บท
ตั้งค่า

1│ลูกเจี๊ยบกับหลุมล่อแมว (3)

ภายในห้องนอนขนาดกะทัดรัดอัดแน่นไปด้วยกล่องพัสดุจนแทบไร้ที่ว่าง มันถูกวางทั้งบนโต๊ะคอม เตียงนอนและพื้นห้อง ใกล้กันมีโต๊ะเล็กๆ ไว้วางบรรดาขวดน้ำหอม ถัดไปอีกมุมหนึ่งเป็นมุมสำหรับถ่ายรูปลงอินเทอร์เน็ต

เจ้าของห้องนั่งอยู่บนพื้นหน้าโต๊ะน้ำหอม ทำการแบ่งน้ำหอมจากขวดใหญ่ใส่ขวดเล็กเพื่อส่งให้ลูกค้า ห้องทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอม ส่งผลให้ตัวแม่ค้าเองก็หอมจนเดินไปไหนมาไหนใครต่างก็พากันเหลียวไปตามกลิ่น นอกจากนั้นหน้าตาของพินรีก็น่ารักจิ้มลิ้ม ผิวขาวอมชมพู ตัวเล็กฉบับสาวไซซ์มินิ มาพร้อมกับผมยาวสีน้ำตาลคาราเมลเหมือนสีดวงตาของเจ้าหล่อน

นิยามได้ว่าพินรีเป็นสาวที่ใครๆ จะตกหลุมรักได้ไม่ยาก ยกเว้น ‘เขา’ คนเดียวเท่านั้นที่เลี่ยงหลุมรักของแม่สาวสดใสคนนี้ได้

ช่วงบ่ายที่บ้านเชาว์เจริญมีสองสามีภรรยาช่วยกันเตรียมของเพื่อขายซาลาเปาและขนมจีบ ที่ไม่ว่าจะเป็นสองสิ่งนี้หรือปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ ก็ล้วนแต่เป็นการทำเองทั้งหมด ขายมาตั้งแต่แต่งงานกันแรกๆ จนลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนโตเป็นสาว ณรงค์กับดวงพรก็ไม่เคยคิดจะทอดทิ้งธุรกิจนี้เพราะรักและชื่นชอบการค้าขาย ยิ่งตอนนี้พวกเขากลายเป็นร้านที่อยู่คู่ชุมชนมานาน มีลูกค้าประจำมากหน้าหลายตา จึงตั้งใจว่าจะยึดอาชีพนี้ไปตลอดชีวิต

ระหว่างที่ง่วนอยู่กับการเตรียมของก็มีรถยนต์แล่นมาจอดเยื้องๆ กับหน้าร้าน ซึ่งคู่สามีภรรยาจำได้ว่าเป็นรถของบ้านเจ้าของห้างทองเทวาลัย

ประมุขฝ่ายหญิงลงมาจากประตูฝั่งคนขับ ส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับคนทั้งสอง “ยังไม่เสร็จเหรอพร”

“ยังเลยจ้ะ อีกพักหนึ่งเลย พี่วี่จะรอก่อนหรือเปล่าล่ะ ถ้าไม่สะดวกเดี๋ยวเสร็จแล้วให้เจ้าพิมันไปส่งก็ได้”

วิไลส่ายหน้า “รบกวนเปล่าๆ พี่ขอนั่งรอแถวนี้แล้วกัน” หลังทิ้งสะโพกนั่งลงที่โต๊ะหินอ่อนก็ทำทีเป็นเอิ้นขึ้น “แล้วไปไหนซะล่ะ หนูพิน่ะ”

“พอห่อซาลาเปาเสร็จก็เข้าไปแพ็กของอยู่ในห้องเขาแหละพี่”

“ขยันจริงๆ” หล่อนเอ่ยตามใจคิด

ดวงพรเผยยิ้มด้วยความภูมิใจ เธอมีลูกเพียงคนเดียวจึงรักพินรีมาก และลูกสาวก็ทั้งน่ารักและนิสัยดี ยิ่งมีคนชมให้ได้ยินคนเป็นแม่จะไปเก็บอาการได้อย่างไร

เศรษฐีวัยกลางคนว่าต่อ “อีกไม่กี่วันจะครบรอบสี่สิบปีของร้านแล้ว นอกจากของสมนาคุณที่เตรียมไว้ก็ตั้งใจจะให้น้ำหอมด้วย ไม่รู้ของหนูพิเขามีสต๊อกไว้หรือเปล่า” ซึ่งนั่นวิไลก็เพิ่งคิดได้สดๆ ร้อนๆ ตอนนี้เลย

ดวงพรหันขวับ คิดแค่ว่าถ้าวิไลมาเป็นลูกค้า ลูกสาวเธอคงจะรับทรัพย์หนักน่าดู “มีนะพี่ พิมันซื้อไว้เยอะเลย” ว่าก่อนหันไปทางสามี “พ่อไปเรียกลูกมาคุยกับพี่วี่หน่อยไป”

