บท
ตั้งค่า

1│ลูกเจี๊ยบกับหลุมล่อแมว (2)

แผนการที่ถูกกลั่นออกจากมันสมองอันเฉลียวฉลาดของน้องสาว ถูกพี่ชายสานต่ออย่างสามัคคี กลายเป็นคู่หูที่ทำงานด้วยกันอย่างเข้าขา แม้ว่าเขาจะถูกน้องรักหยิกจนหลังเขียวก็ตาม

หลังเลิกงานพี่ๆ ในกลุ่มก็เดินทางกลับคอนโดมิเนียมเพื่อพักผ่อน เว้นก็แต่รถคันของท่านสส. ที่มีผู้เชี่ยวชาญอย่างพี่ชายแท้ๆ กับพลขับซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตน ที่วนไปส่งเจ้านายที่เพนต์เฮาส์ กับตัวเขาเองที่ถูกโยกมาดูแลความปลอดภัยของเมียเจ้านายที่ร้านชาเฮาส์

เขาเมินข้อความของคมชาญที่ส่งมาถามในกลุ่มว่าคืนนี้จะออกไปไหนไหม เพราะมีเรื่องสำคัญให้ต้องจัดการ

ตอนนี้สดายุนั่งอยู่ในมุมหนึ่งของร้านกาแฟ โดยมีอีกสองชีวิตช่วยกันเก็บร้าน

เป็นอัปสราและชื่นพธู คนพี่ท้องได้สามเดือนนิดๆ แต่ไม่ยอมลางาน เพราะไม่มีอาการแพ้ท้องที่รุนแรง เขาจึงถูกส่งมาประจำที่นี่แทนที่จะไปช่วยงานสัตรา คนน้องเพิ่งเรียนจบไม่รู้จะทำอะไร อาศัยทักษะการชงเครื่องดื่มที่มีติดตัวมาสมัครงาน เดิมทีชยินซึ่งเป็นเจ้าของร้านหน้าเลือดไม่คิดจะจ้างใครเพิ่ม แต่เพราะอัปสราตั้งครรภ์จึงไม่อยากให้ทำงานหนัก สุดท้ายก็ยอมจ้างชื่นพธู ส่วนตัวเจ้าของวันนี้ไม่ได้เข้ามาที่ร้านอีกเช่นเคย

สองสาวพูดคุยกันไปโดยที่มือก็ไม่หยุดทำงาน ที่ปกติแล้วเขาเองก็จะช่วยคนละไม้คนละมือ เพราะพ่อสั่งมาว่าห้ามให้แม่ต้องทำงานเหนื่อยหรือยกของหนักเด็ดขาด

ร่างสูงผุดตัวลุกขึ้นยืน “คุณอบเชยครับ ผมขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์สักครู่นะครับ”

“เชิญเลยค่ะ”

ขายาวก้าวออกไปทางหลังร้านที่ปลอดคน ก่อนกดโทร. ออกหามารดาเพื่อกระทำการปั้นน้ำเป็นตัวตามที่ได้รับมอบหมายมาจากน้องบังเกิดเกล้า

รอแค่ครู่เดียวคุณนายวิไลแห่งห้างทองเทวาลัยก็รับสาย (มีอะไรหรือเปล่าลูก)

“สวัสดีครับแม่” เขาแสร้งเอ่ยเสียงเบาทั้งยังขมวดคิ้วจนหน้ายุ่ง ส่งความกังวลเจือไปในน้ำเสียง “พอดีผมมีเรื่องอึดอัดใจอยากบอกน่ะครับ”

วิไลหน้าตึง (ใครทำอะไรลูก)

“ไม่มีใครทำอะไรผมครับ ก็แค่...”

ท่านเร่ง (แค่อะไร)

“ไม่รู้ว่าผมจะพูดได้หรือเปล่าน่ะครับ กลัวมีปัญหากับเฮียสี่”

เรียวคิ้วของเจ้าของห้างทองขมวดเป็นปม ความกังวลฉายชัดในแววตา ด้วยรู้ดีว่าสองพี่น้อง อันที่จริงทั้งสาม ไม่สิ สี่คนพี่น้อง ลูกของเธอทุกคนนั้นมันกัดกันเก่งอย่างกับหมาวัด ไม่ว่าจะเป็นจิรัชที่ไปประจำอยู่เหมืองทองที่กบินทร์บุรี ที่ก็โตแต่ตัว อยู่ด้วยกันกับน้องๆ ทีไรชอบกวนประสาทให้น้องมันด่า วสุ สดายุ และวลีก็ใช่ย่อยที่ไหน ถ้าสี่คนนี้รักกันดี อีกวันโลกแตกแน่นอน

(ทำไมล่ะ ทะเลาะกันเหรอ ทะเลาะอะไรกันบอกแม่ได้ไหม)

“ไม่ใช่ครับ” เขารีบปฏิเสธ “เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับผมเลยด้วยซ้ำ มันเป็นเรื่องของเฮียสี่คนเดียว ที่ไม่ใช่เฮียคนเดียวแต่มีคนอื่นมาเกี่ยวด้วยน่ะครับ”

วิไลงงหนัก (ยังไงนะ)

“ก่อนอื่นแม่ต้องสัญญากับผมว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ให้เฮียสี่รู้ ถ้าเฮียรู้ เฮียคงเดาได้ทันทีว่ามันมาจากผม แบบนั้นแหละครับที่ผมจะได้มีปัญหากับพี่ชายตัวเองจริงๆ”

(ได้ เรื่องอะไร)

“เฮียสี่กำลังติดหญิงครับ”

ปลายสายหัวเราะในลำคออย่างไม่ทุกข์ร้อน (ก็นึกว่าเรื่องอะไร ดีสิ แม่อยากให้เฮียเราแต่งงานมากรู้ไหม ปีนี้ก็สามสิบห้าแล้วยังไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตน นี่แม่จะเล่าให้ฟัง ตอนแม่ไปงานแต่งพ่อเซียงนะ คิดอย่างเดียวว่าอยากให้เฮียสี่มันแต่งบ้าง เราก็เหมือนกันนะยี่ เฮียจี่กับน้องรี่แต่งไปแล้ว เมื่อไรจะถึงตาสองหนุ่มของแม่ล่ะ)

สดายุอยากเอาเท้าก่ายหน้าผาก “คืออย่างนี้นะครับแม่ อย่าเพิ่งสนเรื่องผมจะแต่งตอนไหน แต่ตอนนี้สนใจเรื่องของเฮียสี่ก่อนเถอะครับ”

(เฮียมันทำไม)

“เฮียมันกำลังถูกผู้หญิงหลอกจนเสียเงินไปเป็นล้านๆ แล้วครับแม่”

ปลายสายเงียบไปหลายอึดใจ ครุ่นคิดครู่ใหญ่แล้วเอ่ย (จริงเหรอ อย่างเฮียสี่เนี่ยนะยอมเสียเงินเป็นล้านๆ ไม่มั้ง มันงกขนาดนั้น)

“ก็เฮียมันหลงสาวไงแม่ ผมก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ผู้หญิงคนนั้นสูบเลือดสูบเนื้อมันไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมาก อ้อนนิดอ้อนหน่อยเฮียก็ยอมใจอ่อน ถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ ลูกชายแม่ไม่เหลืออะไรแน่ครับ”

(เป็นไปได้เหรอ) วิไลยังคงชั่งใจเพราะเลี้ยงวสุมาตั้งแต่เกิด รู้ดีว่าลูกชายคนนี้มีนิสัยเช่นไร เงินแทบไม่ให้กระเด็นออกจากกระเป๋า แต่ถ้าเรื่องหาเงินเข้าตัวแล้วถนัด (ลูกแน่ใจใช่ไหมว่าเฮียเขาโดนหลอก เฮียเขาอาจจะรักจริงหวังแต่งก็ได้ถึงได้ให้เงิน)

ผู้ช่วยสส. แผนกเบ็ดเตล็ดลอบถอนหายใจเบาๆ อย่างหนักอกที่เรื่องเริ่มจะเลอะเทอะไปใหญ่ เขาลงเรือลำเดียวกับวลีแล้ว จะให้สละเรือตอนนี้แล้วยอมบอกความจริงว่ามันเป็นแผนของยายน้องสาวตัวดีก็ใช่ที่ แบบนั้นนอกจากจะโดนเพื่อนร่วมขบวนการเล่นงาน พ่อก็จะรู้เรื่องที่เขาทำเมื่อนานมาแล้ว แม่ก็จะโมโหมากๆ ที่เขาทำตัวไม่รู้ความ และถ้าเรื่องไปถึงหูวสุ เขาตาย

ต่อให้ข้างหน้าเป็นทางตันเขาก็จะเอาค้อนทุบกำแพงเพื่อเดินหน้าต่อ

“แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ดีแน่ๆ ครับ ใช้เงินเก่งมาก ไม่ทำงานด้วยครับ ถ้าแม่ได้คนคนนี้เป็นลูกสะใภ้ แม่จะต้องเสียใจ”

วิไลหน้าเครียด (ไม่ทำงานเหรอ)

เพราะเธอสอนให้ลูกทุกคนขยัน ต่อให้รวยแล้วก็ต้องขยัน เช่นนั้นแล้วจึงค่อนข้างขยาดคนขี้เกียจ วิไลมีลูกสะใภ้หนึ่งคนกับลูกเขยอีกหนึ่ง สะใภ้ใหญ่อย่างผลินก็ช่วยตนดูแลห้างทองเทวาลัย ลูกเขยมีธุรกิจของครอบครัวอยู่แล้ว ขยันทำงานจนขยายสาขาสร้างความมั่นคงให้ครอบครัวได้เป็นอย่างดี

หล่อนชอบคนขยัน พวกตัวเป็นขนนั้นไม่ขอข้องแวะ

“ไม่ทำครับ วันๆ ดีแต่ขอเงินเฮีย ผมล่ะเป็นห่วงกลัวเฮียจะเสียคนเพราะผู้หญิงคนนี้ถึงได้โทร. มาบอกแม่นี่ไงครับ ถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อกันให้คนแบบนั้นออกห่างจากเฮีย ลูกชายแม่ไม่รอดแน่ครับ”

(แล้วเราควรทำยังไงดี ตาสี่นะตาสี่ ทำไมถึงได้หลงกลคนไม่ดีเข้าได้)

มุมปากบุตรชายยกขึ้น ก่อนตีเสียงเครียด “เราจำเป็นต้องหาคนที่ไว้ใจได้มาอยู่กับเฮียสี่นะครับ เพื่อที่จะได้กันปลิงดูดเลือดออก”

มารดาทวนคำช้าๆ (คนที่ไว้ใจได้...?)

“ครับ คนที่แม่คิดว่าสามารถไว้ใจให้คอยช่วยไม่ให้เฮียสี่ถลำลึกไปกว่านี้น่ะครับ เพราะเฮียชอบพาสาวมากก ถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วยจะได้ห่างๆ ไปไงครับ ส่วนผมอยู่ใกล้ๆ ก็จริงแต่ทำอะไรได้ที่ไหน นี่ถ้าแม่ไปพูดเรื่องผู้หญิงคนนี้ให้เฮียมันรู้ เฮียเล่นงานผมตาย เพราะงั้นแม่ต้องเหยียบไว้ให้มิดนะครับ จะหาข้ออ้างอะไรก็ได้แต่อย่าพาดพิงมาถึงผม ผมไม่อยากมีปัญหา”

(แม่ไม่พูดให้ลูกๆ แตกคอกันอยู่แล้ว แต่เราจะหาใครให้ไปเป็นไม้กันหมาได้ล่ะ เฮียมันจะยอมให้ใครที่ไหนไปอยู่ด้วยเหรอ)

“แม่เป็นแม่นะครับ คำพูดของแม่ถือเป็นเด็ดขาด ถ้าแม่เอาจริงเฮียสี่ต้องยอมอยู่แล้ว หรือแม่จะเมินเฉยแล้วปล่อยให้เฮียมันถูกดูดเลือดต่อ นี่ก็สุดกำลังผมจะช่วยแล้วนะครับ ถ้าคนอื่นๆ ไม่พยายามช่วยเฮีย ผมก็คงต้องปล่อย”

(จะบ้าหรือไง ใครจะไม่ช่วย) วิไลระบายลมหายใจออกหนักๆ (เรื่องเฮียน่ะเดี๋ยวแม่คุยเอง แม่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ให้ต้องกระทบลูกเลย ยังไงก็ขอบใจมากที่มาปรึกษาแม่ ลูกแม่แม่รักทุกคน ไม่อยากให้เจอคนไม่ดี แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่จะส่งใครไปเป็นหน่วยกล้าตายล่ะ)

“น้องพิ”

ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง (หมายถึง?)

“ผมแค่คิดว่าถ้าเป็นน้องพิจะต้องช่วยครอบครัวเราได้แน่ครับ น้องไว้ใจได้ และน้องก็หวังดีกับเฮียสี่มากๆ ถ้าเป็นพิล่ะก็คงหายห่วง ปลิงตัวเมียกระเด็นไม่รู้ทิศรู้ทางแน่นอน”

แทนที่วิไลจะเห็นด้วย หล่อนกลับเครียดหนักกว่าเดิม (ไม่ได้หรอก แม่จะเอาหน้าที่ไหนไปขอความช่วยเหลือจากพิกันล่ะ ลูกก็รู้ว่าตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้นแม่ยังรู้สึกผิดมาจนทุกวันนี้ ทั้งกับหนูพิ ทั้งกับหนุ่ยกับพรแม่ก็ยังละอายใจที่เกือบทำให้ลูกสาวเขาเป็นอะไรไป จะให้แม่บากหน้าไปขอให้หนูพิช่วยตาสี่อีกน่ะเหรอ บ้านนั้นได้เขม่นแม่ตาย)

“แล้วน้าหนุ่ยน้าพรกับน้องพิเขาเคยทำแบบนั้นเหรอครับ เขาก็ยังดีกับพวกเราเหมือนเดิม ยังขอบคุณเฮียสี่ด้วยที่ช่วยพิ เขารู้ครับว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แม่อย่าคิดมากเลยนะครับ อีกอย่างน้องพิก็ชอบเฮียสี่ น้องต้องเต็มใจช่วยอยู่แล้ว”

(แบบนั้นยิ่งแล้วใหญ่ มันเหมือนเราไปฉวยโอกาสใช้ความรู้สึกดีๆ ของคนอื่นเพื่อประโยชน์ของตัวเองหรือเปล่า)

ชายหนุ่มรู้สึกอ่อนใจกับความคิดเล็กคิดน้อยของมารดา “แต่ถ้าไม่ใช่น้องพิใครจะทำได้ครับ และถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่างเฮียสี่อาจจะเสียมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ เผลอๆ รู้ตัวอีกทีเงินเกลี้ยงบัญชี”

(แต่แม่-)

“น่า แม่ลองไปคุยกับน้องพิดูก่อน ถ้าน้องสมัครใจจะทำก็ให้ค่าเสียเวลาน้อง ถ้าน้องไม่ทำ เฮ้อ ผมก็จนปัญญาจะช่วย”

หญิงวัยกลางคนระบายความหนักอกก่อนตกปากรับคำ

คุณยี่: รี่น้องรัก

คุณยี่: พี่ชายคนนี้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว ที่เหลือก็รอแค่ให้แม่ไปคุยกับน้องพิ เพราะงั้นลืมเรื่องรอยัลเอ็นฟิลด์นะ

Ry: รอยัลอะไร รี่ไม่รู้จัก

เขายกยิ้มให้ความแสบสันของน้องสาว พร้อมกับยิ้มให้ความสามารถในการต้มตุ๋นมารดาของตนเอง

อย่าเรียกว่าปั้นน้ำเป็นตัวเลย อย่างเขานี่มันระดับประติมากรรมด้วยซ้ำ

ทว่าจังหวะที่หมุนตัวกลับเข้าไปในร้านดันมีแจ้งเตือนจากไลน์กลุ่มเด้งขึ้นมาเสียก่อน ตอนนี้มีกลุ่มเกี่ยวกับการทำงานเพิ่มมาอีกหนึ่ง จากเดิมที่มีแค่ลูกนอกไส้สมาชิกแปดท่าน คณะทำงานสส. เซียงสมาชิกเก้าท่าน บวกตัวสัตราไปด้วย และล่าสุดคือ SATRA TEAM จำนวนสมาชิกอยู่ที่สิบคน คนที่สิบคืออัปสรา

กลุ่มคณะทำงานนั้นคุยเกี่ยวกับงานเป็นหลัก ส่วนกลุ่มใหม่คุยสัพเพเหระ ทำให้อัปสราและผู้ติดตามท่านสส. สามารถพูดคุยกันได้อย่างสนิทใจ

เพียงแต่ครั้งนี้มันถูกส่งมาในกลุ่มเฉพาะผู้ติดตาม

ลูกนอกไส้ของนักการเมืองท่านหนึ่ง (8)

คุณสี่: @คุณคม เมื่อเช้าที่เฮียออกค่ากาแฟให้มึงก่อน มึงโอนคืนยังนะ

คุณคม: ยังเลยครับ ลืมเลย กี่บาทนะ

คุณสี่: 85บาท โอนเกินได้แต่อย่าโอนขาด

คุณคม ส่งรูป

คุณสี่: เค

ที่น่าห่วงว่าเงินจะเกลี้ยงบัญชีน่ะ หมายถึงบัญชีคนอื่นต่างหากเล่า!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel