บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 คนคุ้นเคย - 1

เรื่องที่ไป๋ซูหนี่ว์ช่วยเหลือทางหอเย่วเซียงลี่ไว้ ได้รู้ไปถึงฮูหยินผู้เฒ่า เช้านี้ฮูหยินผู้เฒ่าจึงให้คนไปแจ้งแก่ไป๋ซูหนี่ว์ว่านางต้องการพบ พร้อมให้คนนำรถม้ามารับนางไปที่จวน

หลังได้รู้ความประสงค์ของฮูหยินผู้เฒ่า ไป๋ซูหนี่ว์จึงรีบแต่งตัวเพื่อออกไปที่จวนอันกั๋วกง

รถม้าที่ส่งไปรับไป๋ซูหนี่ว์จอดลงที่หน้าจวนอันกั๋วกง

ไป๋ซูหนี่ว์สวมชุดสีชมพูอ่อน คลุมทับด้วยชุดกันลมสีขาว ข้างเอวมีกระเป๋าใบเล็กกับพู่หยกรูปผีเสื้อห้อยอยู่ นางก้าวลงจากรถม้าอย่างระมัดระวัง พลางเงยหน้ามองป้ายไม้แกะสลักหน้าประตูเขียนว่า จวนอันกั๋วกง

เป็นครั้งแรกที่นางเหยียบย่างเข้าตระกูลใหญ่ ในใจจึงรู้สึกประหม่าอยู่เล็กน้อย พลางหลับตาสูดลมหายใจ เดินตามบ่าวรับใช้ของจวนผ่านประตูใหญ่เข้าไปข้างใน ตรงไปด้านทิศตะวันออกผ่านห้องต่างๆ

ในที่สุดก็เดินมาถึงหน้าประตูบานใหญ่ ประตูจึงถูกเปิดออก ฮูหยินผู้เฒ่าสวมชุดคลุมสีดำนั่งรออยู่ที่เก้าอี้ไม้ ถัดมาก็เป็นเจิ้งเหยียนถังและเฉินลี่หลิน ที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว

ไป๋ซูหนี่ว์ยอบกายทำความเคารพทั้งหมดด้วยความนอบน้อม

สายตาของฮูหยินผู้เฒ่าจดจ้องไปที่ไป๋ซูหนี่ว์ลอบประเมินคราหนึ่ง ก่อนยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน

“เจ้าเข้ามานั่งก่อนเถอะ” ไป๋ซูหนี่ว์นั่งลงข้างๆ เฉินลี่หลิน บ่าวหญิงจึงเข้ามารินน้ำชาให้นาง

ฮูหยินผู้เฒ่าได้ฟังเรื่องราวของนางจากเจิ้งเหยียนถังและเฉินลี่หลินมาบ้างแล้ว จึงรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยในวิชาแพทย์ของนาง วันนี้จึงถือโอกาสเชิญนางมาเพื่อขอบคุณให้ดีอีกครั้ง

“ได้ยินว่าเจ้าเป็นคนช่วยชีวิตเหยียนถัง ทั้งยังช่วยไล่คนที่จ้องทำลายชื่อเสียงหอเย่วเซียงลี่เอาไว้”

ไป๋ซูหนี่ว์ยิ้ม “เป็นเรื่องที่ข้าสมควรทำเจ้าคะฮูหยินผู้เฒ่า”

ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มน้อยๆ กับคำตอบของนาง “พ่อแม่เจ้าคงสอนมาดี เจ้าถึงได้จิตใจดีเช่นนี้”

พอฮูหยินผู้เฒ่าพูดถึงพ่อแม่ของนาง กิริยาท่าทางที่สดใสเมื่อครู่ของนางก็เปลี่ยนเป็นเศร้าลงไปถึงสามสี่ส่วน นางก้มหน้านิ่งเงียบไป

ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นท่าทางของไป๋ซูหนี่ว์ก็พลันตกใจ หันหน้าไปมองเจิ้งเหยียนถังอย่างงงวย ไม่รู้ว่ามีคำพูดใดไปกระทบจิตใจของนางหรือไม่

กำลังจะเอ่ยปากถามนาง แต่ทว่ามีเงาร่างสูงของเฉินฮุ่ยเจินเดินมาหยุดที่กลางห้องโถง ทำความเคารพฮูหยินผู้เฒ่ากับเจิ้งเหยียนถัง

“ท่านย่า ให้คนไปตามข้ามามีธุระอันใดหรือขอรับ”

“เจ้าเข้ามานั่งข้างๆ ย่าสิเจินเอ๋อร์”

เฉินฮุ่ยเจินเดินผ่านไป๋ซูหนี่ว์เข้าไปนั่งข้างฮูหยินผู้เฒ่า จึงสังเกตุเห็นสตรีที่นั่งอยู่ข้างๆ น้องสาว พลันรู้สึกคุ้นตากับใบหน้าของนางยิ่งนัก ทันใดสายตาของเขาก็ไปหยุดลงที่พู่หยกรูปผีเสื้อที่ห้อยเอวของนาง

เขาจำได้ว่าเมื่อห้าปีก่อนได้มอบมันไว้ให้กับไป๋ซูหนี่ว์ แล้วพู่หยกนี้มาอยู่บนตัวของสตรีผู้นี้ได้อย่างไร

หลังจากนั่งลงฮูหยินผู้เฒ่าจึงได้บอกชื่อแซ่ รวมถึงเรื่องราวที่ไป๋ซูหนี่ว์เคยทำไว้ให้เฉินฮุ่ยเจินฟัง พอฮูหยินผู้เฒ่าพูดจบเฉินฮุ่ยเจินก็นิ่งเงียบไป จ้องมองไป๋ซูหนี่ว์อย่างไม่ละสายตา

เจิ้งเหยียนถังเห็นว่าหลังจากฮูหยินผู้เฒ่าพูดจบเฉินฮุ่ยเจินก็นิ่งเงียบไปจึงแปลกใจกับท่าทางของเขา “เจ้าเป็นอะไรไปหรือเจินเอ๋อร์” เสียงของเจิ้งเหยียนถังเรียกสติให้เขากลับมา

การได้เจอหน้าคนที่อยู่ในความทรงจำของเขาถึงห้าปีด้วยความบังเอิญในวันนี้ เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อยิ่งนัก

ยิ่งฟังเรื่องราวที่ฮูหยินผู้เฒ่าพูดเมื่อครู่ก็ยิ่งทำให้เขาเกิดความมั่นใจขึ้นมาหลายส่วน มุมปากจึงยกยิ้ม ความรู้สึกหมื่นพันยากที่จะเอ่ย

“เมื่อห้าปีก่อนข้าก็เคยถูกแม่นางไป๋ช่วยชีวิตไว้เหมือนกันขอรับท่านย่า ท่านแม่”

ฮูหยินผู้เฒ่ากับเจิ้งเหยียนถังมองเฉินฮุ่ยเจินด้วยความประหลาดใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel