5│ลูกเจี๊ยบใส่ไข่แต่ไม่พิเศษ (2)
ทันทีที่ย่างกรายเข้ามาภายในคอนโดมิเนียมสุดหรู พินรีพลันหนาวไปถึงกระดูกราวมีหิมะตกอยู่ด้านใน ไม่ก็อาจจะเป็นเพราะสายตาคมกริบที่จดจ้องกันอย่างเอาเรื่องของทายาทร้านทอง
คนตัวเล็กยิ้มแหย บ่นกระปอดกระแปดกับตัวเองไปตามเรื่อง “ทั้งกินทั้งเที่ยว เหนื่อยจัง พิขอตัวเข้าห้องก่อนนะคะ”
ชายร่างหนาเอ่ยเสียงกัมปนาท “มานี่”
ขาเรียวชะงักกลางอากาศ ยกมือลูบท้ายทอยแก้เก้อ “แหะๆ”
“มา-นี่”
“ค่ะ” ก่อนเปลี่ยนทิศทางการเดินจากที่มุ่งหน้าไปยังห้องนอนก็ต้องหันไปทางต้นเสียงที่นั่งอยู่บนโซฟา น้ำลายเหนียวๆ ถูกกลืนลงคออย่างยากลำบาก ถึงกระนั้นก็ยังทำใจดีสู้เสือแล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งที่โซฟาโดยเว้นระยะห่างพอสมควร
ไม่พูดพร่ำทำเพลง พินรียกมือไหว้เจ้าของห้องหวังผ่อนหนักเป็นเบา
“ขอโทษค่ะเฮีย พิไม่คิดว่าจะมีคนเห็นค่ะ”
“นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือเธอไม่ควรมาทำตัวรุ่มร่ามกับฉันไม่ว่าจะอยู่กับใครหรืออยู่กันแค่สองคน”
“ไม่ได้รุ่มร่ามนะ” คนเด็กกว่าเถียงคอเป็นเอ็น “พิก็แค่...”
“แค่?”
“รู้สึกขอบคุณเฮียมากๆ ที่เฮียจะออกค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้ พิแสดงออกถึงความซึ้งใจค่ะ เหมือนแมวไงคะ เคยเห็นแมวอ้อนคนไหมคะ แมวอ้อนคนไม่เห็นมีใครว่ามันรุ่มร่ามเลย ทำไมพิถึงต้องโดนด่าด้วย”
“แล้วเธอเป็นแมวหรือไง เธอเป็นไก่เน่าด้วยซ้ำ”
เจ้าตัวทำปากขมุบขมิบแล้วพูดกับตัวเอง “เพราะฉันเป็นพิ ฉันเลยเป็นไก่เน่าทุกที”
“บ่น”
คนถูกคาดโทษหลุดยิ้ม ก่อนปั้นสีหน้าให้จริงจังขึ้น “ขอโทษนะคะถ้าทำให้เฮียรู้สึกไม่สบายใจ พิพูดและทำแบบนั้นเพราะไม่คิดว่าจะมีคนมาเห็นจริงๆ น่ะ”
“ถ้าไม่มีคนเห็นจะทำว่างั้น”
“แหม เฮียก็ รู้ใจพิดีจัง เข้ากันได้ดีแบบนี้ทำไมเราไม่คบกันให้มันจบๆ ไปเลยล่ะคะ”
เขานิ่วหน้า “เธอพามาเข้าประเด็นนี้ได้ไงนะ”
หลังจากสถานการณ์คลี่คลายขึ้นตามลำดับ ร่างแน่งน้อยก็กล้าที่จะย่นระยะห่างระหว่างหนุ่มสาวลง “เฮียจ๋า อย่าอารมณ์เสียเลยน้า วันนี้เป็นวันดีออก เราได้ไปเที่ยวด้วยกันครั้งแรกในรอบหลายสิบปีเลยนะ พิไม่ได้ไปเที่ยวกับเฮียอีกเลยนับตั้งแต่วันที่ไปน้ำตก” เธอเงียบไปชั่วอึดใจยามนึกถึงเรื่องราวในอดีต “วันนี้พิมีความสุขมากเลยค่ะ อยากไปอีกบ่อยๆ จัง”
ริมฝีปากหยักปิดสนิทไร้การเคลื่อนไหว หวนคิดไปถึงวันที่เขารู้สึก ‘กลัว’ มากที่สุดในชีวิต กระทั่งอายุล่วงเลยมาจนกลางเลขสามเข้าไปแล้วก็ยังไม่มีวันไหนที่ล้มล้างความกลัวในวันนั้นได้เลย วันที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กพยายามตะเกียกตะกายปัดป่ายมือหาที่จับยามตัวเองกำลังจมดิ่งสู่ใต้น้ำ
เพียงแค่เห็นภาพนั้นสมองก็สั่งให้ขาเขาก้าวเพื่อกระโดดลงไปช่วยชีวิตคนที่เป็นเสมือนน้องสาวอีกคน
ใครจะไปคิดว่าจะโตมาเป็นเด็กพรรค์นี้
พินรีคว้าเสื้อยืดออกมาโชว์ “พิจะใส่ทุกวันเพราะเป็นเสื้อที่เฮียซื้อให้ จะใส่จนเป็นเสื้อเน่าเลยค่ะ”
“ให้มันเน่าแค่ไก่อย่างเธอก็พอ อย่างอื่นไม่ต้อง”
คนตัวเล็กฉีกยิ้มจนตาเป็นสระอิ “รองเท้าคู่นั้นที่เฮียซื้อให้ พิจะรักษาอย่างดีค่ะ”
ชายหนุ่มพยักหน้าส่งๆ แล้วล้วงสมาร์ตโฟนขึ้นมา “เลขบัญชีล่ะ”
“อ้อ งั้นไม่ส่งทางแชทแล้วนะ เดี๋ยวพิบอกเลยแล้วกันค่ะ” ว่าจบก็บอกเลขบัญชีธนาคารของตัวเองให้อีกฝ่ายได้ทราบ ระหว่างนั้นก็หยิบกระเป๋าใบเล็กๆ ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายขึ้นมา คว้านหาของที่ต้องการแล้วจึงส่งใบเสร็จไปให้เขา “นี่ค่ะคุณป๋า”
มือหนารับไปถือไว้อย่างว่าง่ายแม้จะขัดใจกับคำเรียกขานของอีกฝ่าย
เจ้าหล่อนแกล้งเย้า “โอนเกินได้นะคะ สักแสนสองแสน พิไม่ถือ”
“ยังไม่เข้านอนเลยเธอก็ฝันซะแล้ว”
สาวน้อยเบ้ปากใส่คู่สนทนา “คนขี้เหนียว”
“ให้ขนาดนี้ยังว่าอีกเหรอ ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ เลย”
“ล้อเล่นค่ะ”
คนอายุมากกว่าดึงใบหน้ากลับมาที่หน้าจอสี่เหลี่ยมในมือ “พินรี เชาว์เจริญนะ”
“ไม่ใช่ค่ะ”
นิ้วโป้งที่ตั้งท่าจะแตะเพื่อยืนยันการโอนเงินเป็นอันชะงักค้างไว้อย่างนั้น “บอกเลขผิดรึ แต่นี่ชื่อเธอมันจะผิดได้ไง”
“ไม่อยากใช้นามสกุลพ่อแล้วอะ เบื่อ อยากใช้โรจนวาณิชย์”
เปลือกตาถูกปิดลงเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ แม่นี่ยั่วโมโหเขาเก่งจริงๆ กับเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ขอให้ได้สร้างเรื่อง
ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้น เอ่ยเสียงเข้ม “ถ้ายังไม่หยุดบ้าจะไม่โอน”
