12. ท่านอาไม่อ่อนโยน
ยามจื่อ [23:00-00:59]
แขกเหรื่อเริ่มทะยอยกันกลับแล้ว ส่วนบางคนก็ข้ามไปหาความสุขที่หอนางโลม รวมถึงคนของไป่เสวียนด้วย นาน ๆ ทีพวกเขาจะได้รับอนุญาตให้เที่ยวกลางคืน เพราะส่วนมากก็ติดตามผู้เป็นนายเสียส่วนใหญ่ ถ้าไป่เสวียนไม่คิดหาความสุข พวกเขาก็ไม่ได้ปลดปล่อยเช่นกัน แต่จากนี้คงได้มีความสุขกันทุกวัน เพราะเรือนพักอยู่ห่างจากหอชุยอวี้แค่ตรอกเดียว
ไฉ่เล่ออิงเดินกลับเรือนคนเดียว เพราะต้าจงแวะไปหาคนรักตามเคย ที่สำคัญเรือนฮวาของผู้เป็นนายก็มีแขกมาเพิ่มแล้ว มีองครักษ์เดินยามอยู่ตลอด รวมถึงเส้นทางที่นางเดินกลับเรือนด้วย ถึงแม้มันจะไม่ไกลเลยก็เถอะ
เล่ออิงเดินบิดตัวไปมาเพราะเหนื่อยล้ากับการทำงาน วันนี้นางรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวด้วย คาดว่าคงไปติดหวัดจากการรักษาสตรีในหอนางโลมที่ป่วยเมื่อเช้าเป็นแน่
นางเดินมาจนถึงบันไดขึ้นเรือนก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างสูงของไป่เสวียนยืนอยู่ด้านบน ‘เขาไม่ได้ไปกับพวกลูกน้องหรอกหรือ มายืนทำไมตรงนี้เนี่ยะ’ ก่นว่าอีกฝ่ายในใจ เพราะเขาไม่ได้ใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าเหมือนเมื่อตอนกลางวัน
“ท่านอามายืนทำอะไรตรงนี้เจ้าคะ ข้าตกใจแทบแย่” ตำหนิเขาอย่างที่ใจคิด เพราะปกติที่นี่มีแค่ต้าจงที่เป็นบุรุษพักอยู่ในเรือน ทว่าค่ำคืนนี้มีทั้งเวรยามที่เดินไปมาและคนตัวโตผู้นี้ด้วย
“ปกติเจ้าเข้าบ้านดึกเช่นนี้หรือ” เอ่ยถามเสียงเรียบ
“เจ้าค่ะ บางคืนก็เกือบเช้า ถ้ามีใครป่วย” บอกไปตามจริง ก่อนจะเอียงหน้ามองเขา “ท่านอายังดูรูปงามเหมือนเมื่อก่อนเลยนะเจ้าคะ ทั้งที่ผ่านมาตั้งสิบปีแล้ว” ยิ้มกริ่มพร้อมกับส่งสายตาสื่อความหมาย จนไป่เสวียนต้องส่งสายตาดุใส่ เขาคิดผิดจริง ๆ ที่ออกมายืนผ่อนคลายอาการมึนเมาที่มี
“ข้าจะเป็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า” ตั้งท่าจะเดินหนี ทว่าร่างเล็กก็ยังเดินตาม และถามคำถามที่ทำให้เขาต้องชะงัก
“ท่านอาแต่งงานหรือยังเจ้าคะ ข้าได้ยินพี่จีหยวนบอกว่าท่านอาไม่มีฮูหยิน ไม่มีอนุ เพราะไม่อยากมีพันธะกับผู้ใด จริงหรือไม่เจ้าคะ” จบคำถามนางก็ยิ้มรอฟังคำตอบ ทว่าสิ่งที่ได้กลับมาคือสายตาคมดุ แต่ไหนเลยไฉ่เล่ออิงจะกลัว โอกาสดี ๆ เช่นนี้หาไม่ได้อีกแล้ว กว่าจะได้พบเขาอีกครั้งมันไม่ใช่เรื่องง่าย ฉีไป่เสวียนอยู่ตรงหน้าแล้ว นางไม่ยอมปล่อยโดยไม่ทำอันใดแน่
“รู้แล้วจะถามทำไม หรืออยากร่วมเตียงกับข้า เจ้าถึงได้แสดงท่าทียั่วยวนเช่นนี้” ร่างสูงขยับเข้าใกล้ ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับผงะ มุมปากของไป่เสวียนยกขึ้นทันที เมื่อเห็นท่าทางของไฉ่เล่ออิง มันคงเป็นเช่นที่จีหยวนรายงาน นางแค่แสร้งทำตัวเหมือนสตรีมักมากเท่านั้น ทว่าความจริงหญิงสาวไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นเลย มิเช่นนั้นคงไม่ถอยห่างและตื่นตระหนก
“หึหึ นึกว่าจะแน่ ที่แท้ก็ขี้ขลาดตาขาว พอเอาจริงก็กลัวจนหัวหด” คนตัวโตเอ่ยหยัน เมื่อเห็นดวงตาสวยหลุบต่ำลง
ทว่ามันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น ไม่นานมันก็เปล่งประกายขึ้นอีก “ท่านอา ในที่สุดท่านก็เข้าใจความต้องการของข้า เช่นนั้นเข้าห้องกันเถอะเจ้าค่ะ” มือเล็กคว้าแขนแกร่งให้เดินตาม
“ไฉ่เล่ออิง!” ไป่เสวียนตวาดดังลั่น เขาพยายามควบคุมอารมณ์อย่างถึงที่สุด ทั้งโมโหที่นางแสดงท่าทีเช่นนี้ และอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นในร่างกายตามประสาบุรุษ เมื่อเห็นสตรีงามแต่งกายด้วยอาภรณ์น้อยชิ้น และมันก็ดูเย้ายวนมากด้วย
ใบหน้างามหันมาไม่มีท่าทางตื่นตระหนกเลยสักนิด มิหนำซ้ำยังเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับยกมือลูบแผงอกแกร่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงหวานยั่วยวนอย่างโจ่งแจ้ง
“แหม…ท่านอาเราก็แค่หาความสุขกันเท่านั้น ถือว่าข้าพลีกายตอบแทนบุญคุณท่านก็ได้ ชีวิตของเล่ออิงเป็นของท่านอานะเจ้าคะ หากไม่มีท่านอาข้าคงตายไปตั้งแต่สิบปีก่อนแล้ว เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องคิดมากเลย” คนตัวเล็กเอ่ยราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติไม่สำคัญอันใด ก็แค่หลับนอนกันเท่านั้น เขาไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดนางจึงขอเปิดหอนางโลม คงเพื่อการนี้นี่แหละ
ไป่เสวียนใช้มือบีบแขนนางจนเล่ออิงหน้าเสีย “เจ้าคงทำบ่อยสินะเวลาหิว ก็ได้ข้าจะสนองให้ ในเมื่อเจ้าอยากนัก แต่อย่าหวังว่าจะมีครั้งต่อไป เพราะข้าไม่กินซ้ำ” สิ้นคำเขาก็แบกร่างนางขึ้นบ่า พากลับห้องพักของตนทันที
เล่ออิงยกยิ้มกับการกระทำของเขา ไม่มีอาการตื่นตระหนกอย่างที่ควรจะเป็น นั่นเพราะบางสิ่งที่ตนปรารถนามาตั้งแต่ภพก่อน กำลังจะสมหวังแล้ว มันอาจดูโง่งมในสายตาผู้อื่น ทว่านางหาได้สนไม่ ขอแค่ได้อยู่ในอ้อมกอดบุรุษที่ตนเคยรักสักครั้งก็พอ ต่อให้มันไร้ค่าในความคิดเขา ทว่าอย่างน้อยไป่เสวียนก็คือบุรุษคนแรกที่ได้ครอบครองร่างกายนี้ ภายหน้าจะเป็นเช่นไรก็ช่าง
ร่างเล็กถูกวางลงบนเตียงอย่างไม่ปรานี ราวกับอีกฝ่ายโกรธแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางไหน ไป่เสวียนไม่มีคำว่าทะนุถนอมอยู่ในหัวเลยสักนิด อาภรณ์ที่นางสวมเขาก็ฉีกทึ้งออกจนขาดวิ่น ก่อนจะโยนมันกองลงข้างเตียงอย่างไม่ไยดี
ตามมาด้วยแรงขบเม้มตามร่างกายอันงดงาม ทว่าเขาไม่ได้หยุดชื่นชมมันด้วยซ้ำ เพราะหมายจะทำให้มันเสร็จ ๆ เท่านั้น
คนใต้ร่างก็ไม่ส่งเสียงคัดค้านใด ๆ ปล่อยให้เขาทำตามใจจนกระทั่งบางสิ่งกำลังจะล่วงล้ำเข้ามา ไฉ่เล่ออิงสะดุ้งเฮือกทันที เพราะด้านล่างมันยังปิดสนิทอยู่เลย
“ทะ…ท่านอาเบา ๆ นะเจ้าคะ” เป็นเสียงแรกที่นางเอ่ย หลังจากถูกเขาพาเข้ามาในห้อง เรียกสติไป่เสวียนได้เป็นอย่างดี ทว่าคนเช่นเขามีหรือจะสน ในเมื่อนางต้องการก็ไม่ควรจะร้องขอเช่นนี้ เขาจะทำให้ไฉ่เล่ออิงไม่ต้องการเรื่องพวกนี้อีกเลย
ท่อนลำซึ่งแข็งเต็มที่ถูกกดลงอย่างไม่ปรานีจนมิดในคราวเดียว ดวงตาสวยเอ่อล้นไปด้วยน้ำใสทันที ก่อนจะไหลลงที่หางตาราวทำนบแตก เพราะความเจ็บที่กำลังแล่นไปทั่วร่าง แม้แต่ตัวไป่เสวียนเองยังรู้สึกอึดอัดกับความคับแน่นที่ได้รับ และมันก็ทำให้เขาประจักษ์ในทันทีว่าสตรีใต้ร่างนางยังบริสุทธิ์ ไม่เคยต้องมือชายอย่างที่คิด ทว่าจะให้เขาเอาออกมันก็เป็นไปไม่ได้
“ฮึก…ฮือฮือ…เจ็บ” งอแงเหมือนเด็กไม่มีผิด คนบนตัวเลยต้องรีบโน้มใบหน้าลงมาใช้ปากประกบปิดเอาไว้ แต่ที่แย่คือเขาไม่เคยทำเช่นนี้กับใครมาก่อน
ปกติไป่เสวียนก็แค่สอดใส่เพื่อสำเร็จความใคร่เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเล้าโลมคู่นอน ทว่าที่เขาทำก็เพราะไม่อยากได้ยินเสียงร้องของนาง ฟังแล้วมันหดหู่อย่างไรไม่รู้
ทว่าพอได้แนบสัมผัสและขยับไปตามราคะที่ก่อเกิด มันกลับละมุนและหวานล้ำจนหยุดไม่ได้ ลิ้นอุ่นจึงสอดเข้าไปกวาดต้อนด้านใน เมื่อปลายลิ้นเปียกชุ่มปะทะกัน ความวาบหวิวก็ยิ่งทวีคูณ เพิ่มกำหนัดให้ทั้งคู่จนส่งเสียงครางออกมา
เอวสอบจึงไม่รอช้า เริ่มขยับตามหน้าที่ของมัน ตามมาด้วยเสียงหยาบโลนลั่นห้อง ผนวกกับเสียงครางกระเส่าของทั้งคู่
และมันก็เนิ่นนานจนเกือบรุ่งสางถึงได้สงบลง เพราะไป่เสวียนจับหลานสาวนอกไส้กินจนกระทั่งเจ้ามังกรของเขามันหมดแรง แม้แต่ไฉ่เล่ออิงก็ยังหลับไปทั้งที่เขาก็ยังกระแทกนางในรอบสุดท้าย แต่ก็ดีเหมือนกันที่นางไม่เห็น เขาเดินเข้าไปอาบน้ำชำระเนื้อตัว ทว่าพอกลับออกมาก็ไม่เห็นคนบนเตียงแล้ว
“เก่งนี่ ยังมีแรงเดินได้อีก”