน้ำให้ต้าหยูลองชิมดู ทั้งยังบอกว่า กว่าที่พวกเขาจะทำให้น้ำใสสะอาดเช่นนี้ได้ มันใช้เวลาและผ่านกระบวนการมากแค่ไหน

“น้ำนี่ผ่านการต้มมาแล้วอย่างนั้นหรือ”

หวังต้าหยูยกกระบอกน้ำขึ้นมาดื่ม ความสดชื่นสบายกายทำให้เขากระชุ่มกระชวยอย่างบอกไม่ถูก

น้ำที่ผ่านการต้มแล้วมันจะเป็นแบบนี้ได้จริงหรือ?

เป็นไปได้ไหมว่า พวกเขาไม่ได้บอกรายละเอียดทั้งหมดให้ข้ารู้ แต่ถึงอย่างนั้น น้ำนี่ก็ใสสะอาดกว่าบ่อน้ำในชุมชนจริงๆ

“แน่นอนสิ ขั้นตอนการทำยุ่งยากมาก พวกข้าต้องออกแรงไปไม่น้อยเลยทีเดียว”

เหวินหลงใช้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขาพูดจาจริงจังออกมา ต้าผางกับโจวเว่ยหันมองหน้ากัน เหวินหลงพูดเกินจริงขนาดนั้นต้าหยูคนนี้จะหลงเชื่อจริงๆ หรือ

“งั้นรอข้าสักประเดี๋ยว ข้าจะไปเอาถังไม้ออกมาใส่น้ำ เจ้าบอกว่า หนึ่งอีแปะ ได้น้ำสามกระบวยใช่หรือไม่”

หวังต้าหยูถามย้ำ

“แน่นอน วันนี้วันดี กระบอกที่เจ้าดื่มไปก่อนหน้าข้าจะแถมให้ ไม่คิดเงิน”

“ดีๆ รอข้าก่อนนะ”

หวังต้าหยูสัมผัสได้ถึงความจริงใจของอีกฝ่ายจึงยิ้มหน้าระรื่นแล้วเดินเร็วๆ เข้าไปยังตัวบ้าน

โจวเหวินหลงหันไปยกคิ้ว แล้วยิ้มให้ลูกชายกับเพื่อนรัก

เห็นหรือเปล่า แค่เขากล่าวออกไปไม่กี่คำก็ขายน้ำได้แล้ว การค้านี้มีแต่ได้กับได้

ต้าผางอมยิ้มพลางชูนิ้วโป้งให้กับเหวินหลง โจวเว่ยยิ้มแห้งๆ ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะขายน้ำได้จริงๆ

หลังจากต้าหยูถือถังไม้ออกมาจากตัวบ้าน เขาก็บอกเหวินหลงว่าต้องการน้ำสิบอีแปะ

เหวินหลงยิ้มกว้างแล้วตักน้ำให้ต้าหยูอย่างตั้งใจ แถมยังแอบตักน้ำให้ต้าหยูอีกครึ่งกระบวยแล้วทำท่าทางไม่ให้เขาบอกใครว่าตนแอบแถมให้

“นี่เงินสิบอีแปะของเจ้า”

หวังต้าหยูมอบเงินให้เหวินหลง โจวเหวินหลงยิ้มกว้างแล้วมอบเงินนั้นให้ต้าผางอีกหนึ่งทอด

“ที่แท้น้ำสะอาดนี้ก็เป็นของเจ้า”

เถ้าแก่ร้านเครื่องปรุงหันไปส่งยิ้มให้ต้าผาง ต้าผางทำได้เพียงยิ้มโต้ตอบ

หลังจากนั้นสามบุรุษก็มุ่งหน้าไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง ที่อยู่ถัดไปอีกสองหมู่บ้าน เมื่อย่างเข้าไปในตัวชุมชนของหมู่บ้านกวนเว่ย ทั้งสามก็ถูกสายตาหลายคู่จับจ้องมา

“นั่นใช่คนของหมู่บ้านใดหรือ”

“ข้าไม่แน่ใจ”

“แล้วนั่นพวกเขามาทำอันใดถึงได้นำโอ่งน้ำขนาดใหญ่มาด้วย แถมยังมีกระบอกไม้ไผ่อีกจำนวนหนึ่ง”

หญิงสาวที่ออกเรือนแล้วกลุ่มหนึ่งที่กำลังนั่งดื่มชายามว่างกระซิบกระซาบกันอย่างสงสัย

“เราจะไปที่ใดต่อ”

ต้าผางเอ่ยถามเหวินหลง

“แน่นอนว่าต้องไปบ้านที่มีประตูสูงใหญ่ แบบนั้นถึงจะขายน้ำได้มากๆ”

โจวเหวินหลงยิ้มกว้าง เมื่อครู่เพียงแค่ต้าหยูได้ลิ้มรสน้ำในตุ่มเขาก็ยอมควักเงินออกมาจ่าย หากบ้านที่ร่ำรวยหน่อยได้ดื่มกินน้ำนี้ บางที พวกเขาอาจจะรับซื้อน้ำนี้ไว้เช่นกัน

“ท่านพ่อหมู่บ้านนี้ข้าไม่เคยมา ดูเหมือนว่าความแห้งแล้งของหมู่บ้านนี้จะน้อยกว่าหมู่บ้านของเรามาก”

โจวเว่ยลอบสังเกตพื้นที่โดยรอบ และผืนดินแถบบริเวณนี้ยังพอมีหญ้าสีเขียวขึ้นมาบ้าง ที่สำคัญต้นไม้ในหมู่บ้านแห่งนี้ก็ไม่ถึงกับยืนต้นตาย ต้นไม้บางต้นยังออกดอกออกใบประปรายเสียด้วยซ้ำ

“จริงๆ นี่ก็นานแล้วที่พ่อไม่ได้มายังหมู่บ้านแห่งนี้ หากม่านหรงไม่กำชับเอาไว้ว่าให้ไปที่หมู่บ้านที่มีอันจะกิน พ่อก็ลืมไปแล้วว่าเรามีญาติห่างๆ อยู่ที่หมู่บ้านนี้ด้วยเช่นกัน”

เหวินหลงยิ้มโชวฟันที่เรียงสวยของเขา เสียงหัวเราะเบาๆ นั้นทำให้ผู้คนที่อยู่ไม่ไกลจากเส้นทางนั้นหันไปมองทางเขาเป็นตาเดียว

“พวกเรามีเครือญาติที่หมู่บ้านนี้ด้วยหรือขอรับ”

โจวเว่ยจำได้ว่าท่านพ่อพาตนมาทางหมู่บ้านตงหยาง พอผ่านหมู่บ้านเซิงถงจึงได้มาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ ตลอดเส้นทางตามปกติแล้ว หมู่บ้านที่อยู่ติดเชิงเขาจะอุดมสมบูรณ์มากกว่า ทว่ายิ่งออกห่างจากเชิงเขามากเท่าไหร่ ความชื่นฉ่ำของพื้นดินก็เหมือนจะมีมากขึ้น พิลึกนักแต่ก็เป็นจริงดั่งที่ตาเห็น

“อันที่จริงแล้วนางเป็นลูกพี่ลูกน้องของท่านปู่ของเจ้า ตั้งแต่แต่งงานออกเรือนมายี่สิบปี พวกเราก็ห่างเหินกันมาก”

“ท่านพ่อ เช่นนั้นท่านอาก็เป็นผู้มีอันจะกินหน่ะสิขอรับ”

โจวเว่ยรู้สึกตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าตนก็มีญาติที่ร่ำรวยเงินทอง

“ก็คงจะเป็นเช่นนั้น”

“แล้วพวกท่านอาศัยอยู่ที่ใดในหมู่บ้านแห่งนี้หรือขอรับ”

“เรื่องนั้นพ่อไม่รู้หรอก ตอนที่ท่านอาของเจ้าแต่งงานออกเรือนข้ายังเด็กอยู่มาก ไหนเลยจะรู้ได้”

เหวินหลงส่ายหัวเบาๆ

“ไปที่บ้านหลังนั้นดีหรือไม่ บ้านหลังนั้นมีประตูบ้านสูงใหญ่ ไม่เหมือนกับบ้านอื่นๆ ที่เพียงแค่มีรั้วกั้น”

