1│ลูกเจี๊ยบกับหลุมล่อแมว (1)
บทที่ 1
ลูกเจี๊ยบกับหลุมล่อแมว
.
.
.
“แล้วเฮียมันว่าไง”
พินรีถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับคำถามของเจ้าสาวป้ายแดง “บอกว่ายังโตไม่พอ”
เรียวคิ้วสวยได้รูปของวลีมุ่นเข้าหากันเป็นปม “ฮะ?”
ใบหน้าจิ้มลิ้มพยักขึ้นลงอย่างหมดแรง “อื้อ พอถามว่าแล้วต้องโตแค่ไหนถึงจะพอ เฮียเขาก็บอกว่าไม่มีวันพอ แล้วก็เดินไปเลย”
วลีผ่อนลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ส่ายหน้าไปมาด้วยรู้สึกไม่เข้าท่าขึ้นทุกวัน “พอๆ คบกับหมอขลุ่ยเถอะ ช่างหัวไอ้พวกขี้เก๊ก เล่นตัวอย่างกับหล่อมากอะ”
“นั่นเฮียเธอด้วยซ้ำ”
“ก็เพราะยังมีคำว่าเฮียค้ำคอถึงพูดแค่นี้ไง ถ้าไม่ได้เป็นพี่น้องกันฉันคงว่าแรงกว่านี้”
พินรีก้มหน้าลงไปตอบข้อความลูกค้าที่ส่งเข้ามาเพื่อสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียดของน้ำหอม เสร็จสรรพจึงเงยหน้าขึ้นมาต่อบทสนทนากับเพื่อนสนิท “หรือมันเพราะฉันดูไม่โตจริงๆ”
“ไม่เกี่ยวกันพิ ที่เฮียมันพูดคือต่อให้เธอโตกว่านี้ เป็นสาวกว่านี้ มันก็ไม่สน อย่าเสียเวลาเลย”
เจ้าของ Larimar Jewelry ทราบดีอยู่แล้วว่าต่อให้พูดอย่างไรก็ไม่เข้าหูแม่ค้าน้ำหอม หากเข้า ก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา พูดอะไรไปมิเคยนำพาเพราะพินรีหาทางปีนขึ้นจากหลุมรักของพี่ชายตัวเองไม่ได้ เธอก็อยากให้เพื่อนสมหวัง ได้เข้ามาเป็นพี่สะใภ้ของตัวเอง แต่มันก็ตึงมือเกินไปในเมื่อวสุค่อนข้างไร้เยื่อใยเลยทีเดียว
“เธอกับพี่เคทจะไปฮันนีมูนกันวันไหนนะ” พอหล่อนเลี้ยวเข้าเรื่องให้ตัดใจ พินรีก็เสเปลี่ยนเรื่อง
คนเป็นเพื่อนระบายลมหายใจหนักๆ “สัปดาห์หน้าแหละ ช่วงที่ฉันไม่อยู่อาจจะเหงาหน่อยนะ ร้านก็ปิด”
เพราะปกติพินรีชอบมาหมกตัวอยู่ที่ร้านเครื่องประดับของวลี อย่างที่ตอนนี้เธอก็นั่งอยู่ในร้าน คนฟังผงกศีรษะรับอย่างว่าง่าย “อื้อ ก็อยู่บ้าน ช่วยพ่อกับแม่ขายของ แพ็กของ นู่นนี่นั่น”
“ถ้ายอมใจอ่อนให้หมอขลุ่ยป่านนี้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนไม่ต้องทนเหงาแล้ว มีแฟนเป็นหมอเชียวนะ หน้าตาก็ดี นิสัยก็สิบผ่าน เพื่อนๆ มีใครคัดค้านที่ไหน”
เจ้าหล่อนเอ่ยด้วยสุ้มเสียงหนักแน่น “ฉันไม่ได้ชอบเขา”
“แล้วชอบใคร”
“เฮียสี่”
“แล้วเฮียสี่มันชอบเธอไหม”
พินรีอ้อมแอ้มตอบ “ไม่รู้”
เพื่อนสนิทปล่อยเสียงหัวเราะอย่างนึกขบขัน “มาไม่รงไม่รู้อะไร มันไม่ชอบจ้ะพิ ถึงฉันจะอยากได้เธอมาเป็นพี่สะใภ้แต่ก็นะ อยากเห็นเธอไปเจอคนที่ดีกว่าเฮียสี่อะ”
“แล้วเฮียสี่ไม่ดีตรงไหน เขาน่ารักออก ถึงเดี๋ยวนี้จะขรึมไปสักนิด”
“เธอทำกรรมมาหนักจริงๆ ถึงได้ต้องใช้เวรใช้กรรมไปกับการชอบคนแบบนั้น”
พินรีกลับไม่คิดอย่างนั้น เธอดีใจที่ได้รักวสุ จนตอนนี้ก็ยังไม่คิดเปลี่ยนใจ แต่ก็อย่างที่เพื่อนๆ พะวงว่าเธอไม่มีทางทำอะไรให้สถานการณ์ระหว่างตนและพี่ชายเพื่อนเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้เลยสักอย่าง
เธออาศัยอยู่ที่บ้านเกิด แม้บ้านจะไม่ได้ห่างกันมากแต่เขาก็หาได้อยู่ให้พบหน้า วสุทำงานในเมืองหลวง นานทีปีหนจะกลับบ้านสักครั้ง และต่อให้ทุกครั้งที่เขากลับมาจะมีสายคอยรายงานแต่ก็ไม่ทำให้ความสัมพันธ์มันดีขึ้น ตอนนี้เขายังครองโสดแต่เธอไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้นไปได้อีกสักกี่น้ำ เขารูปหล่อ การศึกษาดี ฐานะการเงินคล่องมือ สำหรับพินรีแล้ววสุไร้ที่ติ ถ้าเธอยังชอบเขาหัวปักหัวปำขนาดนี้ แม่สาวชาวกรุงสักคนก็อาจจะชอบเขาเช่นกัน
ถ้าวันไหนที่วสุกลับบ้านพร้อมพาคนรักมาเปิดตัว เธอคงต้องตระเวนหาใบบัวบกทั่วปราจีนมาคั้นเพื่อดื่มแก้ช้ำใน
ครั้นจะให้ย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับเขาก็เป็นไปได้ยาก เธอไม่ได้มีสภาพคล่องทางการเงินจนทำอะไรตามใจตนเองได้ปานนั้น
ตอนยังเป็นเด็กแม่ของเธอไปค้ำประกันหนี้ให้ญาติ สุดท้ายเขาหนีไปไหนก็มิอาจทราบ จึงจำเป็นต้องขายที่ดินของยายเพื่อใช้หนี้แทน ตอนขายก็ไม่กี่แสน แต่บทจะซื้อคืนดีดไปเป็นล้าน พ่อแม่ของเธอไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกเลยเพราะเจ็บช้ำน้ำใจที่ต้องเสียที่ดินไป การจะซื้อคืนก็ยากเย็น เหมือนเป็นแผลในใจที่แค่ไม่สะกิดก็ไม่เป็นอะไร แต่ไม่ใช่กับพินรี เธอมีความฝันที่จะเก็บเงินซื้อที่ดินคืน
เจ้าของคนใหม่เปลี่ยนจากป่าละเมาะเป็นสวนไผ่เพื่อเก็บหน่อไม้ขาย ตอนที่เธอไปคุยเรื่องอยากซื้อที่ดินคืน เธอรู้ตัวว่ากำลังโดนรำคาญจากครอบครัวนั้น พวกเขาจึงเรียกราคาสูงๆ เพราะมั่นใจว่าคนอย่างเธอคงไม่มีปัญญาจะจ่าย
มันเป็นที่ที่มีคุณค่าทางจิตใจ เป็นที่ที่เธออยากมอบคืนสู่มือบุพการี เพราะฉะนั้นหนึ่งล้านห้าไม่ถือว่าแพง แต่ตอนนี้ยังไม่มี
สำคัญเลยไปอยู่กรุงเทพฯ จะได้เจอกับเขาหรือ มันง่ายแบบนั้นเสียเมื่อไร
พินรีมีสีหน้าสลด ก้มหน้าก้มตาลงไปตอบข้อความลูกค้าเงียบๆ ไม่พูดไม่จา วลีเห็นแล้วก็ใช่ว่าจะสบายใจ แต่ก็สุดกำลังจะช่วยได้ แม้ว่าเธอจะอยากช่วยมากแค่ไหนก็ตาม ด้วยพินรีคือคนที่คอยสมานรอยรั่วของความรักเธอมาตลอด ทุกครั้งที่มีปัญหากับแทนคุณก็ได้พินรีเป็นตัวกลาง หล่อนเอาน้ำเย็นเข้าลูบ พยายามใช้เหตุและผลเพื่อประคองความสัมพันธ์ของเธอกับแฟนหนุ่ม ที่บัดนี้ขยับสถานะมาเป็นสามี แต่พอเพื่อนมีปัญหาเธอกลับช่วยอะไรไม่ได้เลย
มันทำให้ความรู้สึกละอายใจตีตื้นขึ้นมาในอก
“พิ ทำไมเธอถึงชอบเฮียสี่ขนาดนั้น มันก็แค่ความรักของเด็กๆ”
“ไม่รี่ ฉันรักเฮียสี่จริงๆ และฉันสารภาพว่าไม่อยากถูกมองเป็นเด็ก มันไม่เกี่ยวว่าเป็นแค่เด็กหรืออะไรนะ ความรู้สึกฉันน่ะ มันคือรักแบบที่ผู้ใหญ่เขาก็รักกัน”
วลีเอ่ยเสียงอ่อย “ขอโทษ ไม่ได้จะหมายถึงแบบนั้น แค่อยากให้มูฟออนเพื่อตัวเธอเอง”
“ไม่ได้ว่าอะไร แค่อธิบายว่ามันไม่ใช่รักประเดี๋ยวประด๋าว”
ฝ่ามือบางแตะลงที่ลาดไหล่พลางลูบไปมาอย่างแผ่วเบา “ถ้าเธอมั่นใจว่ารักจริงๆ จะลองสู้ดูสักตั้งไหม ผลเป็นไงก็ช่าง”
แม่ค้าน้ำหอมผินหน้ามามองเจ้าของประโยคด้วยความฉงน ทั้งยังซ่อนประกายความหวังไว้ในดวงตาสีอัลมอนด์จนปิดไม่มิด “หมายถึงยังไงนะ”
“มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทาง แต่ไม่รู้ว่าจะเวิร์คหรือเปล่าแค่นั้นเอง”
“ทางที่ไม่รู้ว่าจะเข้าท่าไหมกับทุกวันนี้ที่เป็นทางตัน ฉันเลือกทางแรกนะ”
วลีหัวเราะน้อยๆ “เออ แต่เธอก็ต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองด้วยนะที่จะทำให้เฮียสี่มันยอมเปิดใจให้น่ะ ฉันคงช่วยทั้งหมดไม่ได้”
“ได้ แล้วเธอจะทำยังไง”
.
.
.
Ry: เฮีย ช่วยอะไรรี่หน่อยได้ปะ
คุณยี่: ไม่ได้
Ry: ไม่รู้ว่ายังจำได้ไหม ตอนม.หกที่เฮียแอบเอารอยัลเอ็นฟิลด์คันโปรดของพ่อออกไปขี่แล้วสีถลอกจนพ่อองค์ลง วันนั้นรี่ไม่ได้บอกพ่อว่าใครเป็นคนทำ แต่วันนี้คงต้องบอก
คุณยี่: จะให้เฮียช่วยอะไร
Ry: ฟ้องแม่ให้หน่อยว่าเฮียสี่ทำตัวแย่บัดซบมาก
คุณยี่: ได้
คุณยี่: ที่จริงถ้าเธอบอกเฮียตั้งแต่แรกว่าให้ทำอะไร เธอไม่ต้องเสียเวลาฟื้นฝอยหาตะเข็บด้วยซ้ำ
คุณยี่: แล้วจะให้ฟ้องระดับไหน เอาแบบตัดค่าขนมหรือตัดแม่ตัดลูก
Ry: ระดับ MAX ชนิดที่ว่าคุณนายวิไลรับกับพฤติกรรมไม่ได้จนอยากเขี่ยออกจากกองมรดก
คุณยี่: ถนัดเลย
Ry: เน้นเรื่องผู้หญิง ประมาณว่าชอบพาสาวมากก หลงจนโอนเงินให้เยอะๆ สักวันเฮียสี่มันจะโดนสูบเลือดจนสิ้นเนื้อประดาตัว
คุณยี่: นั่นพฤติกรรมเฮียด้วยซ้ำ
Ry: อี๋ น่าเกลียด
คุณยี่: แต่รี่ แม่จะเชื่อเหรอ เฮียสี่มันเค็มเหมือนเกลือ
Ry: ถึงต้องยกเรื่องผู้หญิงมาไง ผู้ชายร้อยทั้งร้อยพอเป็นเรื่องผู้หญิง โง่หมด
คุณยี่: ว่าเฮียด้วยปะ
Ry: อย่างเฮียต้องรอให้ถึงเรื่องผู้หญิงด้วยหรือไง
Ry: เอาตามนี้นะ ฟ้องแม่ยังไงก็ได้ให้แม่รู้สึกว่าสถานการณ์ของเฮียสี่กำลังวิกฤต หมัดเด็ดอยู่ตรงนี้ บอกแม่ว่าควรให้ใครสักคนที่ไว้ใจได้เข้าไปอยู่กับเฮียสี่เพื่อสอดส่องพฤติกรรม ก่อนที่มันจะฉาวโฉ่แล้วทำให้วงศ์ตระกูลเราด่างพร้อย บอกไว้ก่อนว่ารี่ไม่อยากมีพี่ที่ถูกสาวหลอกจนหมดตัวหรอกนะ เรียนมาก็สูง โดนหลอกเมื่อไรจะเหยียบให้จม
คุณยี่: รี่อย่าอิน นั่นเธอแค่เมคขึ้นมาใส่ไฟเฮียมัน
Ry: อ้อ เรื่องโดนสาวหลอกรี่หมายถึงเฮียนั่นแหละ
คุณยี่: นี่ยังอยากให้ช่วยปะ
Ry: โมโห? คืออยากให้บอกพ่อเรื่องรอยัลเอ็นฟิลด์ว่างั้น
คุณยี่: เปล่าครับ
คุณยี่: แล้วจะให้แม่ส่งใครมาอยู่กับเฮียมันล่ะ
Ry: ว่าที่พี่สะใภ้พวกเราไง