บทที่๕ (๒)
หรือพวกเขาควรอาบน้ำก่อน
“เธอดูชอบนะ” ยกยิ้มมุมปากแล้วยอมปล่อยให้หญิงสาวเอื้อมมือไปจับเล่น ผิวสัมผัสมันนุ่มแต่ก็ไม่ได้ลื่นมือขนาดนั้น ทว่าเล่นไปสักพักกลับแข็งตัวและขยายใหญ่จนไม่น่าเชื่อ...
“ฉันไม่เคยจับ...อมได้ไหม” กลายเป็นความชอบไปเสียแล้ว ใช่ว่าไม่เคยดูหนังโป๊ เธอเคยเปิดดูและอยากลองทำตามสักครั้งเหมือนกัน หากมันอยู่ในปากของตนจะเป็นอย่างไรบ้างนะ
คำถามของหญิงสาวไม่เหมือนคนที่เพิ่งเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก แต่ก็ไม่แปลกใจหรอกเพราะนารากานต์ดูจะตื่นเต้นกับทุกอย่าง เธอจับแก่นกายชายไว้อย่างนั้นจนเขาต้องปลดมือบางออก เพื่อจะได้เป็นฝ่ายเล้าโลมแทน
“มันยังไม่ได้ล้าง สกปรก..” บอกเสียงนุ่ม ทั้งที่ปกติไม่เคยพูดดีกันหรอก เธอจึงยอมเชื่อฟังแล้วปล่อยให้เขาทำทุกอย่างตามใจ
ลิ้นหนาแตะลงบนทรวงอกนุ่ม หลังจากที่บีบเคล้นจนพอใจไม่มีความเหนียวให้รำคาญ ใช้มือขยี้จนปลายถันชูชันสู่สายตาของตน พอได้ลองชิมรสชาติอาจจะเค็มเล็กน้อยจากเหงื่อ แต่เพราะได้ยินเสียงครางของหล่อน เขาจึงสนุกกับมัน
ร่างกายขาวนวลถูกมือชายแตะต้องครั้งแรก ไหนจะสัมผัสจากลิ้นนุ่มอีก...เธอแทบอยู่ไม่สุขจนต้องโอบกอดเขาเอาไว้ เลื่อนมือไปตามแผ่นหลังกว้างขณะที่แอ่นกายเข้าหาเหมือนเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ
“อื้อ มะ มันต้องเล้าโลม อึก ก่อนเหรอ ไม่ใช่ ทะ แทงเข้ามาเลยเหรอ” กระซิบข้างหูเขาขณะที่ชายหนุ่มเลื่อนมาซุกซอกคอขาว เขาแอบเม้มเบาๆ ไปหนึ่งที คิดว่ารอยคงไม่ใหญ่มากจนสังเกตเห็นชัด
“ครั้งแรกของเธอมันจะเจ็บ” ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะนึกถึงความรู้สึกของเธอด้วย แววตากลมเปล่งประกายยามมองกลุ่มผมหนาที่ซุกอยู่ทรวงอกของหล่อน สลับดอมดมสองข้างอย่างมีความสุข เธอเองก็ไม่ปิดบังว่าเสียวซ่านมากแค่ไหน
ครั้งแรกของนารากานต์อาจจะเกิดจากความเมาและอยากรู้อยากลอง แต่ปภพก็อ่อนโยนกับหญิงสาวมากที่สุด เพื่อเธอจะได้ไม่มีความทรงจำที่แย่ ถึงมันจะเป็นเพียงเซ็กส์ที่เกิดขึ้นกะทันหันแทบไม่ได้เตรียมความพร้อมก็ตาม