ต้าผางร้องบอกเหวินหลงพร้อมกับส่งสัญญาณให้เหวินหลงรับรู้

“ข้าก็ว่าจะไปบ้านหลังนั้นเช่นกัน”

โจวเหวินหลงยิ้มอ่อน เขาไม่ได้หันหลังกลับไปเหมือนเคยแล้วเร่งให้ลาเดินเร็วขึ้นเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย

“มีใครอยู่หรือไม่”

เมื่อเกวียนลาหยุดลง เหวินหลงกับบุตรชายก็ลงไปทำหน้าที่ของตน

โจวเว่ยเล็งเห็นแล้วว่าน้ำนี้อย่างไรก็ขายได้ ดังนั้นเขาจึงเดินเคียงข้างไปกับบิดา เพื่อพูดโน้มน้าวอีกฝ่ายอีกแรง

แอดดดด

ประตูรั้วบ้านที่อยู่ติดกับกำแพงเปิดออกมาช้าๆ

“พวกเจ้ามาหาใคร”

พ่อบ้านเดินออกมาต้อนรับพร้อมเอ่ยถามจุดประสงค์ของอีกฝ่าย

โจวเว่ยยื่นน้ำให้บิดา ส่วนเหวินหลงก็บอกกล่าวไปตามจริงว่าตนมาเพื่อขายน้ำสะอาด ก่อนจะยื่นกระบอกน้ำให้กับพ่อบ้านที่ยืนหน้าตึงเหมือนคนไม่รับแขก

พ่อบ้านหลงมองเข้าไปในกระบอกน้ำ น้ำนี้ไม่ขาวขุ่นแถมยังใสสะอาด พ่อบ้านหลงยกกระบอกน้ำขึ้นมาดื่มหนึ่งอึก ดวงวตาของเขาทอประกายเล็กน้อย ก่อนจะมองพินิจน้ำในกระบอกอย่างชั่งใจ

หากข้าซื้อน้ำนี้เข้าบ้าน นายท่านอี้จะต้องพึงพอใจอย่างแน่นอน เมื่อคิดอย่างรอบคอบ น้ำในหมู่บ้านก็ไม่ได้ขาดแคลน ทว่าน้ำก็ไม่ได้สะอาดชื่นใจเช่นนี้

“รอข้าก่อนก็แล้วกัน”

พ่อบ้านหลงถือกระบอกน้ำนั้นเข้าบ้านไป ก่อนเข้าไปเขาไม่ลืมที่จะถามว่าน้ำนี้ขายอย่างไร

“ท่านพ่อเราจะขายได้จริงหรือ ดูเหมือนเขาจะยังไม่ได้ตัดสินใจนะขอรับ”

โจวเว่ยที่ยืนข้างกายบิดาปาดเหงื่อออกจากใบหน้าเล็กน้อย

“ต้าผางเราตักน้ำใส่กระบอกไว้สักหน่อยเถอะ หากขายได้ขากลับเราจะได้มีน้ำดื่มกินระหว่างทาง”

โจวเหวินหลงมองดูเวลาแล้วเห็นว่าพระอาทิตย์ขึ้นใกล้จะตรงศีรษะแล้ว จึงหันไปทางต้าผางที่นั่งรออยู่บนเกวียนลา

“อย่าห่วงไปเลยข้าแบ่งน้ำมาต่างหากแล้วสี่กระบอก”

ต้าผางหันไปบอกเพื่อนรัก

“วันนี้ร้อนมาก ตักไว้อีกกระบอกเถอะ อย่างน้อยๆ ลาตัวนี้ก็ต้องการน้ำดื่มเช่นกัน”

เหวินหลงมองไปที่ลาของตนที่ทำท่าว่าจะเหนื่อยล้าเป็นพิเศษ

“ได้ๆ ข้าจะแบ่งน้ำไว้ให้เจ้าสี่ขาสองตัวนี้สักหกกระบอกแล้วกัน”

ต้าผางซับเหงื่อออกจากใบหน้าก่อนจะหากระบอกมาใส่น้ำแยกเอาไว้สำหรับลาสองตัว

“มาแล้วขอรับท่านพ่อ”

โจวเว่ยใช้ศอกสะกิดบิดา ต้าผางได้ยินดังนั้นก็ผ่อนลมหายใจออกมา ขอให้ขายได้ทีเถอะ ข้าจะถูกแดดเผาไปทั้งตัวแล้วเนี่ย

“พวกเจ้ามีน้ำเท่าไหร่”

พ่อบ้านเดินเร็วๆ ออกมาแล้วถามออกไป

“อย่างที่ท่านเห็นพวกเรามีน้ำหนึ่งโอ่งนั่น”

เหวินหลงผายมือไปทางโอ่งน้ำบนเกวียนลา ที่มีต้าผางคอยเฝ้าไม่ห่าง

“เช่นนั้นข้าจะรับเอาไว้ทั้งหมด”

สิ้นวาจาของพ่อบ้านหลง ต้าผางถึงกับยืนขึ้นอย่างตกใจ รับเอาไว้ทั้งหมด นั่นก็เท่ากับว่าวันนี้เขาขายน้ำได้หนึ่งโอ่งเลยงั้นหรือ

“ทั้งหมดเลยหรือขอรับ”

โจวเว่ยเงยหน้าขึ้นไปสบตากับพ่อบ้านหลงอย่างตื่นเต้น

“ใช่ รอประเดี๋ยวข้ากำลังให้คนงานยกถังน้ำออกมา”

พ่อบ้านหลงหันกลับเข้าไปในตัวบ้านเห็นคนงานสามสี่คนถือถังไม้ออกมาก็ยกยิ้มพอใจ

“เชิญพวกท่านคิดราคามาได้เลย”

เมื่อถังน้ำถูกวางตรงทางเข้า พ่อบ้านหลงก็ผายมือเชื้อเชิญอีกฝ่ายให้คำนวณราคา

ต้าผางเรียกให้เหวินหลงยกถังน้ำมา ครั้งนี้เขาเป็นคนตักน้ำด้วยตนเอง เมื่อตักน้ำจนหมดปรากฏว่ามีน้ำเพียงแค่หกถังส่วนราคาเงินที่ได้รับมาก็เท่ากับร้อยยี่สิบสองอีแปะ

“ข้าปัดเศษให้เป็นหนึ่งร้อยยี่สิบอีแปะขอรับ”

ต้าผางลงมาจากเกวียนลาแล้วถูมือตนเองอย่างตื่นเต้น

พ่อบ้านหลงมอบเงินอีแปะให้กับต้าผาง แล้วพูดเน้นย้ำว่า หากมีน้ำเช่นนี้อีกให้ส่งมาให้พวกเขา พวกเขาจะรับมันไว้ทั้งหมดเอง

ต้าผางกับสองพ่อลูกแซ่โจวดวงตาเป็นประกายอย่างดีใจ

“เช่นนั้นครั้งหน้า พวกข้าจะนำน้ำที่ผ่านการกรองดีแล้วมาขายให้ใหม่นะขอรับ”

เหวินหลงพูดจาประจบอีกฝ่ายทันที

“อืม ครั้งหน้าก็เรียกหาข้าได้เลย ข้ามีนามว่าหลงอี้เทียน เป็นพ่อบ้านของตระกูลอี้แห่งนี้”

พ่อบ้านหลงแนะนำตนเองก่อนจะหันไปสั่งให้คนงานนำน้ำสะอาดเข้าไปในเรือนใหญ่

“ข้ารับทราบแล้วขอรับ ครั้งหน้าพวกเราจะมาที่แห่งนี้เป็นอันดับแรก”

ต้าผางก้มหัวน้อมรับคำสั่งซื้อ

“เช่นนั้นพวกข้าลานะขอรับ”

เหวินหลงก้มหัวเล็กน้อยก่อนจะขึ้นไปประจำตำแหน่งคนบังคับเกวียนลา โจวเว่ยยิ้มกว้างแล้วเดินไปขึ้นเกวียนลาพร้อมท่านลุงไป๋

พ่อบ้านหลงเห็นดังนั้นก็เดินเข้าบ้านแล้วปิดประตูหน้าจวนทันที

“ต้าผางพวกเราทำเงินได้จริงๆ ด้วย”

