ตอนที่ 2 สวัสดีร่างใหม่ของฉัน
ตอนที่ 2 สวัสดีร่างใหม่ของฉัน
“อืมมมมม” อ่า ทำไมปวดเมื่อยร่างกายขนาดนี้เนี่ย สงสัยเป็นเป็นเพราะว่าเราอดหลับอดนอนมากไป ลูกพีชคิดในใจ อ่าทำไมรู้สึกเหมือนไม่มีแรงอย่างนี้ ท้องก็หิว
โครกก
“เสียงอะไรขอรับ! ท่านแม่” หมิงลู่ถาม
“เสียงอะไร แม่ไม่ได้ยินเลยนะ”
โครกกกกกก
ทุกคนในครอบครัวหันไปทางที่มาของเสียงทันที
“สงสัยพี่รองจะหิวนะขอรับท่านแม่” หมิงลู่ว่า
‘ได้กลิ่นเหมือนอาหาร ไม่ได้การแล้วเราต้องลุกไปกินเพื่อเพิ่มพลังให้ร่างการแล้ว’ ลูกพีชคิดพร้อมลืมตาแล้วก็ดีดตัวตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พอหันไปทางที่ได้กลิ่นอาหารกลับเจอกับคนแปลกหน้าหลายคนนั่งอยู่ ‘หรือเราเบลอ’ นางคิด พร้อมหลับตาทั้งสติแล้วลืมตาขึ้นอีกที
“เอะทำไมยังเห็นเหมือนเดิม?? หลับตาตั้งสติอีกรอบ” นางทำอย่างนี้อยู่หลายครั้งจนจิ้นสิงต้องเอ่ยถาม
“เจ้าเป็นอะไรหรือไม่ลูกพ่อ” ตอนนี้ทุกคนที่เห็นนางฟื้นมาแล้วรีบเข้ามาดูอาการ
“น้องรองเจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้าง” และอีกหลายทำถามที่ทุกคนเอ่ยถามกับนาง
“นี่มันอะไรกันเนี่ยยยย” หลังจากนางได้ฟังได้เห็นทุกคน จนไม่รู้จะมองหรือตอบใครก่อนดี หรือตั้งสติคิดว่าที่นี่คือที่ไหน แล้วภาพความทรงจำอันเลอะเลือนขาดๆ หายๆ ในชีวิตของร่างเดิมก็เข้าในหัวนางอย่างรวดเร็ว จนสมองน้อยๆนี้รับไม่ไหว “โอ๊ยยยยย หัวฉันทำไมปวดยังนี้ ปวด ปวดมาก” ปวดจนนางต้องเอามือทั้งสองขึ้นกุมหัว พร้อมปล่อยตัวลงนอนดิ้นที่พื้น
“เถาเอ๋อร์ เป็นอะไรลูก ลูกเจ็บตรงไหน ท่านพี่รีบไปถามหมอเถอะ ลูกแม่” นางลี่จูเข้าไปกอดลูกเริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
“ได้ๆ ข้าจะไปตามหมอมาประเดี๋ยวนี่” จิ้นสิงเอ่ยพร้อมรีบไปขออนุญาตท่านพ่อบ้าน และออกตามหมอที่อยู่นอกจวน
ผ่านไปชั่วครู่หลังจากสมองของลูกพีชได้รับข้อมูลต่างๆ จากร่างเดิมแล้วหัวที่ปวดอย่างหนักก็ค่อยๆ เบาลง จนตอนนี้นางนอนพักอยู่ได้โดยไม่ต้องโอดครวญแล้ว หลัวจากได้หลับตาคิดถามสิ่งที่เห็นเบื้องหน้ากับสิ่งที่วิ่งเข้ามาในหัว นางก็เริ่มจะเข้าใจอะไรได้มากขึ้นแล้ว แต่นางไม่คิดว่าจะมีเรื่องเหนือเชื่อแบบนี้เกิดขึ้นจริงพร้อมยังเกิดขึ้นกับนางอีกด้วย!!
‘แล้วถ้าเราอยู่นี่ แล้วเราที่บ้านจริงๆ ล่ะจะเป็นยังไง ตายแล้วเหรอ? เรายังไม่ได้ทำหน้าที่ลูกที่ดีเลยวันๆ ได้แต่เกาะพ่อกับแม่ ท่านจะต้องเสียใจมากแน่ๆ’ ขณะที่นางคิดถึงที่บ้านอยู่นี้น้ำตานางก็ค่อยๆไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
“เถาเอ๋อร์ลูก เจ็บปวดตรงไหนบอกแม่ได้ไหมลูก”
“พี่รองท่านเจ็บมากเลยใช่ไหมดูสิพี่รองต้องเจ็บมากแน่ๆ ถึงได้ร้องไห้น้ำตาไหลขนาดนี้” หมิงเลี่ยนแฝดคนโตเอ่ยถามพร้อมมองพี่สาวตัวเองด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยพร้อมที่ที่ร้องไห้ตามเต็มที่
“น้องรองเจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้าง เจ็บปวดตรงไหน” ลี่ถิงเอ่ยถามนางด้วยหน้าเศร้าไม่ต่างจากคนอื่นๆ ไม่กล้าเอามาจับเนื้อตัวของน้องสาว กลัวว่าจะยิ่งทำให้เจ็บปวดไปมากกว่าเดิม
เอาล่ะ!! ในเมื่อโชคชะตานำพาเราให้มาอยู่ในร่างหนูน้อยคนนี้แล้ว เราต้องทำหน้าที่แทนนางให้ดีที่สุด ในเมื่อทดแทนคุณพ่อแม่จริงๆ ไม่ได้ อยู่กับครอบครัวจริงๆ ไม่ได้ ต่อไปนี้เราจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดด้วยร่างของหนูน้อยคนนี้ โดยสิ่งแรกที่นางต้องทำตอนนี้คือต้องทำให้เสียงที่เริ่มร้องไห้สงสารนางของทุกคนหายไปเสียก่อน
ต่อไปนางก็คือ ชิงเถา
“ขะ- ข้าไม่ได้เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะท่านแม่ พี่ใหญ่ เจ้าแฝดพี่หายดีแล้ว” นางลืมตาบอกกล่าวกับทุกคนพร้อมกับจะลุกขึ้นนั่ง
“เจ้าอย่าพึ่งลุกเลยน้องรอง นอนพักก่อนเถอะ” ลี่ถิงบอกกับน้อง
“ข้านอนมาหลายวันแล้วเจ้าค่ะ อยากลุกขึ้นไปนั่งพักบ้าง ฮ่าๆๆๆ” นางบอกเมื่อนั่งและเอาหลังพิงผนังไว้ได้แล้ว
“พี่รองๆ ท่านหายแล้วจริงนะ” สองแฝดเริ่มสอบถามผู้พี่
“จริงสิพี่หายแล้วจริง” นางบอกด้วยรอยยิ้มเอ็นดู พอเห็นน้องชายทั้งสองที่โลกนี้แล้วก็คิดไปถึงน้องชายนางจากที่นางจากมา รายนั้นตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่ค่อยจะพูดเท่าไหร่นิ่งเงียบตลอดจะพูดทีก็ตอนบ่นนาง สั่งอาหาร กับให้สอนการบ้านให้นู้นแหล่ะ พอคิดถึงน้องชายหน้านางก็เริ่มกับมาเศร้าอีก
“พี่รองท่านเจ็บตรงไหนอีกไหมทำไมทำหน้าเศร้าล่ะ” หมิงลู่ถาม
“พี่ไม่เจ็บตรงไหนแล้ว ว่าแต่ท่านพ่อล่ะ” นางหันมายิ้มให้น้องชาย พร้อมเอ่ยถามกับมารดา
“พ่อเจ้าไปตามหมอมาดูอาการเจ้าน่ะ” นางลี่จูบอกกับบุตรสาว
“ข้าไม่เป็นไรแล้วท่านแม่ ไม่ต้องตามหมอมาให้เปลืองเงินหรอก” นางรีบบอกปัดเพราะรู้ว่าครอบครัวนางไม่ได้มีเงินเยอะพอจะมาจ่ายค่ายาค่าหมอให้นางขนาดนั้น
“ไม่ได้หรอกน้องรองร่างกายเจ้าต้องมาก่อน” ลี่ถิงบอกกับน้อง
“ข้าไม่เป็นไร ตอนนี้มีแต่ร่างกายอ่อนเพลียกินข้าวเยอะข้าก็หายดีแล้ว” นางบอกแก่ทุกคนอย่างยิ้มแย้ม
“ลูกคงหิวข้าวมากสินะ อาหารนี่ กินให้อิ่มนะลูก” นางลี่จูลี่รีบหยิบถ้วยข้าวตนมาให้ลูกได้กินทันที ตอนแรกชิงเถาอยากจะปฏิเสธเพราะไม่อยากแย่งข้าวกับใครแต่ทำไงได้ละตอนนี้ร่างกายมันต้องการจริงๆ นี่นา
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านแม่”
“กินของข้าด้วยพี่รอง” “นี่กินของข้าด้วย” แฝดทั้งสองก็รีบเอาข้าวของตนมาให้พี่สาวเช่นกัน
“ขอบคุณพวกเจ้าทั้งสองนะ ข้ากินเพียงเท่านี้ก็อิ่มแล้วล่ะ พวกเจ้ากินเถอะ จะได้โตเร็วๆ”
“ได้ไงล่ะพี่รองไม่ได้กินข้างตั้งหลายวันก็ต้องกินเข้าไปทดแทนวันก่อนด้วยนะ” “ข้ากินเยอะขนาดนั้นก็ท้องแตกตายพอดีสิพวกเจ้ากินเถอะ”
“เลี่ยนเอ๋อร์ ลู่เอ๋อร์ อย่ากวนพี่รองเลย ให้นางได้กินข้าวจะได้พักผ่อน” ลี่ถิงบอกแก่น้องทั้งสอง
“เชิญเลยท่านหมอทานี้ขอรับ” จิ้นสิงที่ออกไปตามหมอ รีบเชิญหมอชราเข้ามาทันที
“เชิญท่านหมอดูอาการลูกข้าด้วยเจ้าค่ะ” ลี่จูเอ่ยกับหมอ
“ทุกคนข้าไม่เป็นไรแล้วจริงไม่ต้องให้หมอตรวจหรอก สิ้นเปลืองเปล่าๆ” ชิงเถาบอกแกทุกคน
“เถาเอ๋อร์อย่างน้อยก็ให้ท่านหมอตรวจดูก่อน เราทุกคนจะได้สบายใจว่าเจ้าหายจริงๆแล้ว” ลี่จูบอกกับลูก พร้อมให้หมอเข้าไปตรวจ
“อืม อาการของนางหนูไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ร่างการอ่อนเพลียมากต้องบำรุงเยอะๆ” หมอชราบอก
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านหมอ ไม่ได้สั่งยาใช่มั้ยเจ้าค่ะ เชิญท่านหมอกลับได้เลยเจ้าค่ะ” ชิงเถานางรีบเอ่ยกับหมอชรา เพราะกลัวว่าหมอจะสั่งยามาแล้วครอบครัวนางจะต้องหาเงินมาซื้อยาให้แน่
“เถาเอ๋อร์ พูดแบบนี้ได้เยี่ยงไร ขออภัยท่านหมอด้วยเจ้าค่ะ นางยังเด็ก” ลี่จูเอ็ดลูกสาวแล้วหันมาขอโทษท่านหมอ
“ไม่เป็นไรๆ ถ้าไม่มีสิ่งใดแล้วข้าขอตัว” หมอชราบอก
“ลาท่านหมอ” ทุกคนในบ้านพร้อมใจกันกล่าว
“งั้นเชิญท่านหมอทางนี้ของรับ” จิ้นสิงเอ่ยพร้อมนำท่านหมอออกไป
“งั้นเจ้าก็พักผ่อนซะนะ แม่กับพี่เจ้าจะไปทำงานแล้ว ส่วนลูกทั้งสองก็เฝ้าพี่นี่ล่ะ” ลี่จูสั่งลูกๆ ทุกคน
“เจ้าค่ะ ท่านแม่ พี่ใหญ่โชคดีนะเจ้าคะ” ชิงเถาเอ่ยพร้อมมองพี่สาวด้วยสายตาเห็นใจเพราะนางต้องกลับไปเป็นสาวใช้ให้กับคุณหนูรองแล้วนั้นเอง ไม่รู้นางจะโดนแกล้งอะไรอีกบ้าง
“โชคดีอะไรกัน เจ้าก็พักผ่อนซะเถอะ” ลี่ถิงเอ่ยกับน้องพร้อมเดินออกไปพร้อมกับมารดา
“เจ้าทั้งสองกินข้าวต่อเถอะพี่จะนอนแล้ว” ชิงเถาบอกน้องชายหนังจากที่นั่งพักให้อาหารย่อน จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง เพื่อทบทวนเรื่องราวต่างๆอีกครั้ง จนหลับไป