กระทั่งถุงยางอนามัยก็ไม่มี...จนชายหนุ่มเลือกจะปล่อยข้างนอกเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย และพรุ่งนี้เช้าคงต้องไปซื้อยาคุมฉุกเฉินให้เธอ กินป้องกันอีกชั้นจะได้สบายใจ
แต่ตอนนี้เสียงครวญครางดังก้องห้องพักสุดหรู นอกจากบนโซฟาแล้วพวกเขายังพากันไปที่ห้องน้ำและจบลงบนเตียงอีกครั้ง ทำเอาร่างแบบบางนอนสลบเหมือดอยู่เตียงกว้าง...พร้อมรอยยิ้มประดับที่มุมปากเล็กอย่างมีความสุข
เช้าวันใหม่ทำให้คนที่นอนนิ่งบนเตียงค่อยขยับกายเล็กน้อย เปิดเปลือกตาเพื่อมองเพดานที่ไม่คุ้นเคย ความรู้สึกแรกที่ได้รับคืออาการมึนงงและหนักศีรษะ ทั้งยังปวดไปทั่วตัวโดยเฉพาะบริเวณที่อ่อนไหวเป็นพิเศษ
ภาพเมื่อคืนหลั่งไหลเข้ามาในหัวจนหญิงสาวเลือกจะหลับตาอีกครั้ง เมื่อสติกลับมาครบถ้วนเธอก็ก่นด่าตนเองในใจหลายสิบรอบ คำพูดที่ได้เอ่ยกับปภพเป็นความลับที่ไม่เคยบอกใคร แต่ชายหนุ่มดันรู้จนหมดเปลือก
เธอเองก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว...แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากิจกรรมเมื่อคืนดีมาก ครั้งแรกของหล่อนสุขสมอารมณ์ เพิ่งรู้นี่เองว่าถึงสวรรค์โดยเท้ายังแตะพื้นเป็นเช่นไร
“โอ๊ย” ยันกายนั่งบนเตียงก่อนจะร้องเพราะเจ็บจุดซ่อนเร้น ครั้งแรกยังคงรู้สึกหน่วง ใบหน้าหวานเหยเกพลันคิดถึงตอนที่เขาสอดใส่เข้ามาในกายตน แทบไม่อยากเชื่อว่ามันจะเข้ามาได้ทั้งหมด
มือบางยกขึ้นปิดหน้าพลางส่ายศีรษะ เธอไม่ได้สนใจครั้งแรกเท่าไหร่ แต่กำลังกังวลว่าต่อจากนี้จะมองหน้ากันอย่างไร ทะเลาะทุกครั้งที่เจอหน้าแต่ดันพลาดท่าได้กับอีกฝ่ายเสียอย่างนั้น รู้ถึงไหนอายถึงนั้น
ต้องปิดเป็นความลับห้ามไม่ให้ใครรู้เด็ดขาด
“ระวังหน่อยสิ” ร่างสูงถลาเข้ามาหาเธอทันที พร้อมประคองให้เธอนั่งพิงพนักเตียง โดยมีหมอนมารองหลังเอาไว้เพิ่มความนุ่ม
จากคนพูดมากกลายเป็นหญิงใบ้ไปชั่วขณะ นารากานต์แทบไม่กล้ามองหน้าเขาด้วยซ้ำ เอาแต่ก้มมองตักของตนเองแล้วสำรวจร่างกายว่าสวมเสื้อผ้าหรือเปล่า ยังดีที่สวมเสื้อยืด...
ของปภพ!
เบิกตากว้างทันทีเมื่อเห็นว่ามันคือเสื้อของเขา เธอกลืนน้ำลายลงคอจำไม่ได้ว่าใส่เสื้อผ้าตอนไหน เพราะรอบสามจบก็สลบเหมือดทันที
ถ้าเป็นอย่างนั้นคนที่ใส่เสื้อผ้าให้ตนคงหนีไม่พ้นร่างสูงที่ยืนมองไม่ห่าง
“ฉันสั่งข้าวต้มมาให้เธอ กินข้าวแล้วก็กินยาคุม” ผละไปหยิบข้าวต้มมาให้เธอ แล้ววางบนตักหญิงสาว เกรงว่าถ้าให้ลุกอาจต้องประคอง ตอนแรกคิดจะนำพานารากานต์ไปอย่างเนิบช้า แต่อารมณ์ดิบส่วนลึกก็บังคับให้เขากระแทกกายไม่ยั้ง จนร่างบางหัวสั่นหัวคลอน
หล่อนทั้งร้องเร่งเร้าสลับกับอ้อนวอนให้เขาช้าลงหน่อย เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ปภพเต็มอิ่มกับเซ็กส์
“ขอบคุณ” รู้กันดีว่าต้องป้องกันเพราะเขาไม่ได้สวมถุงยางอนามัย หญิงสาวจึงไม่พูดเรื่องชวนทะเลาะ กลับเลือกกินอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
“ระวังติดคอ” บอกเสียงนุ่มกลัวว่าข้าวจะติดคอ แล้วหล่อนก็ไม่ชินกับน้ำเสียงและแววตาของเขาเอาเสียเลย จึงทำตัวไม่ค่อยถูก
หล่อนกลืนข้าวไม่ลงจึงเลือกยื่นถ้วยข้าวต้มให้เขา ก่อนจะกินยาคุมฉุกเฉินที่ชายหนุ่มลงไปซื้อจากร้านขายยาแถวที่พักมาให้ เป็นครั้งแรกที่กินก็รู้สึกแปลกเหมือนกัน
เหลือบตามองร่างสูงแล้วก็ทำตัวไม่ถูก เมื่อคืนหล่อนเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย แต่พอฤทธิ์แอลกอฮอล์เริ่มหมดก็กลับกลายเป็นสาวน้อยไร้เดียงสาทันที
ค่อยขยับกายเพื่อลุกยืนอย่างเชื่องช้า ปฏิเสธความช่วยเหลือจากเขาแล้วยืนตัวตรง ดึงชายเสื้อให้ปิดขามากที่สุด ถึงจะเห็นร่องรอยที่เขาฝากเอาไว้ ตรงโคนขาด้านในก็ตาม...
ใครจะคิดว่าปภพจะทำรอยสีกุหลาบเอาไว้ล่ะ เขากินเธอตั้งแต่ปลายเท้าจรดปลายนิ้วเลยด้วยซ้ำ จุมพิตจนร่างบางเปล่งเสียงครวญครางแทบทุกครั้งที่ริมฝีปากหนาแตะลงบนร่างกาย
ชักจะร้ายกาจเกินไปแล้ว
“เรื่อง เรื่องเมื่อคืน..ถือว่าจบแล้วห้ามเอามาพูดอีก เจอหน้ากันก็ทำเหมือนไม่มีเรื่องนั้นเกิดขึ้น” เพื่อความชัดเจนจึงต้องบอกเขา หรือย้ำกับตนเองหล่อนก็ไม่ทราบเช่นกัน
ปภพเหมือนจะไม่ได้คิดหรือรู้สึกอะไรสักนิด เป็นเธอเองที่กังวลตลอดเวลาจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง
“ได้” สองสายตาสบกันก่อนเธอจะผินหน้าหนี รีบมองหาชุดของตนเองที่ถูกวางเอาไว้บนโซฟา ใบหน้าหวานซับสีเลือดแดงระเรื่อ รีบเดินไปหยิบชุดแล้วเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำทันที ไม่มีเวลามาอารัมภบทแล้ว
นารากานต์ไม่รู้ว่าตนเองไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงขอมีเซ็กส์กับเขาอย่างหน้าไม่อาย ความอยากลองของตนที่ถูกกดลึกในใจ พอผสมน้ำเมาและบรรยากาศอกหัก พรั่งพรูความรู้สึกออกมาจนหมดถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
อยากตีอกชกหัวตัวเอง น่าจะเอาคนไกลตัวกว่านี้หน่อย...ใครบอกให้เขาอยู่ในเหตุการณ์พอดีล่ะ
“งั้นฉันกลับห้องดีกว่า” แต่งตัวออกมาเรียบร้อยก็รีบคว้าโทรศัพท์แล้วเร่งเท้าออกจากห้องของปภพ ไม่รอให้ชายหนุ่มได้พูดอะไรสักคำ เธอต้องการเวลาส่วนตัวเพื่อตั้งสติ เรื่องเมื่อคืนเกิดขึ้นเพราะขาดสติมากไปหน่อย
ไม่ทันได้เช็คว่ารอบข้างมีคนอื่นอยู่หรือเปล่า ก็รีบออกมาทันทีเพื่อเดินไปห้องตัวเองที่อยู่สุดทางเดิน รีบเปิดเข้าห้องอย่างรวดเร็วก่อนจะปิดประตูลงกลอน โดยไม่ทันสังเกตว่ามีสายตาสองคู่มองเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง
“นั่นยัยหนึ่งหรือเปล่า..ทำไมออกมาจากห้องของคุณภพได้” สาวร่างบางที่เพิ่งไปเดินเล่นถ่ายรูปริมหาดกับเพื่อนเอ่ยทักเสียงเบา เมื่อคืนพวกเธอไปงานแต่งของรุ่นน้องที่รู้จักกัน วันนี้จึงถือโอกาสอยู่เที่ยวไม่ได้กลับบ้าน
ผู้หญิงที่วิ่งออกจากห้องของคุณปภพตั้งแต่เช้า เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี เพราะเคยเรียนโรงเรียนเดียวกันมาก่อน ถึงจะไม่ค่อยสนิทก็ตาม
“เธอรู้ได้ไงว่าห้องคุณภพ” อีกคนหันมาถามอย่างสงสัย ระหว่างนั้นก็กดบันทึกคลิปที่ถ่ายเอาไว้
“ก็ฉันอยู่ตรงข้ามห้องเขาไง เอ๊ะ เธอถ่ายคลิปไว้ด้วยเหรอ” ตอนเปิดประตูออกมาแล้วเจอปภพเธอดีใจมาก คิดว่าถ้ามีโอกาสอยากไปเคาะประตูห้องชายหนุ่มเพื่อทำความรู้จักสักหน่อย
ช่วงนี้เขากำลังฮอตยิ่งกว่าดาราเสียอีก หญิงสาวต่อคิวทำความรู้จักยาวเป็นหางว่าว ไม่นึกว่านารากานต์ก็เป็นหนึ่งในนั้น แถมยังทอดกายให้ฝ่ายชายเชยชมด้วย...
เรื่องแบบนี้รู้กันสองคนก็เงียบเหงาแย่สิ...ต้องโพนทะนาให้รู้กันโดยทั่ว
“อือ เผลออัดน่ะ...กะว่าจะถ่ายไปให้แฟนดู” ตอบตามความจริง แฟนหนุ่มของเธอไปต่างประเทศไม่ได้มาด้วย จึงบอกให้รายงานทุกอย่าง หล่อนถึงได้อัดคลิปตั้งแต่ขึ้นลิฟต์จนออกจากลิฟต์และกำลังจะเข้าห้องพัก
“ยิ้มแบบนี้มีแผนเหรอ” เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเพื่อนสนิทก็รู้ทัน
นารากานต์สาวสวยผู้สูงศักดิ์ ไม่เคยมีข่าวเสียหายหรือคบกับชายคนใด เป็นเหมือนบุคคลสูงส่งเกินเอื้อมจนน่าหมั่นไส้ ตอนอยู่โรงเรียนก็ทำตัวเด่นหนักหนาจนเธอเหม็นหน้า
คราวนี้แหละจะกระชากดาวให้มาเปื้อนโคลนกับข่าวนี้บ้าง
“เธอว่ามันไม่น่าสนุกหรือไงล่ะ” หยิบโทรศัพท์มาเปิดดูคลิปแล้วกดส่งเข้าเครื่องตัวเองทันที ข่าวนี้จะไม่ใช่แค่การเล่าปากต่อปาก แต่มีหลักฐานชั้นดีเป็นคลิปที่อีกฝ่ายคงไม่สามารถปฏิเสธได้
เชื่อว่านารากานต์จะต้องอับอายแน่ เพราะอย่างไรปภพก็คงไม่ได้จริงจังกับเธอจนถึงขั้นแต่งงานหรอก
วงสังคมคงมีข่าวสนุกให้พูดกันอีกนาน...