เหวินหลงกล่าวยิ้มแย้มและบังคับเกวียนลาให้หันกลับไปที่เส้นทางเดิม

“ดีจริงๆ เมื่อเช้าได้มาจากต้าหยูสิบอีแปะและยังได้มาเพิ่มอีกหนึ่งร้อยยี่สิบอีแปะ ทีนี้ข้าก็มีเงินซื้อข้าวสารกรอกหม้อแล้ว”

ต้าผางยิ้มกว้าง ก่อนจะส่งเงินให้เหวินหลงครึ่งหนึ่ง

“ข้าไม่ใช่เจ้าของน้ำเสียหน่อย ข้าจะรับเงินมากมายมาได้อย่างไร เอาแบบนี้ก็แล้วกัน พอกลับไปถึงบ้านพวกเราค่อยไปถามม่านหรงว่าจะให้ค่าแรงข้าอย่างไรดี”

เหวินหลงยิ้มกว้าง เขารู้ว่าตอนนี้ต้าผางฟังคำบุตรสาวเป็นที่สุด เช่นนั้นยกหน้าที่การตัดสินใจให้ม่านหรงเลยก็แล้วกัน

“ท่านพ่อ!! แล้วถ้าเกิดว่าม่านหรงไม่แบ่งส่วนแบ่งให้ล่ะขอรับ”

โจวเว่ยถามบิดาเสียงอ่อย

“ถ้านางไม่ให้ก็คือไม่ให้สิ เมื่อวานทั้งเช้าทั้งเย็นก็เป็นม่านหรงที่ลำบากหุงหาข้าวปลาให้เจ้า ไก่ที่เจ้ากินเข้าไปมันถูกขับถ่ายออกมาแล้วสินะถึงได้พูดจาเห็นแก่ได้แบบนี้ออกมา”

เหวินหลงหันกลับไปมองบุตรชายแล้วตำหนิเขาด้วยใบหน้าไม่พอใจ

“โจวเว่ยอย่าห่วงไปเลย ถึงม่านหรงนางจะเป็นเด็กและอายุน้อยกว่าเจ้า แต่ลุงเชื่อ ว่านางจะไม่เอาเปรียบเจ้ากับพ่อของเจ้าอย่างแน่นอน”

ต้าผางหันไปส่งยิ้มให้โจวเว่ย ก่อนจะต่อว่าเหวินหลงที่ว่ากล่าวบุตรชายออกไปแบบนั้น

“มันก็จริงไม่ใช่หรือ อย่างไรเสีย เจ้ากับครอบครัวก็ช่วยข้าสร้างบ้าน ทั้งยังเอาข้าวสารออกมาทำอาหารเลี้ยง เนื้อไก่นั่นในยามนี้ก็หาได้ถูกไม่ ลูกชายข้าพูดจาแบบนั้นออกไป หากม่านหรงได้ยินเข้านางก็คงรู้สึกไม่ดี”

เหวินหลงพูดแก้ต่างให้ตนเอง เป็นเขาที่สอนสั่งลูกชายไม่ดีเองถึงได้กล้าพูดถ้อยคำเห็นแก่ได้แบบนี้ออกมา

“ท่านลุงไป๋ข้าผิดเองขอรับ เป็นข้าที่เห็นแก่ได้ทั้งๆ ที่รู้ว่าท่านลุงมีน้ำใจมากแค่ไหน”

โจวเว่ยมีใบหน้าหมองลงเล็กน้อย ตอนแรกเขาแค่คิดอยากได้สิ่งตอบแทน แต่พอท่านพ่อกล่าวมาเช่นนั้น มันก็เป็นจริงดังว่า เขารู้สึกว่าตนเองไร้ยางอายจนแทบไม่กล้าสู้หน้าท่านลุงไป๋แล้ว

“พวกเจ้าหน่ะคิดมากเกินไป พวกเราเป็นดั่งเครือญาติกัน เรื่องเล็กน้อยพวกนั้นข้าล้วนเต็มใจเอง เจ้าเองก็เลิกดุด่าบุตรชายได้แล้ว เร็วเข้าเถอะ ยิ่งกลับถึงบ้านเร็วเท่าไหร่เราก็จะได้อาบน้ำล้างตัวพักผ่อนเร็วเท่านั้น”

ต้าผางขยับไปลูบหลังโจวเว่ย และบอกว่าเขาไม่ผิด อย่าได้คิดมาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel