ย้อนกลับมาอีกครั้ง
ทำไมเธอถึงต้องมีจุดจบแบบนี้ ลมหายใจที่สุดแสนทรมานของเสิ่นจินเฟิงกำลังจะหมดไป ได้แต่คิดว่าทำไมโชคชะตาถึงได้ใจร้ายกับเธอขนาดนี้ เด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป
ในตอนนั้นที่ทุกคนในบ้านเสิ่น แนะนำให้เธอแต่งงานกับผู้นำตระกูลโจวแทนน้องสาว ทำไมตอนนั้นเธอถึงปฏิเสธไป ไม่อย่างนั้นแล้ว ชีวิตของเธอคงไม่ตกต่ำอย่างกับตกนรกแบบนี้ การค้ามนุษย์ทำให้เสิ่นจินเฟิงไม่แตกต่างอะไรกับการตกนรกทั้งเป็น
เพราะน้องสาว อย่างเสิ่นอ้ายหนิงที่มาทำดีกับเธอตอนนั้น เพราะวางแผนกันเอาไว้ล่วงหน้าแล้วไม่ใช่หรือ ที่จะพาเธอออกมาขายในที่แบบนี้ สงสารก็แต่เด็กน้อยที่เกิดมาอย่างไม่รู้เรื่องราวอะไร
"แอ๊ ๆ " เสียงร้องของทารกในอ้อมกอด ค่อย ๆ จางหายไป และกลายเป็นความเงียบที่สงบนิ่ง
ในห้องเก็บของในตระกูลเสิ่น ของปี 1997 ปฏิทินเก่า ๆ ทำให้จินเฟิงรู้ว่าเธอกลับมาในปี 1997 ถ้าหากว่าจำไม่ผิด หลังจากนี้ไม่นานครอบครัวเสิ่นจะเสนอให้เธอแต่งงานกับผู้นำตระกูลโจวแทนน้องสาว คนพวกนี้ไม่แตกต่างจากสัตว์ร้าย ไม่เว้นแม่แต่พ่อที่ให้กำเนิดเธอก็ตามที กลับมาครั้งนี้เธอจะไม่เห็นแก่ใครทั้งนั้น เพราะชีวิตที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีใครเห็นใจเธอสักนิด
แววตาที่อ่อนต่อโลกของจินเฟิงได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เธอเรียนรู้ว่าความอ่อนต่อโลก ไม่มีทางที่จะทำให้เธอมีชีวิตรอดบนโลกที่โหดร้ายใบนี้ได้แน่ ๆ
เพราะแม่ของเธอเป็นหญิงสาวที่มาจากชนบท ท้องโดยที่ไม่ได้แต่งงานกับผู้เป็นพ่อ ทุกวันนี้อาศัยอยู่ในบ้านตระกูลเสิ่น ไม่ได้แตกต่างอะไรกับกาฝาก ที่ไม่ได้มีใครต้องการ
แต่นั่นก็ไม่ได้น่าแค้นเคืองกับสิ่งที่คนเหล่านั้นทำกับเธอ รอดูได้เลยว่าเธอจะจัดการกับคนเหล่านั้นได้เช่นไรบ้าง ตอนนี้สิ่งที่เธอได้เปรียบคือรู้แล้วว่ามังกรร้ายที่แกล้งป่วยอยู่ในตอนนี้ไม่ได้ป่วยจริง ๆ อีกไม่นานคนเห็นแก่ตัวเหล่านี้ก็จะเสนอให้เธอแต่งงานกับคนผู้นั้น เพียงเพราะคิดว่าเขานอนป่วยเป็นผัก และไม่เหมาะสมกับเสิ่นอ้ายหนิง
วันนี้ในตระกูลเสิ่นครึกครื้น จากท้ายครัวสาวใช้วิ่งกันวุ่นกับการเตรียมอาหาร ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าลูกสาวสุดที่รักของรักคงจะกลับบ้านมา เธอไม่ได้รับอนุญาตให้ไปวุ่นวายกับในบ้านใหญ่
แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว เธอเพิ่งจะกลับมาก็ต้องใช้เวลาจัดเรียงความคิดสักหน่อย คิดถึงเสียงร้องของทารกในอ้อมอก แม้ว่าจะเกิดมาด้วยความที่ไม่พร้อม แต่ความรู้สึกของการเป็นแม่ อย่างน้อยจินเฟิงก็ได้สัมผัสมันมาแล้ว
"แม่รับรองได้ว่า แม่จะเอาคืนมันทุกคน"
"นังจินเฟิง แกหายไปไหนมา ไปช่วยในครัวเตรียมอาหารเสียสิ"
น้ำเสียจิกกัดนั่นเป็นน้ำเสียงของคนงานในครัว แม้แต่คนงานในบ้านก็ไม่เคยมองว่าเธอก็เป็นคนบ้านเสิ่น คิดแล้วมันก็กลายเป็นความแค้นใจ แต่ไม่อาจที่จะทำอะไรได้ เพราะคนเหล่านี้แล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนของแม่เลี้ยงเธอทั้งนั้น การทำตัวเชื่อฟัง และทำตัวอ่อนต่อโลกแบบเดิม นั่นจะทำให้คนอื่นไม่สงสัยในตัวเธอ
"ค่ะ"
"เรื่องแค่นี้ต้องให้สั่ง ไม่รู้จักหน้าที่เอาซะเลย"
ความวุ่นวายในครัวเกิดขึ้นเร็วมาก ปานว่าจะจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ขึ้นมา ช่างเป็นบุตรสาวบ้านเสิ่นที่น่าอิจฉาจริง ๆ ทั้งมีอนาคต มีการงานที่ดี เป็นที่รักของคนในครอบครัว ก็ขอให้รักกันให้มากพอเถอะ
แววตาของเธอไหววูบ ก่อนที่จะรับอาหารที่ทางโรงครัวตักแจกจ่ายคนงาน ทว่าวันนี้ในส่วนของเธอกลับมีแค่ข้าวกับผักดองเท่านั้น ในขนาดที่ในชามอาหารของคนอื่นมีทั้งเนื้อและไข่ ถ้าต้องการที่จะเป็นจินเฟิงคนเดิมคือห้ามร้องประท้วง ไม่ว่าเจอเรื่องอะไรก็ทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับเท่านั้น
เพียงนั่งและคีบข้าวกับผักดองใส่ปาก เธอคำนวณรายชื่อของคนที่จะจัดการเอาไว้ในใจทีละคน รับรองว่าคิดบัญชีได้ครบไม่มีขาดมีเกินแน่ ๆ จะว่าไปแล้วไม่ได้กินข้าวกับผักดองมานานแล้วเหมือนกัน มันก็เป็นอะไรที่อร่อยทีเดียว
"ดูสิ เป็นถึงลูกสาวตระกูลเสิ่น น่าสมเพชจริง ๆ "
กระแนะกระแหน ที่น่าจะเป็นเรื่องที่คุ้นชินแล้ว เธอเพียงก้มหน้ากินอาหารและเดินกลับห้องพัก ที่เลวร้ายยิ่งกว่าห้องของคนใช้อีก ช่วยไม่ได้นี่ ตอนนี้เธอก็แค่บุคคลที่ไร้ค่าในบ้านเสิ่นเท่านั้น อย่างน้อย ๆ ในห้องเก็บของแคบ ๆ นี่ก็ยังดีกว่าพื้นที่ขุมนรกแห่งนั้น
เสียงฉลองกันอย่างเฮฮาในบ้านใหญ่ ดังจนกระทั่งหยุดลงที่เวลาเที่ยงคืนพอดี จินเฟิงออกมาเดินเล่น ทว่าสายตาปะทะกับร่างน้องสาวกับคนคนหนึ่ง แน่นอนล่ะว่าผู้ชายคนนี้เป็นทายาทตระกูลโจวสายรอง
เธอจำได้เป็นอย่างดี เพราะน้องสาวกับคนผู้นี้เป็นตัวตั้งตัวตี ที่ทำให้เธอนั้นเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น เอาล่ะรักกันให้พอเถอะ ส่วนเนื้อชิ้นงามอย่างโจวเฟยหลง เธอขอก็แล้วกัน จินเฟิงกระตุกยิ้มร้าย ก่อนที่จะรีบหมุนตัวกลับไปที่ห้องพัก การทำตัวให้ไร้ตัวตน นั่นเป็นเรื่องที่ดีต่อเธอมากที่สุด
เสื้อผ้าที่ดีที่สุดในตอนนี้ ก็เป็นเสื้อผ้าที่เก่าจนหาสภาพสีเดิมไม่เจอแล้ว เธอไม่อาจมีเสื้อผ้าใหม่ได้ ก็ดูอย่างอาหารของเธอเมื่อวันนี้สิ สภาพความเป็นอยู่เลวร้ายยิ่งกว่าคนงานในบ้านเสียอีก หนำซ้ำยังถูกคนงานกลั่นแกล้งไม่เว้นแต่ละวันเสียอย่างนั้น
อีกสามปีข้างหน้า ผู้นำตระกูลโจวจะกลับมาหายดี และยิ่งใหญ่อีกครั้ง เขากำจัดคนที่หักหลังเขานับว่าเป็นบุคคลที่มีจิตใจโหดเหี้ยมคนหนึ่ง การลงโทษตระกูลเสิ่นในครานั้น นั่นเป็นอีกเหตุผลที่น้องสาวกับคนรักของเธอ เลือกที่จะหลอกล่อพี่สาวอย่างเธอไปขายที่ชายแดน อย่างไรก็แล้วแต่ สำหรับคนที่สายเลือดเดียวกัน การทำอะไรแบบนั้นเหมือนไม่ใช่คน
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนคนหนึ่ง จะกล้ากินกล้าใช้เงินที่มาจากการขายชีวิตคนคนอื่นได้จริง ๆ งั้นหรือ ครั้งนั้นไม่ใช่แค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ถูกขายออกมา แต่ยังมีผู้หญิงที่โชคไม่ดีอีกหลายคนที่ประสบชะตากรรมที่เลวร้าย ไม่รู้ว่าหลังจากที่ย้อนกลับมา เธอจะสามารถช่วยเหลือคนเหล่านั้นได้ทันหรือไม่
แต่ตอนนี้แค่เอาชีวิตตัวเองให้รอดในแต่ละวันไปก่อน ไม่รู้ว่าวันนี้ต้องรับมือการเหตุการณ์อะไรบ้าง ทุกครั้งที่น้องสาวกลับมาที่บ้าน เธอมักจะถูกอีกฝ่ายใช้จนหัวหมุน ที่จริงแล้วเธอพอจะมีเงินที่แม่เก็บเอาไว้ส่วนหนึ่ง แน่นอนว่าสำหรับเงินก้อนนั้นเธอเก็บซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดี
"นังจินเฟิง แกมานวดเท้าให้ฉันหน่อย"
ไม่ผิดนั่นคือเสียงน้องสาวของเธอ ผู้หญิงรูปร่างดี ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางตามสมัยนิยม ชี้นิ้วสั่งให้คนเป็นพี่สาวทำตามคำสั่งตามอำเภอใจ อยากให้นักข่าวมาเห็นเนื้อแท้ของแม่น้องสาวนักบุญของเธอจริง ๆ อยากรู้นักว่าคนที่เทิดทูนแม่น้องสาวตัวดีของเธอ จะมีใบหน้าที่น่ารังเกียจขนาดไหน เมื่อได้เห็นจริง ๆ ว่า เสิ่นอ้ายหนิงเป็นคนเช่นไร
"โอ๊ย นวดเบาๆ หน่อยสิ"
อ้ายหนิงชักเท้าก่อนที่จะถีบพี่สาวอย่างไม่ใส่ใจ ตอนนี้เธอเสียอารมณ์มากจริง ๆ จินเฟิงไร้ประโยชน์อย่างที่แม่บอกจริง ๆ
"พี่เจ็บนะ"
"หุบปาก เน่าๆ ของแกซะ ฉันไม่เคยคิดนับญาติกับคนอย่างแก"
จินเฟิงแสร้งก้มหน้าพลางบีบน้ำตาตามคอนเซ็ปต์เดิมของเธอ การทำตัวอ่อนแอน่ารำคาญ ตอนนี้เองเธอเพิ่งจะรู้ว่าตัวเธอเองในอดีต ช่างมีนิสัยที่น่าเบื่อจริง ๆ
"เกิดอะไรขึ้น"
ย่าเสิ่นเดินออกมา เมื่อได้ยินเสียงโวยวาย เห็นกาฝากที่น่ารำคาญของบ้านเสิ่น นั่งร้องก็โบกมือไล่ออกไป อย่าคิดละว่าย่าเสิ่นเห็นใจหลานสาวคนโต เธอแค่รังเกียจเกินกว่าที่จะทนเห็นใบหน้าได้จริง ๆ
"ออกไปได้แล้ว น่าเบื่อจริงๆ "
เสียงน้องสาวระบายอารมณ์ ก่อนที่จะหยิบสิ่งของใกล้มือเขวี้ยงใส่จินเฟิง จินเฟิงทำได้เพียงจิกเล็บกับฝ่ามือ เธอคิดว่าตัวเองต้องอดทนที่จะไม่ตอบโต้คนพวกนี้เอาเสียก่อนให้ได้ อีกเพียงไม่นานเท่านั้นที่เธอจะทวงทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งทวงความยุติธรรมของแม่ ชีวิตเธอที่ต้องเผชิญเรื่องต่ำทราม
"ใจเย็นก่อนสิอ้ายหนิง อย่าให้คนไร้ค่าแบบนั้นมาทำให้หนูหงุดหงิดไปได้เลย"
แน่นอนล่ะ ว่าคนเป็นย่าโอ๋อ้ายหนิงแบบนั้น มันเป็นเรื่องที่ปกติ ยิ่งกว่าปกติเสียอีก แต่เชื่อหรือเปล่าว่าจินเฟิงไม่ได้มีความรู้สึกอิจฉาเลยสักนิด ต่อให้อ้ายหนิงดีกว่าเธอขนาดไหน เธอก็ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงชั่วคนนั้น