บทที่๒│เมือขันธ์ (๓)
“เด็กดีของฉัน ทำตามที่พ่อหมอบอกเถอะนะ แล้วนายจะได้หลุดพ้นจากเรื่องพวกนี้”
“ได้ครับคุณเจต”
คีรีเริ่มใจชื้นเมื่อจงเจตเป็นฝ่ายสนับสนุน จึงก้าวเท้าไปยังบริเวณหลุมกลางวงล้อมของแสงเทียน สายลมยังคงพัดอย่างไม่คิดเว้นว่างต่อหน้าที่ ทว่าก็มิอาจสั่นคลอนแสงเทียนได้ เขาจึงทำความเข้าใจกับตัวเองว่าหากการที่เขาสามารถเข้ามาอยู่ในร่างของวาริได้ อะไรๆ ก็คงเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
ไม่มีอะไรน่าเหลือเชื่อกว่าเรื่องที่เป็นอยู่แล้ว
คีรีหยุดยืนอยู่หน้าหลุม เหลียวหลังไปมองคนทั้งห้าอีกครั้งแล้วจึงเดินลงไปนอนในนั้นตามคำสั่งของผู้มีคาถาอาคม ก็ถ้าการทำแบบนี้จะสามารถปลดปล่อยเขาจากความทรมานที่มีต้นเหตุจากผีวาริได้ คงมีแต่ต้องยอมเท่านั้น
ร่างของเขานอนลงไปจนแผ่นหลังสัมผัสกับพื้นดิน ท้องฟ้าดำมืด พร้อมกับลมหายใจที่กระจายไม่ทั่วท้อง
ชีวิตของพนักงานขนส่งตัวเล็กๆ ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาประสบพบเจอกับเรื่องเช่นนี้
ในตอนนั้นเองที่ได้ยินเสียงสวดดังคลอมากับสายลม เป็นบทสวดที่มิอาจจับใจความได้ แต่กลับทำให้บรรยากาศวังเวงมากกว่าเดิมจนขนลุกซู่ เปลือกตาถูกปิดลงเพื่อตัดช่องทางการรับรู้ เขาก็แค่ทำทีเป็นหลับเพื่อที่จะได้ตื่นมาอีกครั้งแล้วพบว่าวิญญาณของวาริได้ไปสู่สุคติ
บริเวณสถานที่ประกอบพิธีกรรมนั้นจู่ๆ ก็มีสายลมพัดลอยเหนือหัวอย่างรุนแรงราวกับมีพายุขนาดย่อม แต่กลับทำอะไรแสงเทียนและข้าวของที่ใช้ในการประกอบพิธีไม่ได้เลย ทุกอย่างยังอยู่ในสภาวะปกติ
กลิ่นเหม็นยังคงโชยเข้าจมูก พร้อมกับบทสวดที่ดังกระทบโสตประสาทอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
จงเจตเพิ่งเคยสัมผัส ‘พิธีเมือขันธ์’ เป็นครั้งแรก และแม้ว่ามันจะขัดกับอุดมการณ์ของเขาที่ไม่พิศวาสศาสตร์มืด แต่เพื่อให้ได้วาริกลับมาอยู่ข้างกาย เขายอมทำทุกอย่าง แม้ต้องกำจัดคีรีให้พ้นทางก็ยินดีทำอย่างเต็มใจ
ไม่นานนักของเน่าเสียที่อยู่ในถาดรอบๆ ตัวของพ่อหมอสังวาลก็ทยอยหายไปต่อหน้าต่อตาราวกับมีคนทานมันเข้าไป ทั้งๆ ที่หนุ่มเมืองกรุงมองเห็นเพียงความว่างเปล่า
เด็กวัยรุ่นคนนั้นก็เอ่ยกระซิบกระซาบเพื่อไขข้อข้องใจ “ผีที่พ่อหมอเลี้ยงไว้เขามารับของเซ่นแล้วครับ เดี๋ยวพวกเขาจะไปนำวิญญาณของคุณคีนออกจากร่าง ระหว่างนี้พ่อหมอก็จะเรียกวิญญาณคุณฝุ่นมากลับเข้าร่างตัวเอง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธีแล้วครับ”
“ไม่นานใช่ไหม”
“รับประกันไม่ได้ครับ ถ้าคุณคีนจิตแข็งก็คงต้องใช้เวลาสักพัก แต่ถ้าจิตอยู่ในช่วงอ่อนแอจะทำได้ง่ายเพราะวิญญาณที่รับใช้พ่อหมอต่างก็มีอาคมแรงกล้ากันทั้งนั้น”
ได้ทีก็โฆษณาให้อาจารย์ที่ตนเคารพทันที
จงเจตพยักหน้ารับรู้ “ฉันมองไม่เห็นพวกมัน- พวกเขาน่ะ”
ภานุและกิจจาจึงสนับสนุนคำพูดเจ้านายด้วยการบอกกับเด็กหนุ่มว่าพวกเขาก็เป็นเช่นนั้น
“อย่าอยากเห็นเลยครับ”
เปลือกตาถูกเปิดออกอย่างเชื่องช้าเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้บริเวณหลุม หัวคิ้วขมวดเข้าหากันเมื่อมันไม่ใช่เพียงเสียงเดียว เดิมทีเขาอนุมานไปว่าน่าจะเป็นเสียงของชายชราชุดขาวที่มาทำพิธีให้แก่กัน แต่จำนวนของมันเหมือนจะนับไม่ได้ ทั้งยังมาพร้อมกันทั่วทุกสารทิศ
คีรีครั่นคร้ามอย่างช่วยไม่ได้ กระทั่งลืมตาแล้วพบว่าบริเวณปากหลุมมีร่างดำทะมึนยืนล้อมรอบพลางจดจ้องมาที่เขาเป็นจุดเดียว
ค่อนข้างจะฉิบหายแล้วไหมล่ะ
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเบิกโตด้วยความตกใจ ลมปราณคล้ายหยุดการไหลเวียน
ร่างสีดำมืดนั้นมีดวงตาที่แตกต่างกันออกไป บางตนเป็นสีดำสนิทเช่นเดียวกับเนื้อตัว บ้างก็เป็นสีขาวโพลน แต่มีอยู่ตนหนึ่งที่มีนัยน์ตาสีแดงฉานประหนึ่งปีศาจในสื่อบันเทิง
มันมีจริงๆ หรือนี่...?
ร่างสูงใหญ่นัยน์ตาแดงก่ำค่อยๆ ก้าวลงมาคร่อมทับร่างเขาไว้ น้ำตาที่กลั้นไม่อยู่ก็ทะลักออกมา ทว่าไร้เสียงสะอื้นไห้เมื่อฝ่ามือหยาบกร้านยื่นมาปิดไว้แน่น ความสากและกลิ่นสาบทำเขาเกือบอาเจียน
ลิ้นของมันยาวกว่าลิ้นปกติของมนุษย์อยู่หลายเท่า ลิ้นน่าขยะแขยงยื่นมาหวังไล้เลียใบหน้าของเขา น้ำตาไหลไม่ขาดสายเมื่อประสบกับความน่าสะพรึงกลัวต่อหน้าต่อตา เขาอยากหลุดพ้นจากวิญญาณของวาริ แต่ดูเหมือนตอนนี้เรื่องทุกอย่างจะยิ่งแย่กว่าเก่า
มือข้างหนึ่งของมันบีบคางเพื่อง้างปากของเขาให้เปิดออก แล้วจึงพยายามล้วงมือเข้ามาในปาก คีรีไอโขลกๆ อย่างทรมาน พยายามส่ายหน้าหนีมือของอีกฝ่ายให้ยุติการล่วงล้ำ
แต่ก็ไม่เป็นผล เลยยกเท้าขึ้นถีบร่างสูงใหญ่สีดำทะมึนหวังให้ตัวเองหลุดพ้นออกจากพันธนาการอันน่าขยะแขยง
ภาพที่สามหนุ่มจากเมืองหลวงเห็นคือคีรียกเท้าขึ้นถีบอากาศ
จงเจตกล่าวกับเด็กหนุ่ม “คีนเห็นวิญญาณพวกนั้นเหรอ”
“เห็นครับ ผมก็เห็น ตอนนี้พวกภูตผีกำลังจะกระชากวิญญาณของคุณเขาออกจากร่าง”
“ทำยังไง”
“ไม่ใช่เรื่องที่พวกคุณต้องรู้หรอกครับ รู้แค่ว่าทำได้ก็พอ”
ประธานบริษัทผู้ยิ่งใหญ่ชักสีหน้าให้ไอ้เด็กเมื่อวานซืน แต่ก็ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดจึงถามเข้าประเด็น “แล้วร่างของฝุ่นจะเป็นอะไรไหม”
“ไม่ครับ เดี๋ยวพอคุณคีนออกมา คุณฝุ่นก็จะเข้าไปแทน”
จู่ๆ จงเจตก็ไม่ไว้ใจ “เชื่อได้นะ ไม่ใช่ว่าผีพวกนั้นจะเข้าไปอยู่แทนหรอกเหรอ เป็นแบบนั้นฉันไม่เอาไว้แน่”
“ถ้าเก่งทำไมไม่ทำเองล่ะครับ มาขอให้พ่อหมอช่วยแต่แรกทำไม”
คนฟังกำหมัดแน่น