“เดี๋ยวๆ เตรียมของกันอยู่แท้ๆ จะให้พี่รบกวนได้ยังไง”

ณรงค์ยิ้มรับ “ไม่เป็นไรครับพี่ เดี๋ยวผมไปเรียกให้”

“ขอพี่เข้าไปคุยกับหนูพิเองได้ไหม จะได้ดูของด้วย”

“อ้อ เชิญข้างในเลยครับ อยู่ห้องที่สอง”

หญิงวัยกลางคนแลดูภูมิฐานเดินเข้าไปในบ้านชั้นเดียวที่ข้าวของทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ การตกแต่งส่วนใหญ่ดูมินิมอลอย่างที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมชมชอบ ก็คงจะเป็นฝีมือของพินรี หล่อนเดินผ่านห้องนอนห้องแรกไปหยุดอยู่ยังห้องที่หมาย ซึ่งถึงณรงค์จะไม่บอกว่าห้องไหนคือห้องของพินรี หล่อนก็ทราบมันอย่างแน่นอน

บานประตูมีป้ายเล็กๆ ห้อยไว้ว่า ‘ห้องน้องพิ’ กับสติกเกอร์อีกนิดหน่อยที่ถูกแปะพอให้น่ารัก และพอคิดว่าหล่อนกำลังจะส่งเด็กน่ารักแบบพินรีไปอยู่กับลูกชายของตัวเอง ความละอายใจก็ตีตื้นขึ้นมาในอก

หล่อนช่างบาปหนา

ฝ่ามือเหี่ยวย่นตามวัยเคาะลงไปที่เนื้อไม้จนเกิดเสียง

“แม่เหรอ เข้ามาได้เลย พิไม่ได้ล็อก”

วิไลเอื้อมไปหมุนลูกบิดก่อนเปิดประตูจนอ้ากว้าง เผยยิ้มให้เด็กสาวรุ่นลูก “ป้าเองจ้ะ” คนตัวเล็กที่ง่วนอยู่กับการแพ็กสินค้ากุลีกุจอลุกขึ้นยืนหวังทำความเคารพ ทว่าแขกกิตติมศักดิ์กลับยกมือปราม “นั่งๆ ระวังของตก”

เจ้าหล่อนยิ้มแหย “แหะๆ” แล้วจึงนั่งลงกับที่ พนมมือแนบอก “สวัสดีค่ะป้าวี่ ห้องรกหน่อยนะคะ”

“ก็ของซื้อของขายทั้งนั้น ป้าเข้าใจจ้ะ” ว่าพลางทิ้งตัวลงนั่งพับเพียบที่พื้นใกล้ๆ กับเด็กสาว “ทำงานอยู่เหรอ”

“เอ่อ...ป้าวี่ขึ้นไปนั่งบนเตียงก็ได้ค่ะ”

“ทำไมล่ะ นั่งกับเราก็ได้นี่” คนอายุมากกว่าแสดงออกว่าไม่ยี่หระกับที่นั่ง ก่อนชวนเข้าเรื่องเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา “ป้าว่าจะมาซื้อน้ำหอมจากหนูเพื่อไปเป็นหนึ่งในของสมนาคุณวันครบรอบสี่สิบปีของที่ร้านน่ะจ้ะ พอจะมีแนะนำป้าไหม”

พินรีเอียงคอมอง “หมายถึงว่า...?”

“ป้าคงต้องซื้อเยอะหน่อย เรามีของอยู่ในสต๊อกเยอะหรือเปล่า”

แม่ค้าตัวน้อยเบิกตาโต เดิมทีเธอไม่ทราบจริงๆ ว่ามารดาของวสุจะมาที่นี่ทำไม ตอนเห็นยังนึกตกใจอยู่เลย ผสมปนเปกับความอายที่ท่านต้องมาเห็นสภาพห้องนอนที่เต็มไปด้วยข้าวของระเกะระกะซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นของเกี่ยวกับการค้าขายทั้งสิ้น แต่พอทราบเจตนาก็ทำเอายิ้มแก้มแทบปริ

“มีค่ะ หนูมีไว้เยอะเลย ป้าวี่ต้องการตัวไหนเป็นพิเศษไหมคะ มีกลิ่นหอมหลายแบบมากค่ะ จะสดชื่น เฟรชๆ หวานๆ ก็มีค่ะ กลิ่นไม้ก็มีนะคะ”

ก่อนพินรีจะเริ่มร่ายสรรพคุณเกี่ยวกับสินค้าของตน ทั้งยังนำตัวสินค้าออกมาอวดโฉมเพื่อประกอบการตัดสินใจ วิไลก็เออออไปตามเรื่อง

