บทที่ 2
คริมามองดูเงาสะท้อนของตัวเอง ใบหน้าของเธอยังคงมีร่องรอยของความโศกเศร้า จากการสูญเสียคนสำคัญในชีวิตไปถึงสองคน เธอมองหน้าของตัวเองแล้วก็ฝืนยิ้มให้กระจก พลางเอ่ยเสียงปลุกเร้าตัวเองอย่างจะสร้างกำลังใจ
“สู้ๆ นะวี่ ยิ้มให้กว้างๆ เดี๋ยวจะมีคนเศร้าไปด้วย”
รอยยิ้มของคนในกระจกยิ้มกว้าง แต่ตาเศร้า คริมาถอนใจน้อยๆ เธอตกลงใจว่าจะแต่งหน้า เติมสีสันให้กับตัวเองสักนิด จะได้ดูสดชื่น เธอต้องใส่ชุดดำหนึ่งร้อยวัน อย่างน้อยๆ ก็อยากจะให้ตัวเองไม่ห่อเหี่ยว มืดหม่นไปกับสีดำที่ใส่ ด้วยการทาลิปสติกสีแดงอมส้ม ปัดแก้มสีพีช แต่งตาด้วยโทนสีน้ำตาลอมส้มให้หน้าออกสีสว่างนิดหนึ่ง
เงาสะท้อนตอนนี้ดูดีกว่าตอนแรก พอจะไปพบปะผู้คนได้บ้าง เธออยากดูดี อยากให้คนบางคนมองเธอ...
คริมาเม้มริมฝีปาก หมุนดูตัวเองอีกรอบ เธอสวมชุดเดรสลูกไม้ แบบคอปีนแขนกุด กระโปรงยาวคลุมเข่า แบบของมันเรียบร้อยและดูดีเมื่ออยู่บนตัวเธอ คริมาแปรงผมยาวสลวยของตัวเองจนมันเป็นมันเงาและเรียงเส้นสวย เธอมีผมสีดำสนิท ยาวถึงสะโพก เธอตั้งใจไว้มัน...ไม่ยอมตัด เพราะมีคนบางคนบอกว่าผมของเธอสวย
เขาจะจำได้ไหม?
เขาคงจะเกลียดเธอเกินกว่าจะจำได้
คริมาถอนใจ เรื่องเมื่อหกปีก่อนเหมือนเป็นการตราหน้าเธอไปแล้ว เธอคือต้นเหตุ เธอคือคนถูกทำร้าย...และผู้ร้ายเรื่องนั้นคือกริชดนัย
เขาในวัยสามสิบห้าปีตอนนี้ไม่เหมือนเขาในตอนนั้นเลย
ตอนนั้นเขาอาจจะพอเอ็นดูเธออยู่บ้าง...
แต่ตั้งแต่เรื่องคืนนั้น จนถึงตอนนี้ ความรู้สึกนั้นคงจะหมดไปจากใจเขาแล้ว
ทว่า...
คริมามองตัวเองในกระจกอีกหน เธอคิดถูกที่เธอแต่งหน้า เพราะไม่อย่างนั้นหน้าของเธอคงจะซีดมาก
อย่างน้อยเธอก็อยากให้เขาไม่ทุเรศเคืองตากับสภาพของเธอมากนัก
ไม่หวังให้เขาถึงขั้นประทับใจหรอก
คริมายิ้มให้กับตัวเองอีกหน ก่อนจะก้าวออกไปนอกห้อง ปิดประตูห้องนอนของตัวเองแล้วลงไปยังชั้นล่าง เธอจะเผชิญหน้ากับเขา...เจ้าของบ้านคนใหม่ และผู้ปกครองของเธอ
.............................................................................................................................................................
“อากริชยังไม่ลงมาหรือคะป้า”
คริมาที่รอกริชดนัยรับประทานอาหารเช้ามาเกือบชั่วโมง จนรอไม่ไหว เธอเลยรับประทานไปก่อนจนเกือบหมด เธอมองนาฬิกาพลางถอนใจ และหันไปถามป้านาคนครัวเก่าแก่ของบ้านส่ายหน้า แล้วเอ่ยตอบเจ้านายสาว
“ยังค่ะ ป้าไม่กล้าให้ใครไปปลุกเธอ เอ่อ...คุณทนายนัดไว้ตอนสิบโมงครึ่งนะคะคุณวี่ แล้วป่านนี้คุณกริชเธอก็ยังไม่ตื่น”
น้ำเสียงของป้านาร้อนรน คริมากัดริมฝีปากเล็กน้อย เธอกำลังลังเล ว่าจะรับหน้าที่นั่นแทนดีไหม แล้วเธอก็วางช้อน ตัดสินใจลุกขึ้นจากโต๊ะเพื่อจะไปปลุกกริชดนัย เธอบอกให้ป้านาไปอุ่นข้าวต้มไว้ เขาจะได้รับประทานอาหารร้อนๆ แล้วเดินขึ้นไปยังชั้นสองของตัวบ้าน
คริมาลังเลนิดหน่อย ที่จะเคาะประตูห้องของเขา เธอตัดสินใจเคาะสามครั้งแล้วนิ่งฟังเสียงขาน ทางนั้นเงียบกริบ
หญิงสาวลองเคาะอีกหน หนนี้เธอเรียกเขาด้วย
“อากริช อากริชคะ สายแล้วนะคะ เรามีนัดกับคุณลุงจาค่ะวันนี้”
“...”
