บทที่ 5 คนคุ้นเคย - 2
เมื่อได้ยินเฉินฮุ่ยเจินบอกว่านางเคยช่วยชีวิตเขาไว้เมื่อห้าปีก่อน ไป๋ซูหนี่ว์ก็หันไปมองชายหนุ่มร่างสูงอีกครั้ง เพียงทบทวนชั่วครู่ก็จดจำเขาได้
ทั้งคู่พลันเรียกชื่ออีกฝ่ายขึ้นพร้อมกัน จึงสร้างความประหลาดใจให้ทุกคนในห้องอีกครั้ง
เฉินฮุ่ยเจินจึงได้เล่าเรื่องราวเมื่อห้าปีก่อนให้ทุกคนฟังอย่างละเอียด
“ที่แท้เรื่องก็เป็นเช่นนี้” ฮูหยินผู้เฒ่าพูดพลางยิ้ม “นับเป็นเรื่องดียิ่ง ช่างเป็นวาสนาโดยแท้”
“ไม่น่าเชื่อว่าแม่นางไป๋จะมีบุญคุณกับครอบครัวเรามากขนาดนี้เลยเจ้าค่ะท่านย่า ท่านแม่” เฉินลี่หลินยิ้ม
ยิ่งได้ฟังเรื่องราวของนางจากปากเฉินฮุ่ยเจิน และสังเกตุเห็นสายตาของหลานชายที่มองไป๋ซูหนี่ว์แล้ว ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่ามั่นใจในสายตาของตัวเองขึ้นมาหลายส่วน
ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มอย่างอารมณ์ดี พลางเอ่ยชวนให้ไป๋ซูหนี่ว์ร่วมโต๊ะกินข้าวก่อนกลับ
แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้รู้จักกับไป๋ซูหนี่ว์ แต่ฮูหยินผู้เฒ่ากลับรู้สึกถูกชะตานาง
ดังนั้นในที่ระหว่างกินข้าวฮูหยินผู้เฒ่าก็ได้เล่าเรื่องราวของเฉินฮุ่ยเจินให้ไป๋ซูหนี่ว์ฟังหลายอย่าง ในวันนี้นางพลันกระจ่างกับฐานะของเขาในทันที
อีกทั้งเรื่องการรักษาดวงตาของเฉินลี่หลิน ที่นางได้นำมาปรึกษาก่อนหน้านี้ ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่ายินดีที่จะให้ไป๋ซูหนี่ว์ทำการรักษาอีกครั้ง
ได้ยินฮูหยินผู้เฒ่าพูดเช่นนั้นทำให้นางรู้สึกยินดียิ่งนัก เพราะนอกจากจะได้ช่วยให้คนๆ หนึ่งกลับมามองเห็นอีกครั้ง อย่างน้อยนางก็อาจจะได้เบาะแสจากเรื่องพิษที่เฉินลี่หลินได้รับ
หลังร่วมโต๊ะกินข้าว ไป๋ซูหนี่ว์เห็นว่าสมควรแก่เวลา จึงได้ลาทุกคนเพื่อที่จะกลับมาเตรียมตัวทำงาน
ก่อนกลับฮูหยินผู้เฒ่าได้มอบรางวัลให้นางเป็นเครื่องประดับหนึ่งกล่อง ตั๋วเงินอีกหนึ่งร้อยตำลึง* ตอบแทนน้ำใจนาง
ไป๋ซูหนี่ว์จะไม่รับเพราะเห็นว่ามากไปจึงคิดจะส่งคืน แต่กลับถูกปฏิเสธ นางจึงจำใจรับน้ำใจของฮูหยินผู้เฒ่าไว้
หลังจากที่ได้รู้ว่าไป๋ซูหนี่ว์ถูกเรียกให้ไปที่จวนอันก๋วกง ทุกคนในคณะละครก็กระวนกระวายใจ เกรงว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นกับนาง ทันทีที่ไป๋ซูหนี่ว์มาถึงก็ถูกเจาซานเซินลากตัวไปหาพ่อแม่ของเขา
กู่ฉิงหมิงร้อนใจจนนั่งไม่ติด เมื่อไป๋ซูหนี่ว์มาถึงก็รีบร้อนเข้าไปหานางด้วยความเป็นห่วง
“อาหนี่ว์ เรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร ไหนเล่าให้พวกเราฟังเร็วเข้า” พลางเดินรอบตัวของไป๋ซูหนี่ว์ “เจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า พวกเขาได้ลงมือกับเจ้าหรือไม่”
“ใช่ๆ อาหนี่ว์มีอะไรก็เล่ามาให้ละเอียดเลย” เจาปู้จีเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ต่อให้พวกเขาจะเลิกจ้างพวกเราๆ ก็ไปหาที่อยู่ใหม่ก็ได้”
ไป๋ซูหนี่ว์ยิ้มน้อยๆ จับมือกู่ฉิงหมิงพูดว่า “ท่านป้า ท่านลุง อย่าได้ร้อนใจไปเลย ข้าไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น”
ไป๋ซูหนี่ว์จึงได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ทุกคนฟังอย่างละเอียด พูดจบจึงยื่นของที่ฮูหยินผู้เฒ่าตอบแทนน้ำใจนางส่งให้กู่ฉิงหมิงเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในคณะละคร
*ตำลึง คือค่าเงินของจีนโบราณ หนึ่งตำลึงเงินเท่ากับหนึ่งก้วนเหรียญทองแดง
