บท
ตั้งค่า

๒ รักหวานชื่น (๑)

รักหวานชื่น

เมื่อส่งขนมให้ชายหนุ่มเรียบร้อย เธอก็เดินขึ้นบันไดด้วยใบหน้ายิ้มแป้น ความสุขล้นอกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เปิดประตูเข้าห้องของตัวเองแล้วคิดจะเริ่มลงมือทำงานแปล ทว่าก็หันเหความสนใจไปยังตุ๊กตาหมีสีเทาที่นอนอยู่บนเตียง

ร่างบางถลาลงเบาะนุ่มพร้อมคว้าหมีตัวเก่งมากอดเอาไว้ สิ่งเดียวที่เธอขาดไม่ได้คือตุ๊กตาที่มารดาซื้อให้ตอนเด็ก ไม่ว่าจะไปอยู่ไหนก็ต้องเอาไปด้วยตลอด ถือเป็นของแทนใจพอให้คลายคิดถึงคนที่จากโลกนี้ไปไกลแสนไกล

ไม่ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหล่อนก็มักจะพูดกับพี่หมีตลอด ทั้งยังตั้งชื่อให้อีกต่างหากว่าพิ้งค์ถึงจะไม่ตรงกับสีของมันก็ตาม เพราะหล่อนตั้งตามความชอบของตัวเอง

ตอนนี้คนในครอบครัวของจิรัศยาเหลือเพียงแค่ตุ๊กตาตัวนี้ตัวเดียว ญาติทั้งฝั่งพ่อและฝั่งแม่ไม่มีใครสนใจเธอสักคน ต่างแสดงท่าทีรังเกียจไม่ต้อนรับ ยิ่งมีเรื่องเจ้าหนี้ตามทวงเงินก็ทำให้หญิงสาวไม่เป็นที่ต้อนรับ

ครั้งยังมีเงินทุกคนนับเป็นเครือญาติ แต่พอสิ้นเนื้อประดาตัวแค่เห็นหน้าหล่อนก็เดินหนีกันแล้ว

หญิงสาวจึงตัดสินใจพึ่งพาตัวเอง ไม่ยอมไปอ้อนวอนขอร้องความเห็นใจจากใคร

“พี่โมกข์ให้อภัยเราแล้ว พี่โมกข์ไม่โกรธเราแหละ น้องพิ้งค์ดีใจกับเราไหม อื้อ” กอดหมีสีเข้มเอาไว้แล้วกลิ้งไปมาบนเตียง ยิ้มและหัวเราะราวคนบ้าเมื่อความสุขมันล้นอก เธอกลัวมาตลอดว่าเขาจะเกลียดจนไม่อยากมองหน้ากัน

แต่พอได้พบอีกครั้งกลับเป็นโมกข์ที่เดินเข้ามาทักทาย แล้วยังเข้ามาช่วยเหลือเรื่องต่างๆ ถึงจะเป็นความสงสารเมื่อเห็นเธอตกต่ำก็ตาม

อย่างน้อยเขาก็ต้องรู้สึกอะไรกับหล่อนบ้างแหละ...ยังรักกันอยู่หรือเปล่านะ

ค่อยลุกนั่งขัดสมาธิบนเตียง คว้าโทรศัพท์มากดเปิดรูปของตนกับเขาครั้งที่ยังครองรักกันเพื่ออวดเจ้าหมีตัวเก่ง เมื่อเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวกำลังทำงานคงไม่มีเวลาคุยด้วย จึงใช้ตุ๊กตาคุยเป็นเพื่อนแก้เหงา หล่อนเก็บความสุขครั้งนั้นของตัวเองไว้อย่างดี

ทุกภาพที่ถ่ายกับเขา ทุกความทรงจำที่ทำร่วมกัน จิรัศยาไม่เคยลืมเลยสักครั้ง

พร้อมกับความเจ็บปวดที่มอบให้ชายหนุ่มเช่นเดียวกัน ยังรู้สึกผิดมาถึงทุกวันนี้และอยากเอ่ยขอโทษเสมอมา

“รูปแรกที่เรากับพี่เขาถ่ายด้วยกัน น้องพิ้งค์จำได้หรือเปล่า ตอนที่คุยกับเขานะเราใจเต้นแรงมากเลย แล้วตอนที่เรากับเขาได้คบกันเหมือนว่ามันไม่ใช่ความจริงเป็นแค่ฝันของเราคนเดียว พี่สุดหล่อคนนั้นเป็นของเรา” ยังจำได้ที่เข้าไปหาโน้ตเพลงแล้วพบหนุ่มหล่อกำลังเก็บเก้าอี้

