EPISODE 5 [มัวรออะไรอยู่]
ใต้ปีกพายัพ : EPISODE 5
[มัวรออะไรอยู่]
“อ่าส์...หยุดนะ” ฉันร้องห้ามเสียงแหบพร่าเมื่อพายัพใช้นิ้วแหวกแพนตี้ตัวจิ๋ว ก่อนสอดมันเข้าไปสัมผัสส่วนที่อ่อนไหวที่สุดในร่างกายของฉัน เขาคิดจะทำบ้าอะไร
“อะไร? แฉะแล้วนี่” เสียงทุ้มกระซิบบอกข้างหู
“ไม่! ฮึก! ไม่เอา อ๊ะ! อื้อ!” ฉันร้องออกมาอย่างปรามเสียงแปลก ๆ ของตัวเองไม่ได้ พยายามดิ้นหนีมือเขาสุดแรง แต่เรียวนิ้วที่สอดพรวดเข้ามาในครั้งเดียวนั่น ก็ได้นำพาทั้งความเจ็บแปลบและหวาดหวั่นมาสู่ใจฉันในคราวเดียว
“แค่นิ้วเดียวก็ทำเธอสั่นแล้วเหรอ รู้ไหมว่าร่องเธอกำลังตอดนิ้วฉันแรงแค่ไหน” หมอนี่ราวกับโรคจิตไม่มีผิด ถึงได้สาธยายอะไรน่าอายออกมา ฉันไม่ได้อยากฟังสักนิด
“อื้อ! เอาออกไป อ๊ะ! อ๊า!” สิ่งที่เขากำลังทำอยู่มันเลวสิ้นดี ทุกครั้งที่พายัพขยับนิ้วในท้องมันวูบวาบไปหมดเลย
“พวกปากไม่ตรงกับใจ ปากร้องไม่แต่ร่องเธอมันเอาแต่ดูดนิ้วฉันไม่หยุด อ่าส์...โคตรแน่น ท่าทางจะยังไม่เคยเล่นกับตรงนี้สินะ อายุสิบแปดแล้วแท้ ๆ” เสียงของเขาที่กระซิบย้ำการกระทำหยาบโลนทำให้ร่างฉันสั่นเทิ้มไปหมด
“อื้อ! อย่า...แฮ่ก ๆ เอาออกไปนะ” ฉันส่งเสียงที่แทบจะไม่เล็ดลอดออกจากลำคอแห้งผาก ในขณะที่พายัพรุกรานฉันมากขึ้น ข้อมือที่เคยถูกกดตรึงไว้ถูกคลายออก เมื่อเขาพยายามจะใช้มันถอดกางเกงของฉัน
“เธอตื่นเต้นอยู่ อย่าบอกว่าไม่ชอบที่ฉันทำสิ” พายัพที่ดึงกางเกงของฉันจนหลุดพ้นตัวอย่างไร้สำนึก ร่างกายเกือบเปลือยเปล่าที่ถูกเขาจับจ้องไม่วางตา ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนจะจับไข้ให้ได้
“อื้อ...พอแล้ว” ฉันร้องบอกเขา เมื่อพายัพรั้งร่างฉันให้ลุกขึ้นมานั่งตัก เรียวขาถูกเขาจับให้ถ่างอ้าออกเพื่อให้เขาขยับนิ้วได้อย่างถนัดถนี่มากขึ้น
แจ๊ะ! แจ๊ะ!
เสียงหยาบโลนยามที่ถูกพายัพขยับนิ้วเข้าออก ยิ่งทำให้ฉันเหมือนจะวูบให้ได้ ในท้องมันปั่นป่วน ร่างกายมันร้อนวูบวาบไปหมด
“อ๊ะ! อ๊า...ฮึก! พอแล้ว” ฉันได้แต่คว้าจับข้อมือเขาไว้ แต่ก็ไม่สามารถขืนแรงของเขาไหว ยิ่งเห็นว่าฉันกำลังระทดระทวยลงทุกที เขาก็ยิ่งได้ใจ
จุ๊บ!
