2
เช้าวันใหม่
ศีรษะของไป๋ซินหลิวฝูปวดตุบๆ และหนักอึ้ง ตั้งแต่ถูกของแข็งฟาดอย่างหนัก นางไม่มีสตินัก เดี๋ยวฟื้น เดี๋ยวหมดแรงอยู่อย่างนั้นหลายครั้ง นับแต่การเดินทางออกจากประตูหลังสำนักฝ่ายธรรมะ ฝนก็ตกหนักสลับกับแดดออก ช่วงเวลานี้พายุเข้าบรรยากาศจึงอึมครึมและชื้นแฉะ ไป๋ซินหลิวฝูหลังจากถูกจับตัวได้ สองมือมีเชือกมัดไว้แล้วโยนขึ้นรถลาก นับว่าโชคดีที่ยังไม่ถูกข่มเหงจนเสียความบริสุทธิ์ แต่คนพวกนั้นสัมผัสร่างกายนางอย่างหื่นกระหาย พวกมันตั้งใจนำนางกับคนอื่นๆ ไปใช้แรงงานนอกเมือง
“เฮ้อ น่าเสียดายที่เจ้าสำนักออกคำสั่งให้ไม่ให้พวกเรา เล่นสนุกของชั้นต่ำ แต่ถ้าพวกเจ้าปิดปากเงียบ ข้าก็จะแบ่งความสนุกให้สมใจทุกคน”
ชายอ้วนกล่าว และจู่ๆ ก็เหมือนสวรรค์เปิดโอกาสงามๆ มินาน คนที่ถูกจับตัวมาจึงถูกผลักลงมาให้ยืนเรียงแถวหน้ากระดาน พวกมันสำรวจคนที่น่าสงสารราวกับเป็นสินค้า
“มีเวลาเพียงครึ่งชั่วยาม ให้พวกเจ้าสาดความอุ่นข้นใส่ร่างเหม็นเนาเหล่านี้ ส่วนขอทานนางนั้น ข้าจะจัดการเอง”
คนร่างสูงที่พึ่งขี่ม้ามาถึงกล่าว ดวงหน้าเขามันเยิ้มและหนวดเครารุงรัง จากนั้นก็กระชากร่างของไป๋ซินหลิวฝูไป คนผู้นี้ไม่เชื่อฟังคำเจ้าสำนักเก้ากระบี่ เนื่องจากมีตำแหน่งสำคัญในสำนักดังกล่าว และชอบรังแกทาสกับเชลยเป็นที่สุด ยิ่งรู้ว่าในขบวนครั้งนี้มีสตรีมาด้วย เขาก็อยากเล่นสนุกให้หนำใจ พวกคนชั้นต่ำ คือสิ่งของที่หากมีชีวิตรอดก็ดีไป ตายก็ไม่มีใครถามถึง แค่หาคนใหม่มาเพิ่มเท่านั้น แต่ก่อนที่จะได้ไปใช้แรงงานหนัก เขาขอได้ออกแรงตบตี และทำเรื่องบัดซบให้สมใจอยากเสียก่อน
เขาพาหญิงสาวเข้าไปในป่ารก พยายามปลุกปล้ำนาง ทว่ายามนั้นลมกรรโชกแรง มีเสียงฟ้าร้องตามมา ชั่วเวลาเพียงประเดี๋ยวเดียว ก็เหมือนว่าเม็ดฝนตกลงมาปรอยๆ จึงเป็นเรื่องขัดจังหวะยิ่ง
ยามนี้มีทั้งฝน และเสียงฟ้าผ่าดังอยู่ใกล้ๆ หู กระทั่งมีสายฟ้าหนึ่งฟาดลงมาเฉียดร่างของไป๋ซินหลิวฝู ทำให้นางกระเด็นไปไกลหลายจั้ง (จั้ง 1 จั้ง เท่ากับ 10 ฉื่อ -ประมาณ 2.5 เมตร)
ในห้วงเวลาดังกล่าว ไป๋ซินหลิวฝู หรือ หลิวฝู ผู้มีชื่อเหมือนกันที่มาจากโลกปัจจุบัน กำลังระลึกถึงบางสิ่งใด ตอนนี้ นางไม่ได้อยู่ในกองซีรีย์ ‘บรูพาไร้พ่าย หมื่นปีมีข้าครองยุทธภพ’ ทำหน้าที่สืบความลับเกี่ยวกับคดีที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งผัวพันถึงบุคคลระดับวีไอพีของวงการบันเทิงเกาะ A ประกอบด้วยนักแสดงหนุ่มแถวหน้า ผู้กำกับชื่อดัง นักเขียน พร้อมพรรคพวกนับสิบชีวิต ที่ซื้อบริการหญิงสาวอายุน้อยกว่าสิบแปดปี มีการบังคับข่มเหงจิตใจกับร่างกาย กระทั่งมีเหยื่อถูกพบกลายเป็นศพ ฝ่ายตำรวจที่ดูแลคดีดังกล่าวจงใจให้เป็นการฆ่าตัวตายเพราะโรคซึมเศร้า ทว่าหลิวฝู ซึ่งถูกส่งตัวมาค้นหาความจริง จากหน่วยพิเศษกลับพบเงื่อนงำมากมาย หากไม่ทันไขเรื่องต่างๆ ให้สำเร็จ หลิวฝูได้ถูกซ้อนแผนกลายเป็นเหยื่อเสียเอง ด้วยมีคนที่ยื่นขาเข้าไปมีส่วนกับคดีฉาวโฉ่ ก็คือคนรักของหลิวฝู และทั้งคู่กำลังจะแต่งงานกัน
สุดท้ายหญิงสาวถูกจับขังในห้องมืด ซึ่งเป็นเรือนหอของตน ผ่านนกต่อคือชายคนรัก คนชั่วช้าพวกนั้นกำลังจะทำเรื่องสกปรก ข่มเหงหลิวฝู พร้อมบันทึกภาพไว้ข่มขู่ ทว่าระเบิดที่หญิงสาวตั้งเอาไว้ ได้ทำงานจนเกิดเหตุการณ์รุนแรง
และนั่นคงเป็นเหตุผลที่ทำให้หลิวฝู จารชนหญิงจากโลกปัจจุบัน ทะลุมิติเข้ามาในนิยายซึ่งนางกำลังสืบคดีอยู่ เพียงแต่บทบาทซึ่งได้รับตอนแรก ชั่งน่าอนาถใจ เป็นขอทานไม่พอ ยังต้องตายด้วยมือสวะปลายแถว ที่อ้างตนว่าอยู่ในฝ่ายธรรมะ
หลังจากเกือบถูกสายฟ้าฟาดใส่ร่าง นางขยับร่างกาย คราวนี้เหมือนว่า เนื้อตัวอุ่น ไม่รู้สึกหนาวสะบั้นเหมือนเมื่อครู่ แต่ยังไม่ได้มีเรี่ยวแรงนัก ถึงอย่างนั้นไป๋ซินหลิวฝู ก็เห็นทางรอดของตนแล้ว และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะมีชีวิตต่อไป
ก่อนหน้านี้ ร่างนางถูกกระทืบและจับเหวี่ยงไปมาหลายหน ดังนั้นพอเตรียมหลบหนี การเคลื่อนไหวจึงช้าอยู่สักหน่อย ร่างกายยังไม่ฟื้นฟู อีกทั้งมีแผลฟกช้ำไปทั้งตัว
หญิงสาวกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปได้เล็กน้อย กลับพลัดตกจากทางลาด แล้วล่วงหล่นสู่พื้นด้านล่าง หากมิวายคนพวกนั้นยังติดตามไม่ลดละ เมื่อพวกมันเห็นขอทานสาวนอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้น โดยที่เสื้อผ้าที่สวมทั้งเปียกชื้น ทั้งขาด ต่างพุ่งเข้ามาหมายจะข่มเหงนาง จากนั้นก็จะส่งขายซ่อง โดยไม่คิดนำตัวไปยังเหมือง หรือพื้นที่ทำงานเกษตรหนักของสำนักเก้ากระบี่ เพราะคนงานไร้ค่า จะตายระหว่างทาง หรือสูญหายไปบ้างย่อมไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ยามนั้น เสียงเสื้อผ้าของไป๋ซินหลิวฝูถูกฉีกกระชาก ร่างกายของนางแม้จะบอบบาง แต่ส่วนเว้าส่วนโค้งช่างยั่วเย้ากิเลสและตัณหาของบุรุษได้ดี
นางคือขอทานจริงๆ หรือ ? ความสงสัยเกิดขึ้นในใจของชายหื่นกระหายเหล่านั้น
“ข้าจะดูดนิ้วเท้านั่นก่อน ส่วนเจ้าก็ใช้มือนางช่วยตัวเองไปซะ”
ชายคนหนึ่งพูด และกำลังจะทำสิ่งที่แสนน่าเกลียดและดิบเถื่อนต่อร่างที่ไม่ได้สติอยู่ในตอนนั้น ทว่าพวกเขาได้แต่ใช้สายตา กับคำพูดที่หยาบโลน ด้วยไม่ทันได้ทำในสิ่งที่ล่วงเกินขอทานสาวไป กลิ่นหอมหวานอ่อนๆ ของดอกบัวได้โชยมาถึงจมูกพวกเขา ก่อนที่กลีบดอกบัวคมกริบจะปาดเข้าที่ลำคอพวกเขาทีละคน กลีบดอกบัวนั้น ราวกับเป็นว่าอาวุธลับที่ถูกซัดออกมาด้วยยอดฝีมือ
เลือดสดๆ ไหลซึมที่ลำคอคนพวกนั้น ชายหื่นราคะต่างกุมลำคอตัวเอง บ้างก็พยายามหาที่มาของผู้ที่ซัดอาวุธลับเป็นกลีบดอกบัว ส่วนคนหนึ่งที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหนักเหมือนผู้อื่น เขาคลำหาเสียงของตนพบ จึงละล่ำละลักร้องขึ้นว่า
“พรรคสัตตบงกชโลหิต โอ้ กลีบดอกบัวกำลังดื่มเลือด น่ะ หนีหนีไปให้พ้นจากที่นี่ ก่อนที่ศีรษะพวกเจ้าจะหลุดจากบ่า”
มินาน ห่าฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก เลือดของคนชั่ว ไหลไปตามน้ำฝนที่เจิ่งนองพื้น
ซึ่งรวมถึงศีรษะของชายร่างสูง ที่หวังจะข่มเหงไป๋ซินหลิวฝู มันกลิ้งหลุนๆ ห่างจากร่างกายเขาซึ่งกำลังชักกระตุก ภาพดังกล่าวชวนให้สยองเกล้าโดยแท้