เด็กคนนั้นกล่าวต่อ “พ่อหมอเขามีจรรยาบรรณครับ รับงานแค่ไหนก็ทำแค่นั้น อย่างตอนนี้ก็เรียกผีคุณฝุ่นอยู่”
“มายัง”
“ยังครับ แต่อีกไม่นานหรอก”
คีรีหายใจแทบไม่ออก เขาหลับตานึกถึงพระเดชพระคุณของครูบาอาจารย์ที่เคยบวชเรียนด้วยระยะหนึ่ง ฝืนใจเจ็บอดทนอดกลั้นแล้วท่องบทสวดที่พอจะมีติดตัวอยู่บ้าง แม้จะทรมานจากการโดนลุกล้ำเหมือนใจจะขาดก็ตาม
เขาตั้งนะโมสามจบแล้วต่อด้วยพระคาถาชินบัญชรฉบับย่อ ให้สวดฉบับเต็มตอนนี้เห็นทีจะไม่ไหว
ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริ ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา
ทันทีที่สวดภาวนาครบสิบจบ มือสากเหม็นสาบนั่นก็ถูกเจ้าของดึงออกอย่างรวดเร็ว คีรีจับทางถูก เขารู้ว่าจะรับมือกับเหล่าวิญญาณเหล่านี้ได้อย่างไร พร้อมกับที่รู้ว่าสิ่งที่เป็นอยู่นั้นไม่ปกติ พิธีกรรมนี้ไม่น่ามีเพื่อช่วยเหลือเขา จึงพยายามลุกขึ้นออกจากหลุม จึงได้เห็นวิญญาณของวาริอยู่ใกล้ๆ กับบริเวณทำพิธี
หมอผีนั่นก็ต้องเห็น แต่ไม่ยักจะทำอะไรกับเจ้านั่นเลย มิหนำซ้ำยังตะโกนบอกกับเขาว่า “นอนลงไปเดี๋ยวนี้!”
คีรีไม่เชื่อคำของอีกฝ่าย เขาพยายามสลัดเหล่าวิญญาณที่กรูเข้ามาเพื่อจับร่างของตนให้กดลงไปในหลุม ปากของเขาก็พยายามกัดไปที่สายสิญจน์ที่พันมือหวังให้ตัวเองเป็นอิสระ
“ไอ้เป้! ไปจับมันไว้”
เด็กหนุ่มก็รีบปรี่เข้ามาในวงล้อมของแสงเทียน พอดีกับที่คีรีกัดเครื่องพันธนาการจนขาด เขาเป็นอิสระ แต่การสลัดภูตผีเหล่านี้ก็ไม่ง่าย ถึงกระนั้นคีรีก็พยายามก้าวขึ้นจากหลุมให้ได้ก่อนที่เด็กคนนั้นจะเข้ามาประชิดตัว
ชายหนุ่มทั้งสามเห็นท่าไม่ดีที่คีรีลุกออกจากหลุมมาอาละวาดจึงขออาสาเข้าไปช่วย พ่อหมอสังวาลก็อนุญาต แต่เพียงเสี้ยววินาทีคีรีก็ฝ่าวงล้อมวิญญาณได้ก่อนที่คนทั้งสี่จะมาถึง เขารู้แล้วว่าคนพวกนี้เชื่อใจไม่ได้ เขาอาจจะไม่รู้แน่ชัดว่าพิธีกรรมนี้มีเพื่ออะไร แต่มันต้องไม่ใช่การช่วยเหลือเขาแน่ๆ
คีรีไม่รอช้า เขารู้ได้เลยว่าถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อตัวเองจะต้องตายจึงออกแรงวิ่งสุดแรงเกิด แม้จะไม่รู้ทิศรู้ทางแต่ก็ขอให้ออกไปจากที่แห่งนี้ให้ได้ก็เพียงพอแล้ว
เขาขุดวิญญาณนักกรีฑาสมัยเรียนมัธยมขึ้นมาใช้ ผนวกกับใส่เกียร์หมาแม้ว่าร่างนี้จะไม่ตอบโจทย์สักเท่าไร อาจจะเพราะช่วงขาสั้นกว่าร่างเดิมของเขามาก ไหนยังไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง แต่บทต้องหนีตายเขาก็วิ่งลืมเหนื่อย มีจังหวะหนึ่งที่เหลียวหลังไปมองก็พบว่าเด็กคนนั้น จงเจต ภานุและกิจจาต่างก็สับขาตามมาอย่างรวดเร็ว
ไม่พอ ไอ้ควายธนูกับวัวกระทิงมันยังมาร่วมวงด้วย
ฉิบหายจริงๆ
ฉิบหายที่สุดในชีวิตไอ้คีนแล้ว!
เขาต้องวิ่งให้ไวเท่าลมกรดเท่านั้นถึงจะรอด ในขณะที่เหล่าวิญญาณไม่จำเป็นต้องวิ่ง พวกมันลอยอยู่เหนือศีรษะและพยายามคว้าตัวเขาไว้
คีรีในตอนนี้ ขาวิ่ง มือปัดป่ายไปทั่ว ปากก็ท่องบทสวด
ชายหนุ่มเริ่มวิ่งลัดเลาะไปเรื่อยๆ เดี๋ยวลุยท้องนา ล้มลุกคลุกคลานจนเนื้อตัวมอมแมม เดี๋ยวขึ้นไปวิ่งบนคันนา วิ่งไวเข้ามากๆ ก็เสียหลักลื่นตีลังกาลงบ่อโคลน แต่ด้วยความกลัวจึงไม่รู้สึกเจ็บหรือเหนื่อย รีบออกตัววิ่งต่ออย่างไม่ลดละ เห็นเถียงนาอยู่ลิบๆ ก็เร่งฝีเท้าไปหวังเจอผู้คนที่พอจะช่วยเขาได้ แต่ก็มีเพียงความว่างเปล่า
สี่คนนั้นก็ยังไม่ละความพยายาม แม้คีรีจะทิ้งระยะห่างได้มากแต่ก็ยังอยู่ในครรลองสายตา
อย่างไรเสียจงเจตก็ต้องเอาร่างของวาริกลับมาให้ได้ เพื่อที่คนรักของเขาจะได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
คีรียังคงท่องบทสวดต่อไป แต่มันก็ผิดๆ ถูกๆ จนฟังไม่ได้ศัพท์ ขณะนั้นเองก็มีบางสิ่งบางอย่างปรากฏอยู่ตรงหน้า ห่างกันหลายสิบเมตรแต่ภาพนั้นชัดเจนราวอยู่ใกล้แค่เอื้อม
วิญญาณของวาริ!
ปกติเขาไม่ใช่คนหยาบคาย แต่วันนี้คงต้องเป็นดูหน่อยแล้ว “แม่งเอ๊ยไอ้พวกเวร!”
ในบรรดาวิญญาณที่เขากลัวที่สุดก็วิญญาณเจ้าของร่างนี้ เช่นนั้นแล้วจะให้ไปต่อก็ไม่ได้ จะถอยหลังก็ตายสถานเดียว
กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง แต่ปัญหามีทางออกเสมอ เขาจึงวิ่งตัดเข้ากลางท้องนาอีกครั้ง
คีรีใช้เวลาวิ่งต่อจากนั้นนานแค่ไหนไม่รู้ รองเท้าทั้งสองหายไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่อาจทราบได้ แต่ในที่สุดเขาก็วิ่งมาทะลุบนถนน แต่ยังไม่ทันได้พักหายใจหายคอแสงสว่างจากไฟหน้ารถมอเตอร์ไซค์ก็สาดเข้ามาจนต้องยกมือมาบังหน้า พร้อมกับเสียงโหวกเหวกโวยวายของคนขับ
“แม่ง! อะไรวะ!”
ตามมาด้วยเสียงล้อเสียดสีกับพื้นถนนจนแสบแก้วหู
ดีที่ประคองรถไว้ได้จึงไม่เสียหลัก แต่เด็กหนุ่มวัยยี่สิบสองก็หันไปทางคู่กรณีแล้วเปิดปากด่าทันควัน
“วิ่งออกมาหาพระแสงอะไรกลางถนนวะไอ้นี่! อยากตายหรือไง อยากตายก็ตายไปคนเดียวโว้ยไม่ใช่มาพาคนอื่นตายไปด้วยไอ้เพ้อนี่ เดี๋ยวพ่อลงไปกระทืบให้จมตีนเสียหรอก”
แต่สิ่งที่คีรีเล็งเห็นจากตัวเด็กปากแจ๋วคนนี้คือ...ความช่วยเหลือ
เขาถือวิสาสะขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์อย่างไม่รอช้า
“น้องชาย ไม่ว่าบ้านน้องอยู่ที่ไหนแต่พาพี่ไปบ้านเราหน่อยนะ”
“เฮ้ย! ลงไป สกปรก เชี่ยแม่งโคตรมอม ไปคลุกโคลนที่ไหนมาวะ ลงไป๊!”
“พาพี่ไปเถอะ พี่ใบ้หวยแม่นทุกงวด งวดนี้เดี๋ยวพี่ให้สามตัวตรงเลยเอ้า!”