มีเพียงความเงียบที่ตอบกลับมา คริมายืนหมุนตรงนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะตกลงใจบิดลูกบิดประตูเข้าไปในห้องนอนของเขา...
ร่างสูงนอนบนเตียง เขานอนคว่ำไม่กระดุกกระดิกใดๆ เหมือนกับว่ายังหลับสนิท คริมาถอนใจเล็กน้อย และสืบเท้าเข้าไปใกล้กับเขา เธอเรียกเขาเสียงค่อนข้างดัง
“อากริช อากริชคะ”
เขายังคงหลับตาอยู่แบบนั้น ทำไมเขาถึงนอนหลับลึกขนาดนี้กันหนอ คริมาได้แต่สงสัย เธอยืนลังเลแล้วตัดสินใจที่จะปลุกเขาในแบบที่พิเศษมากขึ้นไปอีกสำหรับคนขี้เซา
มือของเธอแตะที่ท่อนแขนนั่นแล้วเขย่าเบาๆ
“อา ว้าย!”
ประโยคหลังร้องกรี๊ดออกมาอย่างตกใจ เมื่อจู่ๆ คนที่นอนนิ่งนั่นก็พลิกตัวกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วและคว้าเอาข้อมือเธอกระชากทีเดียว เธอก็ล้มลงไปบนตัวเขา
คริมาตาเบิกโพลง...
เขาปรือตาขึ้นมองเธอ นัยน์ตานั่นช่างดุดันยิ่งนักและไม่มีความงัวเงียเลยแม้แต่น้อย เธอนอนนิ่งตัวแข็งราวกับถูกสะกดด้วยสายตานั้นของกริชดนัย
“เด็กขี้ขโมย เธอจะมาขโมยอะไรจากฉันอีกรอบนี้”
คำพูดนั้นทำให้คริมาหน้าซีด เธอตัวสั่นเพราะนัยน์ตาดุวับนั่น เขาผลักเธอออกจากร่างกายของเขา ก่อนจะลุกขึ้น คริมาเกือบจะร้องอุทานอย่างตกใจ กับภาพเขาที่เห็น เขาสวมเพียงแค่กางเกงในตัวเดียวนอน! กริชดนัยนั้นเมื่อเห็นท่าทางของหลานเลี้ยง ที่เอามือขึ้นปิดตาและเม้มปากแน่น นั่งตัวสั่นเทาบนเตียงเขา ชายหนุ่มก็ทำเสียงชิในลำคอ แล้วเอ่ยเสียงขรึมๆ
“อย่าทำเป็นเหมือนไม่เคยเห็นเลย วีวี่ ความตอแหลของเธอ มาทำตอนนี้ฉันไม่เชื่ออีกแล้ว”
คำพูดถากถาง ขบกัดนั้น ทำให้คนที่กำลังเอามือปิดตาเพื่อจะไม่ได้เห็นภาพเกือบเปลือยของเขาแทบจะปล่อยโฮออกมา เธอเลือกที่จะเงียบ ไม่ตอบโต้ใดๆ ใช่...เธอจะเงียบ การเงียบนั้นแล้วแต่เขาจะตีความ ว่าเธอตอบรับหรือปฏิเสธข้อกล่าวหาของเขา แต่มันก็แล้วแต่เขาเลย...ว่าเขาจะมองว่าเธอเป็นยังไง
ดูเหมือนเขาจะตัดสินเธอไปแล้ว...
หูได้ยินว่ากริชดนัยทำเสียงในลำคออีกรอบ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ คนบนเตียงเขาเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำ ก็ค่อยๆ ลดมือลง แน่ใจว่าเขาเข้าไปแล้ว เธอก็ลนลานลงจากเตียงเขา แล้วไปหยุดที่หน้าประตูห้อง
เสียงที่เปล่งออกมาของคริมาฟังแล้วสั่นเครือ
“เอ่อ คุณลุงนัดเราไว้ตอนสิบโมงนะคะอากริช วี่เลยมาปลุกค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ วี่ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าห้องอากริช ก่อนได้รับอนุญาต”
พูดแค่นั้นเธอก็ออกไปนอกห้องของเขา แล้วเดินแกมวิ่งลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว...
กริชดนัยที่กำลังแปรงฟันอยู่ได้ยินเสียงที่เธอพูด แม้จะกระท่อนกระแท่นไปบ้าง แต่ก็พอจะจับใจความได้ เขาจ้องมองตัวเองในกระจกแล้วยิ้มแสยะ...เมื่อนึกถึงหล่อน...ผู้หญิงจอมมารยา
หกปีก่อนนั้นเขาก่อเรื่องไว้จนต้องเตลิดไปจากที่นี่
หนนี้เขาจะกลับมาทวงทุกอย่างของเขาคืน
นังแม่จอมละโมบของเธอตายไปก่อนที่เขาจะมาทำโทษ
เหลือแต่เธอนั่นแหละ
คริมา...
เขาไม่ใช่กริชดนัยที่แสนใจดีกับเธออีกต่อไปแล้ว...