มือบางถูกยกขึ้นมาทำท่ารูดซิปปากเพื่อสื่อว่าตนยอมสยบแก่คำขู่ของเขา
หลังโอนเงินเสร็จสรรพร่างกำยำก็ผุดตัวลุกขึ้นยืน “ก่อนเข้าห้องปิดไฟให้เรียบร้อย ถ้าเปิดทิ้งไว้ฉันจะให้เธอจ่ายค่าไฟคนเดียว ไม่หารสอง”
“รับทราบค่ะ ฝันดีนะคะ ถ้าไม่รู้จะฝันถึงอะไรฝันถึงพิก็ได้ค่ะ”
“ปกติฉันไม่ค่อยฝัน มันค่อนข้างจะหลับสนิท”
“ก็ดีนะคะ ตื่นมาเจอพิตัวเป็นๆ ดีกว่าเจอกันในฝันเป็นไหนๆ”
อาจจะเพราะเขาเป็นคนพูดไม่เก่งกระมังถึงได้แพ้คนช่างจ้อเสียทุกครั้งไป
ขายาวก้าวไปยังห้องนอนของตน ชะงักเล็กน้อยตอนสายตาประสานเข้ากับป้ายชื่อที่ไม่ว่าอย่างไรก็คงไม่มีวันชิน เขาลอบถอนหายใจแล้วสอดกายไปด้านในเป็นเหตุให้ภายในห้องนั่งเล่นหลงเหลือเพียงพินรีแค่คนเดียว
หล่อนยังปักหลักอยู่ที่เดิม แตะไปที่ไลน์เพื่อคุยกับเพื่อนสนิทที่ก่อนจะไปเยาวราชเธอได้ทักไปถามหาความจริงกับอีกฝ่าย ซึ่งสิ่งที่คิดไว้กับความเป็นจริงนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว
ไก่เน่า: สรุปว่าพี่ชายเธอไม่มีสาวจริงๆ นั่นแหละ
Ry: ก็บอกแล้วว่าฉันปั้นเรื่องขึ้นมาเอง เผลอๆ มันเตรียมตัวขึ้นคานแก่ไปคนเดียวแล้วนอนกอดทรัพย์สมบัติไปจนตายด้วยซ้ำ
Ry: ถ้าจะมีสาวสักคนก็คงมีแต่เธอนี่แหละ
ไก่เน่า: สาธุ แต่เฮียเขาก็น่ารักนะ ที่หมายถึงน่ารักมากๆ โคตรน่ารักเลยอะ เธอต้องรู้ไว้นะรี่ว่าพี่ชายเธอคนนี้เขาน่ารักสุดๆ
Ry: มันไปทำอะไรให้หลงล่ะ
ไก่เน่า: ซื้อของให้
Ry: คนงกแบบนั้นอะนะ งี้ก็ใกล้จะได้เป็นพี่สะใภ้ฉันแล้วน่ะสิ
ไก่เน่า: ยังหรอก ยากมาก เหมือนเขาแค่ใจดีเฉยๆ
Ry: คำว่าใจดีไม่ควรอยู่คู่กับเฮียสี่เลย ของที่ไม่เข้ากันที่สุด
Ry: แต่พยายามนะสาว เสื้อผ้าเซ็กซี่ๆ น่ะหัดซื้อมาใส่บ้าง ซีทงซีทรูเอยอะไรเอย ใส่ไป หุ่นเธอมันหุ่นผัวรักผัวหลง ตัวเล็กก็จริงแต่นมไม่เล็ก เอวบาง ก้นเด้งสู้มือ ส่วนเว้าโค้งมีครบ เฮียสี่มันไม่ใช่พระอิฐพระปูน อวดนิดอวดหน่อยเดี๋ยวก็มีผัวสมใจเองแหละ
ไก่เน่า: เขินตาย
Ry: มัวแต่เขินเมื่อไรจะโดนเจาะไข่แดง
ไก่เน่า: พูดไรเนี่ย น่าเกลียด
Ry: แต่พูดแบบนี้แล้วมีผัวนะ อยากมีก็ต้องสู้หน่อย ในเมื่อเฮียมันชอบเหน็บแนมว่าเธอเป็นเด็ก เธอก็ทำตัวแบบที่ผู้ใหญ่เขาทำกันสิ
Ry: อ่อยๆ ไปเถอะ โดนเจาะไข่แดงเมื่อไรเดี๋ยวให้เจ๊วิไลยกขันหมากไปขอ