เขาคือว่าที่คุณครูหน้าตาดีที่เพื่อนของหล่อนพูดถึงหรือเปล่า แล้วคำพูดของกลุ่มเพื่อนก็ไม่เกินจริงสักนิด ใบหน้าหล่อเหลากับดวงตาเรียวยาว ยิ่งถูกจ้องนานเท่าไหร่ก็เหมือนว่าจะถูกมนต์เสน่ห์ของเขาดึงดูดให้หลงใหลแต่เพียงชายหนุ่มผู้เดียว

เธอหลงรักเขาเข้าเต็มหัวใจ...จึงได้แนะนำตัวเพื่ออยากทราบชื่อของอีกฝ่าย

หลังจากนั้นมีบ่อยครั้งที่เราบังเอิญเจอกัน ทว่าส่วนมากเป็นเธอที่พยายามเอาตัวเองไปให้เขาเจอ ก่อนที่อีกฝ่ายจะขอเบอร์แล้วเราก็โทรคุยกันทุกคืนเกือบสัปดาห์ โมกข์จึงขอเป็นแฟนทางโทรศัพท์ วันต่อมาก็ควงคู่กินข้าวที่โรงอาหารคณะหล่อน

กลายเป็นที่กล่าวขานว่ารุ่นพี่คณะครุศาสตร์ มีสาวอักษรจับจองหัวใจหมดทั้งดวง...

“บอกมีน...ไม่เอาดีกว่า ค่อยบอกแล้วกัน” อยากแบ่งปันความสุขกับเพื่อนสนิทที่เหลือเพียงคนเดียวอย่างมีนาก็ต้องปัดความคิดนั้นทิ้ง เพื่อนเธอเป็นผู้ช่วยผู้กำกับคงไม่มีเวลาว่างมานั่งฟังเรื่องที่ตนพร่ำเพ้อพรรณนาหรอก

นั่งดูรูปแล้วคิดถึงเรื่องในอดีตของเราที่มีแต่ความหวาน ก่อนจะชะงักเมื่อตอนจบไม่ได้สมหวังอย่างพระนางในละคร เป็นความขมที่เธอจำมาจนถึงทุกวันนี้จนไม่กล้ารักใครอีก

ความผิดยังย้ำเตือนให้นึกถึงเพียงโมกข์ จนหลายต่อหลายครั้งที่เธอฝันว่าได้กลับไปแก้ไขเรื่องราวเหล่านั้น แต่เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบความจริงว่าเธอไม่อาจกลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นได้อีกแล้ว

และเขาก็มีชีวิตที่ดี โด่งดังในเส้นทางการเป็นนักแสดง ส่วนเธอก็อยู่ในมุมของตัวเอง เป็นแค่แฟนคลับที่ภาวนาให้โมกข์พบเจอแต่ความสุขตลอดไป

เมื่อความคิดเริ่มฟุ้งซ่านเธอก็ต้องดึงสติของตัวเองกลับมา รีบทำงานแปลของตัวเองเพราะต้องรีบส่งให้ทันเย็นนี้ หญิงสาวใช้วิชาที่ร่ำเรียนให้เป็นประโยชน์ แปลเอกสารอย่างขะมักเขม้นถึงท้องจะร้องประท้วงด้วยความหิว ก็แค่หยิบกล้วยมากินประทังความหิวไปก่อน ไม่มีเวลาจะลุกไปทำอาหารด้วยซ้ำ

สิ่งสำคัญตอนนี้คือเงินอย่างเดียว...

“ค่ำแล้วเหรอ” สวมแว่นแล้วนั่งหน้าคอมมาหลายชั่วโมง รู้ตัวอีกทีก็พบว่านอกหน้าต่างเปลี่ยนจากสีสว่างเป็นสีทึบแล้ว เหลือบมองเวลาที่ขอบจอก็พบว่าตอนนี้สิบแปดนาฬิกาแล้ว ทำไมเวลาผ่านไปเร็วเช่นนี้จนเธอไม่รู้ตัวสักนิด

เธอบิดกายเพื่อไล่ความเมื่อย ส่งงานให้ผู้ว่าจ้างพร้อมกับเงินอีกครึ่งซึ่งโอนเข้าบัญชีเรียบร้อย รอยยิ้มหวานจึงปรากฏขึ้นอย่างมีความสุข เงินที่เก็บไว้ใกล้จะจ่ายหนี้ครบแล้ว เธอจะได้เป็นอิสระไม่ต้องย้ายที่อยู่ไปเรื่อย

ใกล้มีบ้านเป็นหลักแหล่ง...เพียงแค่คิดก็ยิ้มแก้มปริ

แต่เวลานี้หล่อนต้องรีบกินข้าวเสียก่อน กินกล้วยมาสองมื้อแล้วถ้าให้กินอีกได้เอียนพอดี ตัดสินใจหยิบกระเป๋ามาสะพายเพื่อลงไปซื้ออาหารตามสั่งข้างล่าง ในตู้เย็นไม่มีวัตถุดิบเหลือสักอย่าง เอาไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยไปซื้อของเข้าตู้เย็นล่ะกัน

คิดได้อย่างนั้นก็รีบลงไปซื้ออาหารข้างล่างมารับประทาน เธอสั่งผัดกะเพราใส่กล่องจะได้ขึ้นมากินบนห้อง ไม่อยากอยู่ข้างนอกนานแล้วต้องเจอกับสายตาโลมเลียของผู้ชายที่หมายจะเข้ามาทำความรู้จัก บางทีหน้าตาของเธอก็เป็นภัยแก่ตนเองได้เหมือนกัน

ยิ่งอยู่ในหอพักซึ่งความปลอดภัยต่ำก็นอนหลับไม่สนิทสักคืน กลัวจะมีคนงัดเข้ามาทำมิดีมิร้าย แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกมากนัก...

จะหวังพึ่งเพื่อนตลอดไปก็ไม่ได้ กลัวว่ามีนาจะถูกพวกทวงหนี้ตามอีก จึงพยายามอยู่ตัวคนเดียวไม่ค่อยไปหาใคร ไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย

“เฮ้ย! เดือนนี้ยังไม่จ่ายเลย ตอนไหนจะจ่ายสักทีวะ พวกกูรอนานแล้วนะ” ระหว่างที่หญิงสาวกำลังจะเดินขึ้นบันไดเพื่อไปกินข้าวที่ห้องของตัวเอง เสียงทุ้มที่กลัวมาตลอดก็ดังขึ้นด้านหลัง หล่อนยืนนิ่งด้วยความตกใจ มือเท้าเย็นเฉียบค่อยหันหน้าไปมองชายฉกรรจ์ที่มากันสี่คน

ซึ่งหล่อนคุ้นหน้าค่าตาอีกฝ่ายเป็นอย่างดี...

คนทวงหนี้ที่พยายามตามทวงเอาเงินมาตลอดทั้งที่ตนก็จ่ายครบทุกงวด รู้ดีว่าสิ่งที่เจ้านายของมันต้องการไม่ใช่เงินหรอก แต่เป็นตัวของเธอต่างหาก

ยิ่งทำให้หญิงสาวขยาดและพยายามหนีมาตลอด!

ถือว่าเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควรกับความรู้สึกเหมือนไม่ปลอดภัยตลอดเวลา บิดาเสียไปแล้วยังทิ้งหนี้สินเอาไว้ เจ้าหนี้ก็ตามทวงแล้วยังอยากได้เธอไปบำเรอกามอีกต่างหาก ยังดีที่เอาตัวรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้

“จ่ายแล้วนะคะ” บอกในส่วนของตัวเอง พยายามเดินหนีไปห้องอื่นเพราะไม่อยากให้มันตามไปที่ห้องของตัวเองได้

เธอกลัวว่าคราวหน้าจะถูกบุกเข้ามาเอาตัวไปถึงในห้อง จึงต้องป้องกันทุกทาง...แต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทราบถึงที่อยู่ของตนได้อย่างไร

ไม่ค่อยออกจากห้อง ออกไปก็ปิดหน้าปิดตาตลอดเวลา แล้วคราวนี้พลาดตรงไหนกันนะ คำถามที่อยู่ในใจของหญิงสาวสุดท้ายก็ไม่ได้คำตอบเหมือนเดิม เพราะเธอไม่อาจถามคนตรงหน้าได้ เราอยู่ในสถานะลูกหนี้กับคนที่ตามทวงหนี้

“กูบอกว่ายังไม่จ่ายก็ยังไม่จ่ายสิ! มึงอย่ามาเล่นตุกติกกับกูเดี๋ยวยิงไส้แตกเลย” นอกจากเดินเข้ามาประชิดตัวแล้ว ยังหยิบเอาปืนมาขู่อีกต่างหาก

ร่างบางถึงกับยกมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก คิดจะหนีก็ทำไม่ได้ดั่งใจเพราะอีกฝ่ายเอาคนของตัวเองมาดักไว้ทุกทาง แล้วยังเดินนำไปยังห้องของเธอถูกอีกต่างหาก ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ เกือบเผลอหลุดวาจาหยาบคายออกมาแต่แล้วก็เลือกปิดปากเงียบ ค่อยตั้งสติแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมากดสลิปที่โอนเงินล่าสุดให้เจ้าหนี้ดู

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel