Siren & Tie - 6 มากเกินไป
Siren & Tie - 6
มากเกินไป
“เป็นอะไรครับนั่งนิ่งเชียว” ใบหน้าหล่อเอ่ยถามเทียร์ที่ตั้งแต่ขึ้นรถมาก็นั่งนิ่งเกร็งเหมือนกลัวเขาอยู่
“ทำแบบนี้ทำไมคะ” จนเธอหันมาตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเล็กน้อย แต่ไซเรนกลับมองว่ามันน่ารักมากเมื่อเห็นใบหน้าของเธอเวลาโกรธเพราะมันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด
“ทำอะไรครับ?” เขาถามเสียงเรียบ
“สืบประวัติ” เทียร์ตอบเสียงเบาเขาต้องมีอำนาจมากแค่ไหนถึงจะสืบประวัติของเธอได้อย่างง่ายดายแบบนี้นี่มันไม่ปลอดภัยกับชีวิตเธอเลยสักนิดรวมถึงพ่อของเธอด้วย
“เทียร์รู้แล้วเหรอครับว่าผมเป็นใคร” ใบหน้าหล่อหันมาถามพร้อมรอยยิ้มเมื่อรถติดไฟแดงอยู่ เทียร์ยู่หน้าด้วยความไม่ชอบใจกับการตีมึนของอีกฝ่าย เขาทำเหมือนว่าเรื่องพวกนี้มันปกติมากและไม่ได้ผิดอะไรทั้ง ๆ ที่มันโคตรจะผิดเลย
“ตระกูลที่มีแต่เรื่องฉาวโฉ่ว่าโหดเหี้ยมกับลูกชายที่พึ่งเข้ามาบริหารงานได้ไม่นานแม้จะไม่เปิดเผยใบหน้าแต่ก็รู้ชื่อ…นั่นคือคุณใช่ไหมล่ะคะคุณไซเรน” ใบหน้าหล่อยกยิ้มให้กับความฉลาดและหัวไวของเธอมือหนายกขึ้นขยี้ผมบางอย่างเอ็นดูก่อนจะขับรถต่อที่จริงก็ไม่ได้ปิดบังอะไรถ้าเธอรู้มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรอยู่ดีนั่นแหละ
“ได้ข่าวว่าหาที่ฝึกงานอยู่เหรอครับมาทำงานกับผมไหม?”
“ไม่เอาค่ะ!” เทียร์ปฏิเสธแทบจะทันทีจนเขาอดขำไม่ได้แต่ก็ไม่ได้ตื้อต่อจนกระทั่งรถคันหรูขับมาถึงหน้าบ้านของเธอ
“สวัสดีครับ” ไซเรนเอ่ยทักทายพ่อของเทียร์อย่างนอบน้อมส่วนผู้เป็นพ่อแค่เห็นว่ามีรถแปลก ๆ มาจอดหน้าบ้านเลยออกมาดูไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวกับชายคนนั้นที่เคยช่วยเหลือและดูจากการแต่งตัวและรถหรูแล้วก็คงจะมีฐานะไม่น้อย
“พ่อคะเราเข้าบ้านกันเถอะ” ผู้เป็นพ่อมองหน้าลูกสาวที่อารมณ์ไม่ดีผิดปกติแต่ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่ายแต่ไซเรนก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
“เดี๋ยวก่อนครับ..ผมบอกแล้วว่าจะกลับมาตอบแทน” เทียร์มองไซเรนที่เดินไปเปิดหลังรถหยิบถุงหลากหลายถุงออกมาจนเธอตาโตกับชื่อแบรนด์หรูที่ติดอยู่ สองมือหนายัดมันมาที่มือของพ่อเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทั้งยังยื่นซองสีขาวให้อีก
“ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือนะครับ”
“นี่มันมากเกินไป..” พ่อของเธอเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ
“ไม่มากไปหรอกครับน้อยไปด้วยซ้ำหวังว่าจะชอบของขวัญที่ผมให้นะครับถ้างั้นผมขอตัว” พูดจบไซเรนขึ้นรถและขับออกไปทันทีเทียร์มองดูถุงทั้งหลายด้วยความหนักใจก่อนจะเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับผู้เป็นพ่อ
“เอาไงดีลูก” ทั้งสองมองหน้ากันอย่างหนักใจทั้งคู่มองดูของราคาแพงกับเงินอีกปึกหนึ่งที่ไซเรนเป็นคนเอามาให้
“รับไว้เถอะค่ะพ่อเอาไปคืนยังไงเขาก็ต้องไม่ยอมรับคืนอยู่ดี” เธอเอ่ยขึ้นแม้ใจจริจะไม่อยากรับไว้ก็ตามแต่ดูจากนิสัยและภูมิหลังของตระกูลแล้วถ้าหากคะยั้นคะยอจะคืนให้ได้เกิดไปสะกิดต่อมโมโหอีกฝ่ายขึ้นมาเธอกับพ่อน่าจะสิ้นชีพทันทีอย่างแน่นอน
“ก็ได้…ว่าแต่ลูกมากับพ่อหนุ่มนั่นได้ยังไง?” สายตาคมจ้องมองลูกสาวอย่างจับผิดใบหน้าสวยอึกอักเล็กน้อยก่อนจะตอบไป
“กะ ก็ไม่มีอะไรหรอกเขาแค่พาไปกินอาหารตอบแทนที่หนูช่วยเขานั่นแหละ”
“แล้วทำไมต้องหน้าแดง” คำพูดของพ่อทำเธอชะงักเล็กน้อยก่อนที่มือบางจะจับไปที่ใบหน้าของตัวเองที่ร้อนนิด ๆ
“กะก็อากาศในบ้านมันร้อนไงคะ ดึกแล้วหนูขอตัวไปนอนก่อนนะ!” เทียร์รีบจบบทสนทนาก่อนจะหนีขึ้นห้องไป ถ้าหากอยู่ให้พ่อถามต่อเธออาจจะหลุดบอกเรื่องที่เขาเป็นคนตระกูลแบล็คที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายก็เป็นได้และถ้าพ่อของเธอรู้เข้าแน่นอนว่าคงจะไม่สบายใจแน่ ๆ
มหาวิทยาลัย
“อะ อาจารย์ว่าไงนะคะ” เทียร์เอ่ยถามย้ำกับสิ่งที่พึ่งได้ยินเมื่อครู่นี้
“บริษัทของตระกูลแบล็คยินดีรับเธอเข้าฝึกงานนะ”
“ละแล้วบริษัทอื่น ๆ ล่ะคะ”
“เอิ่ม…ยังไม่มีการตอบกลับเลยนี่ก็ใกล้เวลาที่ต้องฝึกงานแล้วนะอาจารย์ว่าเธอฝึกงานที่บริษัทนั้นเถอะ”
“แต่ว่า…” เทียร์เอ่ยขึ้นอย่างหนักใจ
“ก็แล้วแต่นักศึกษาแล้วกันแต่ถ้ายังไม่เริ่มฝึกตอนนี้ก็คงจะจบไม่ทันปีการศึกษานี้หรอกนะ” ใบหน้าสวยเบ้ปากลงอย่างรู้สึกแย่ เธอเดินออกจากห้องอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนจะนั่งลงตรงม้าหินอ่อนใกล้ ๆ พร้อมถอนหายใจออกมายาว ๆ เนื่องจากเธอยื่นสมัครไปหลายที่มากแต่ก็ไม่มีที่ไหนตอบรับเธอเลยและมีเพียงที่เดียวที่ตอบรับเธอคือบริษัทของไซเรน
“เป็นไงบ้างยัยเทียร์” ใบหน้าสวยมองส้มเพื่อนสนิทที่เดินเข้ามานั่ง
“ส้มฉันจะทำยังไงดี ฉันไม่อยากไปฝึกงานที่นั่น”
“ที่ไหนอะ”
“ตระกูลแบล็ค” ส้มหน้าเหวอทันทีกับสิ่งที่ได้ยินก่อนจะใช้มือตบไหล่เพื่อนสาวเป็นการให้กำลังใจ
“เอาน่า ทำ ๆ ไปเถอะแค่ 3 เดือนเองหรือว่าแกจะลองหาใหม่ ฉันมีบริษัทแนะนำอยู่นะ” คำพูดของส้มเหมือนน้ำทิพย์ที่เข้ามาชโลมจิตใจที่แห้งเหี่ยวของเธอ ใบหน้าสวยตื่นเต้นขึ้นมาทันทีกับสิ่งที่ได้ยิน
“บริษัทไหนเหรอ”
“เอานี่เบอร์ ลองติดต่อดูฉันไปฝึกงานก่อนนะโชคดีนะแก” ส้มวางเอกสารไว้ให้ก่อนจะโบกมือลาเพื่อนด้วยรอยยิ้ม เทียร์รีบหยิบมาอ่านทันที ไม่ใช่มีแค่บริษัทเดียวมีอีกตั้งหลายบริษัทก่อนจะโทรไปตามเบอร์ที่แนบไว้ของบริษัทแรก
“สวัสดีค่ะ บริษัทxx รึเปล่าคะไม่ทราบว่ารับนักศึกษาฝึกงานไหมคะ?”
(รับครับ) ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
(ว่าแต่นักศึกษาชื่ออะไรครับ)
“ชื่อนางสาวทยาวีร์ค่ะ”
(อ๋อ..เหมือนว่าทางเราจะสื่อสารกันผิดพลาดนะครับ เราได้นักศึกษาฝึกงานครบแล้วขอโทษด้วยนะครับ)
และหลังจากนั้นสายก็ถูกตัดไป ใบหน้าสวยได้แต่นั่งนิ่งมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ยังไม่คิดอะไรเพราะในรายชื่อยังมีอีกหลายบริษัทให้เธอโทรหา มือบางกดเบอร์ของบริษัทที่สองทันที
(ชื่ออะไรคะ…อ๋อเหมือนว่าจะเต็มแล้วค่ะ)
(ชื่ออะไรครับ..อ๋า ทางเราไม่ได้รับนักศึกษาฝึกงานนะครับ)
“นะนี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นเนี่ยย!!” เทียร์ระเบิดอารมณ์อย่างโมโห เธอกำแผ่นเอกสารด้วยความโกรธจนมันยับยู่ยี่เพราะเธอไล่โทรตั้งแต่บริษัทแรกจนถึงบริษัทสุดท้าย ตอนแรกก็บอกว่ารับแต่พอเธอพูดชื่อไปทุกบริษัทก็บ่ายเบี่ยงทันที
“หรือว่า..” ใบหน้าสวยตาโตทันทีเพราะคิดว่าเรื่องแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นฝีมือของไซเรนแต่ก็สองจิตสองใจเพราะไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะมีอำนาจควบคุมได้หลายบริษัทขนาดนี้