ริมฝีปากที่แนบลงมากดจูบตรงหลังท้ายทอย ก่อนที่ลิ้นชื้นจะลากเลียเรียกความซ่านสยิวให้ฉันเป็นทบเท่าทวีคูณ
“ใกล้แล้วสิ...เธอตอดนิ้วฉันแน่นเลยสาวน้อย” เสียงพร่ากระซิบ
“อื้อ...อ๊ะ! หยุด...” ยิ่งได้ยินเสียงของเขาที่ทำราวกับเหนือกว่าฉันในตอนนี้ ร่างกายมันก็ยิ่งเหมือนโดนปลุกเร้าเข้าไปใหญ่
“ปล่อยออกมา เธอควรรู้ว่าเวลาที่ได้ปลดปล่อยมันดีแค่ไหน” พายัพว่า แล้วขยับนิ้วถี่มากขึ้นจนร่างฉันเกร็งเครียด ไม่ว่าฉันจะพยายามจิกทึ้งมือเขาจนถลอกเลือดซิบแค่ไหน พายัพก็ไม่คิดจะหยุดทำมันแม้แต่น้อย
“อย่า! อ๊า...พอได้แล้ว อื้อ! อ๊ะ!” ฉันร้องออกมาอย่างทรมาน ร่างกายมันร้อนวูบวาบไปหมด จากที่พยายามดิ้นรนหนีกลายเป็นว่าต้องการให้เขาทำมันเร็ว ๆ ราวกับว่าสิ่งที่จะเกิดต่อจากนี้มันจะทำให้ฉันหลุดพ้นจากความรู้สึกแปลก ๆ นี่เสียที
“แม่ง! ร้องดีฉิบหาย” เสียงเขาสบถราวไม่สบอารมณ์ แต่ฉันไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น
“อ๊า...อื้อ! อุ๊บ!” สุดท้ายเขาก็จับหน้าฉันให้หันไปหา ริมฝีปากอุ่นที่ฉกวูบลงมาอย่างรวดเร็ว บดจูบกลีบปากฉันอย่างเร่าร้อน ขณะที่นิ้วของเขาก็ขยับรัวถี่จนฉันรู้สึกว่าที่ส่วนนั้นมันชื้นแฉะไปหมดแล้ว
“อื้อ...อ่าส์...ไม่...พอแล้ว”
“อ่าส์...ปล่อยออกมา เธอจะเสร็จแล้วใช่ไหม” เขาเอ่ยชิดริมฝีปาก ก่อนจะบดจูบฉันอีกครั้ง มันร้อนแรงแนบแน่นจนฉันหายใจหอบ เรียวลิ้นที่สอดเข้ามาดูดรั้งปลายลิ้นฉัน นิ้วที่ขยับเข้าออกในร่องอ่อนนุ่มมันกำลังสัมพันธ์กันอย่างไม่น่าเชื่อ
“อื้อ! อ๊ะ! อ๊าย!” ฉันร้องออกมาสุดเสียงอย่างห้ามไม่ได้เมื่อรู้สึกว่าร่างกายถึงขีดจำกัดแล้วจริง ๆ
“อ่าส์...จ๊วบ!” พายัพที่ดูดปากที่เห่อร้อนของฉันแรง ๆ ครั้งหนึ่งก่อนที่จะค่อย ๆ ดึงนิ้วเรียวยาวออกจากรูร่องชื้นแฉะ เขายกมันขึ้นมาตรงหน้าฉัน ให้ฉันดูว่ามือของเขามันเต็มไปด้วยสิ่งที่ฉันได้ปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่ ของเหลวขาวใสเจือคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนคือหลักฐานชั้นดีว่าเขาได้ทำลายความบริสุทธิ์ของฉันไปแล้วครั้งหนึ่ง
“แฮ่ก ๆ” ฉันที่ตอนนี้เหงื่อซึมไปทั่วใบหน้าได้แต่ปล่อยร่างอิงกับแผ่นอกกว้างของเขา ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้ และมันน่าโมโหเพราะรูร่องที่ถูกเขารุกรานเข้ามามันยังคงกระตุกตุบ ๆ ไม่หาย
“นี่แค่เริ่มเท่านั้น...ก่อนที่เธอจะฆ่าฉันได้ ฉันจะเล่นกับเธอ ทำให้เธอกลายเป็นทาสของฉันดีไหมใบข้าว” น้ำเสียงเย็นเยียบที่กระซิบบอก พร้อมกับฝ่ามือที่บีบคลึงเคล้นทรวงเต้าฉันเล่น ทำให้ฉันได้แต่กัดฟันแน่น
“ฮึก! ปล่อย...อย่ามายุ่งกับฉัน” ฉันออกแรงผละตัวออก แต่พายัพก็รั้งเอวฉันให้นั่งลงตามเดิมอย่างเอาแต่ใจ
“เธอหนีฉันไปไหนไม่ได้หรอก” เขากระซิบ ก่อนกดจูบลงที่ท้ายทอยของฉันแรง ๆ
“หยุดทำอะไรน่าขยะแขยงสักที” ฉันสบถ แล้วศอกเข้าที่หน้าท้องของเขา
พลั่ก!
“อ๊ะ! ให้ตาย...เธอนี่มันงูพิษจริง ๆ” พายัพที่ยกมือกุมหน้าท้องตัวเองก่นด่าฉันมา
“ไสหัวออกไป! คนแบบนายมันก็ทำได้แค่เอาเปรียบผู้หญิงนั่นแหละ” ฉันตวาดเสียงใส่ พยายามจะคลานลงจากเตียง แต่พายัพก็คว้าจับข้อเท้าฉันไว้แน่น ก่อนกระชากร่างฉันให้ถลาไปนอนอยู่ใต้ร่างของเขาที่ขยับมาคร่อมร่างฉันไว้
“ฉันต้องแคร์ด้วยรึไง อย่าลืมว่าเธอมาทำอะไรที่นี่สิวะอยากให้ฉันอ่อนโยนกับคนที่พยายามจะฆ่าฉันทุกวันเนี่ยนะ เธอบ้ารึเปล่า!” เขาตวาดกลับเสียงขุ่น กดมือลงที่ลำคอของฉันอย่างแรงจนหายใจแทบไม่ออก
“ฮึก! งั้นก็ฆ่าฉันสิ นายมัวรออะไรอยู่” ฉันแผดเสียงกลับ แค่นี้มันก็อัปยศพออยู่แล้ว ถ้าฆ่าเขาไม่ได้ เขาก็ฆ่าฉันเถอะ
“อย่าทำให้ฉันหมดความอดทนกับเธอได้ไหม” เขาพูดขึ้น ก่อนคลายมือออก ฉันไม่เข้าใจพายัพเลย เขาคิดอะไรอยู่กันแน่