ด้านคนอยากขายก็พูดด้วยตาเป็นประกายที่จะขายของได้ทีละจำนวนมาก เพราะปกติแล้วยอดขายร้านเธอไม่ได้มากมาย มันก็ใช่ว่าแม่ค้าออนไลน์จะรวยกันทุกคน แต่ก็ยังดีที่เธอมีรายได้ทางนี้เพิ่มอีกทางนอกจากธุรกิจของที่บ้าน ไม่อย่างนั้นฝันที่จะไถ่ที่ดินคืนคงไม่มีวันเป็นจริง

หมายถึงว่าตอนนี้ก็ยังไม่เห็นวี่แววจะเป็นจริงเหมือนกัน

“ป้าเอาเซ็ตนี้จ้ะ” หล่อนชี้ไปที่น้ำหอมยี่ห้อหนึ่งที่ทั้งเซ็ตมีทั้งหมดห้ากลิ่น “เอากลิ่นละห้าสิบขวด”

แม่ค้าสาวนิ่งงันไปหลายวินาที ก่อนดึงสติได้ “ป้าวี่จะซื้อสองร้อยห้าสิบขวดน่ะเหรอคะ”

“ใช่จ้ะ”

“ขวดใหญ่หรือแบ่งคะ”

“ขวดใหญ่เลย”

พินรีใช้สองเท้าเหยียบความดีใจไว้แล้วแจ้งคู่ค้าทางธุรกิจไปตามตรง “พิเป็นร้านเล็กๆ ที่แบ่งน้ำหอมขาย ไม่มีตุนไว้ขนาดนั้นหรอกค่ะ ป้าวี่จะใช้วันไหนเหรอคะ เดี๋ยวพิได้สั่งมาให้ก่อน”

“อังคารหน้าน่ะ”

“ทันค่ะ งั้นเดี๋ยวพิสั่งเลยนะคะ”

“เท่าไรล่ะ ป้าจ่ายเลยแล้วกันเราจะได้มีเงินหมุน”

ใบหน้านวลส่ายพัลวัน “พิออกก่อนได้ค่ะ เดี๋ยวได้ของป้าวี่ค่อยจ่ายให้พิแล้วกัน”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวป้าจ่ายเลย”

แม่ค้ายอมยกธงขาว เผยยิ้มน่ารักให้ผู้ใหญ่เอ็นดู “งั้นพิลดราคาให้นะคะ”

“ราคาเต็มมาเลย ป้าอยากอุดหนุน”

“ไม่ได้หรอกค่ะ ป้าวี่อุตส่าห์ซื้อตั้งเยอะ ให้พิลดให้นะคะ”

วิไลทอดสายตามองอย่างอ่อนใจ “เจ้าเด็กคนนี้” ก่อนคว้าโทรศัพท์มือถือมาโอนเงินครึ่งแสนให้อีกฝ่าย เพราะตกขวดละสองร้อยนิดๆ

“ขอบคุณนะคะป้าวี่ที่เลือกร้านพิ ไว้ของมาถึงเมื่อไรพิจะรีบไปส่งให้ถึงบ้านเลยค่ะ”

“จ้า ขยันแบบนี้ขอให้ค้าขายร่ำรวยนะ”

พินรียกมือไหว้ปลกๆ “ขอบคุณค่ะ ที่จริงป้าวี่โทร. บอกพิก็ได้ค่ะ พิไปหาที่บ้านได้ ไม่น่าลำบากมาถึงนี่เลย ห้องมันออกจะแคบน่ะค่ะ รกด้วย”

หญิงวัยกลางคนเพียงยิ้ม ก่อนแสร้งทำหน้าสลดพลางทอดถอนลมหายใจราวหนักอกเสียเต็มประดา “ป้าไม่ได้มาแค่เพราะเรื่องน้ำหอมหรอก พอดีมีเรื่องสำคัญอยากมาคุยกับพิด้วย”

“เรื่องอะไรเหรอคะ”

ตอนแรกวิไลแค่แสร้งหนักใจ แต่บทจะต้องพูดออกไปหล่อนกลับหนักใจขึ้นมาจริงๆ ทว่าสุดท้ายก็จำเป็นต้องพูดเพราะไม่อยากให้ลูกชายหลงผิดไปมากกว่าที่เป็นอยู่ และคงมีแค่พินรีคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยครอบครัวโรจนวาณิชย์ได้

“เรื่องของตาสี่น่ะ”

พินรีกะพริบตาถี่ นับตั้งแต่วลีบอกว่าจะช่วย อีกฝ่ายก็ไม่ได้แง้มอะไรให้ทราบถึงแผนการหรือการเคลื่อนไหวใดๆ ทว่านี่คงเป็นหนึ่งในหมากของเพื่อนสนิท

“เฮียสี่ทำไมเหรอคะ”

“ตาสี่กำลังมีปัญหา และป้าคิดว่าพิเป็นคนเดียวที่จะช่วยได้” เธอนิ่งงัน “พิ”

“คะ...คะ?”

“ช่วยย้ายเข้าไปอยู่กับตาสี่ให้ป้าหน่อยได้ไหมจ๊ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel