บทที่๕ (๑)

๕

ปล่อยให้หญิงสาวร้องไห้จนพอใจ ตนก็ทำเพียงปลอบปะโลมด้วยการลูบศีรษะมน ค่อยเก็บเครื่องดื่มให้ห่างมือหล่อนมากที่สุด ยามเมากลัวว่านารากานต์จะขาดสติมากกว่าเดิม แล้วคนรับผลกรรมจะเป็นใครถ้าไม่ใช่เขา

“ผู้ชายคนเดียวไม่คู่ควรกับน้ำตาของเธอหรอก” ถึงจะไม่ได้สนิทสนมแต่อย่างไรเธอก็เป็นผู้ร่วมทุนโครงการใหญ่ เจอหน้ากันหลายครั้ง อีกทั้งคุณภวิกาก็ให้ความเอ็นดูเขา เห็นหญิงสาวเข้มแข็งสู้กับทุกปัญหา เถียงตาใสในที่ประชุมมาตลอด

วันนี้กลับร้องไห้จนตัวโยนเขาจึงนึกสงสาร ไม่รู้ว่าคำปลอบปะโลมนั้นจะใช้ได้ผลหรือเปล่า แต่เขาไม่อยากให้เธอจมอยู่กับอดีตที่ไม่มีวันเรียกกลับมาได้

“ฉัน..ฉันรักเขามากเลยนะ ฉันเชื่อมาตลอดว่าลืมเขาได้แล้ว แต่ทำไมพอมาเจอหน้ามันถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ฮึก” คว้าแก้วที่อยู่ใกล้มือกำลังจะดื่ม แต่พอเห็นว่ามันเป็นแก้วเปล่าก็กวาดสายตาเพื่อหาบรั่นดี พบว่ามันอยู่ในมือของปภพ

ถึงหล่อนจะร้องไห้แต่ก็ยังยืดตัวหวังจะคว้าขวดบรั่นดี ซึ่งเขาก็เอาหนีเสียก่อน จึงเบนสายตามายังขวดเหล้าที่เหลือในถุง ตัดสินใจเปิดขวดใหม่เสียเลยเพื่อตัดปัญหา

ร้องไห้น้ำตาท่วมใบหน้าแต่ก็ยังไม่วายจะใช้เหล้าบรรเทาความเจ็บปวด หญิงสาวระบายให้เขาฟังอย่างไรปภพก็คงไม่เอาไปบอกคนอื่น

“รักมากมันก็ลืมยากแบบนี้แหละ ฉันยังใช้เวลาหลายเดือน จนฉันค้นพบว่าบางทีเราไม่เห็นต้องลืมคนที่เรารักเลย เก็บเขาเอาไว้เป็นความทรงจำก็พอ” ทั้งภรรยาเก่าที่เสียไป และวรรณวรินต่างก็เป็นรักที่ต้องจากลาทั้งนั้น

ถึงจะเสียใจแต่เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไป ชายหนุ่มจึงเลือกจะเก็บเอาเรื่องราวเหล่านั้นเป็นความทรงจำที่แสนมีค่า มากกว่าตัดพ้อถึงโชคชะตา

“ความทรงจำที่แสนเลวร้ายน่ะสิ คุณรู้ไหมว่าฉันอยากบอกคนอื่นแค่ไหน ฮือ ว่าเคยมีแฟน แต่ทำไม่ได้เลย” ยังคงสะอื้นไม่หยุด หล่อนผละจากแอลกอฮอล์แล้วขึ้นมานั่งบนโซฟา หันหน้าเข้าหาปภพที่นั่งนิ่งฟังอย่างเดียว

เหมือนตอนนี้หล่อนต้องการระบายความเจ็บปวดที่เก็บเอาไว้คนเดียวมานาน พอเห็นว่าสามารถพูดกับใครสักคนได้ จึงไม่พลาดโอกาสนี้

“ทุกคนคิดว่าฉันโสดมาตลอด ใช่ ฉันโสด ฉันซิง แล้วมันยังไง” ประโยคต่อมาเล่นเอาร่างหนาถึงกับกุมขมับ รู้ว่าเธอเป็นคนตรงแต่ก็ไม่คิดว่าจะบอกหมดทุกเรื่องจนต้องปรามเอาไว้

“เธอไม่ต้องบอกฉันทุกเรื่องก็ได้”

“ฉันซิงนะ ฉันเคยคิดจะให้เขาเป็นคนแรก ฉันเตรียมพร้อมทุกอย่าง..แต่เขา เขาบอกเลิกฉัน” แต่กลายเป็นว่านารากานต์ยิ่งพูดมากกว่าเดิม พร้อมกับนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นขึ้นมาจนร้องไห้อีกครั้ง น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลเปื้อนแก้ม อดสูในโชคชะตาที่เล่นตลก

ห้องของอาชวินที่หล่อนโรยกลีบกุหลาบตามทางเดิน สวมชุดคลุมอาบน้ำเอาไว้โดยข้างในมีแค่บิกีนี่น้อยชิ้นปกปิดร่างกาย หวังสร้างความประทับใจและเซ็กส์แสนหวานครั้งแรก เตรียมตัวมาดีทุกอย่าง ฉีดน้ำหอมทำความสะอาดร่างกาย

แต่สุดท้ายคนรักกลับบอกเลิก...เป็นความทรงจำที่แสนรันทดของเธอ และจะไม่ยอมบอกใครทั้งนั้น

ยกเว้นปภพที่รู้เรื่องแล้ว

“แม้แต่เซ็กส์ครั้งแรกฉันยังไม่มีเลย” บอกเสียงสะอื้นแล้วเช็ดน้ำตาออก เธอขยับเข้าไปใกล้เขาคว้าชายเสื้อของชายหนุ่มมาเช็ดน้ำตาตนเอง เมื่อเห็นว่าการใช้เพียงแค่มืออย่างเดียวไม่ได้ผล เล่นเอาร่างหนาต้องถอนหายใจอย่างระอา

“มันใช่เรื่องต้องมาคุยกันไหม” ไม่คิดว่าเรื่องจะเลยเถิดมาขนาดนี้ คนเข้มแข็งกลับกลายเป็นสาวผู้อ่อนแอในชั่วพริบตา เดาได้ไม่ยากว่าแฟนเก่าของเธอจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอาชวิน

ไม่แปลกใจสัดนิดที่เธอยังรักฝังใจ ผู้ชายหล่อเหลาทั้งยังมีเสน่ห์หาตัวจับยาก คงเป็นแผลใจของนารากานต์พอสมควรจนไม่กล้าเริ่มต้นใหม่

“คุณรังเกียจฉันเหรอที่ฉันยังซิง” กลายเป็นคนเมาหาเรื่องเจ้าของห้องไปเสียได้ หล่อนจ้องเขาตาเขียวเหมือนต้องการหาเรื่อง เล่นเอาปภพหมดคำจะพูดกับท่าทีเปลี่ยนแบบฉับพลัน

“ไม่ใช่ โอ๊ย ฉันจะบ้า...เธอเมาแล้วทำไมพูดทุกอย่างที่คิดแบบนี้” ถึงกับทึ้งหัวตัวเอง เจอนารากานต์แบบปกติว่ารับมือยากแล้ว ตอนเมารับมือยากกว่าเป็นร้อยเท่า หล่อนอยากพูดอะไรก็พูดไม่สนใจว่าเหมาะสมหรือเปล่า

จนเขาเริ่มคิดแล้วว่าจะพาหล่อนกลับห้องพักอย่างไร ขืนปล่อยไว้ห้องตัวเองคงเกิดเรื่องแปลกขึ้นแน่

“ใช่ คุณอยากเอาฉันไหม” เพียงแค่คิดในหัวแต่หล่อนกลับสร้างเรื่องในวินาทีต่อมา หญิงสาวขยับเข้ามาใกล้แทบจะนั่งเกยตักชายหนุ่มอยู่แล้ว ยื่นใบหน้าเข้าหาห่างกันไม่ถึงคืบพร้อมถามด้วยแววตาใสซื่อราวสาววัยรุ่น

ดวงตาคมเบิกกว้างเล็กน้อย แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองกับสิ่งที่เธอพูดเหมือนเป็นเรื่องทั่วไป ราวถามสภาพอากาศหรือชวนนั่งเล่นหมากล้อม

แต่นี่มันไม่ใช่!

“หา!! เธอจะบ้าเหรอ!” ขยับออกห่างอย่างรวดเร็ว แต่หล่อนก็ยังขยับมาใกล้แล้วจับแขนหนาเอาไว้แน่น ดวงตากลมฉายแววจริงจังไม่ล้อเล่น

เธออายุสามสิบสี่แต่ยังไม่เคยมีครั้งแรกเลย เคยคิดว่าจะเก็บไว้ให้สามีในอนาคต พออายุมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ หล่อนอยากลองสัมผัสประสบการณ์นี้ดูสักครั้ง อยากทำกับคนรักแต่ก็ต้องผิดหวัง

ฉะนั้นเลือกคนที่ไว้ใจได้และไม่คิดจะสานความสัมพันธ์ต่อจากนี้ก็ไม่เห็นใครอื่นนอกจากปภพ ทำให้ชายหนุ่มเป็นความหวังเดียวของเธอในตอนนี้

หญิงสาวไม่ได้หวงความสาวมากนัก แต่การซื้อกินก็ไม่มั่นใจว่าปลอดภัยหรือเปล่า อย่างน้อยเลือกเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโรค ข่าวที่ทราบมาเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ควงหญิงไม่เลือกหน้า เวลาส่วนมากทุ่มให้งานมากกว่าลูกเสียอีก

ตอนนี้ร่างสูงจึงเป็นความหวังเดียวที่จะทำให้หล่อนหลุดพ้นจากการเป็นสาวเวอร์จิ้น!

“ฉันซิง ฉันไม่มีโรค ฉันไม่ทวงหาความรับผิดชอบด้วย ฉันแค่ไม่อยากซิง ฉันอยากลองมีเซ็กส์ดูสักครั้ง เราเอากันไหม” บอกทุกอย่างดั่งที่คิด เหมือนเธอกำลังชวนเขาให้มีวันไนท์แสตนด์ร่วมกัน จนปภพต้องคว้าไหล่เล็กสองข้างเอาไว้แล้วเขย่าเพียงเบาๆ

“เธอ เธอบ้าไปแล้วหรือไงหนึ่ง ตั้งสติก่อน” ไม่รู้จะบอกคนเมาอย่างไร ถึงเธอจะทำตัวเหมือนตนเองไม่เมาแต่แอลกอฮอล์ในร่างกายก็เยอะเกินปริมาณที่ควรดื่มต่อวัน ฉะนั้นเขาจะคล้อยตามหญิงสาวไม่ได้เด็ดขาด

แม้อีกใจจะอยากลองแค่ไหนก็ตาม...

ปภพไม่มีเซ็กส์มาหลายปีแล้ว มุ่งทำงานอย่างเดียวเพื่อเลี้ยงลูกชายให้กินดีอยู่ดี ขยายอาณาจักรให้ยิ่งใหญ่ กลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เพียงแค่ได้ยินชื่อทุกคนต่างก็รู้จักกันหมด

พอมาเจอคำขอของนารากานต์เขาก็เขวเหมือนกัน แต่ยังพยายามเตือนตนเองถึงความอันตราย ไม่มั่นใจว่าหญิงสาวจะใช้ข้ออ้างนี้จับตนหรือเปล่า

“ฉันทำออรัลให้ได้นะ ฉันอ่านมา..ไหนขอลองหน่อยสิ” แกะมือเขาออกแล้วคว้าเข้าที่เป้ากางเกงของชายหนุ่ม จับแน่นจนดวงตาคมเบิกกว้างกว่าเดิม รีบปัดมือเธอออกทันที ปภพร้อนวูบที่ใบหน้ายามของสงวนถูกจับต้อง

พลันหายใจแรงกว่าเดิมแทบไม่กล้าจ้องใบหน้าหวาน ที่ยังคงมองมาด้วยประกายใสแจ๋วเหมือนเด็กเจอของเล่น

“เฮ้ยๆๆ หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นารากานต์!” ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรกับหญิงตรงหน้าดี เธอกล้าทำในเรื่องที่เขาคิดไม่ถึง เล่นเอาต้องระวังทุกขณะ

“มันดูใหญ่เหมือนกันนะ ขนาดแค่จับข้างนอก” ตื่นเต้นเหมือนเป็นเรื่องที่เพิ่งรู้ หญิงสาวไม่เคยได้จับหรือเห็นกับตาตนเองสักครั้งว่ามันเป็นอย่างไร

ยอมรับว่าอายุขนาดนี้เคยคิดเรื่องเซ็กส์และเคยช่วยตัวเองหลายครั้ง แต่มันก็ไม่เหมือนยามได้สัมผัสจริง ถึงจะเป็นเพียงแค่ภายนอกแต่ก็รู้สึกถึงความนุ่มนิ่ม จนอยากลองจับอีกครั้ง

“เธอบ้าไปแล้วหรือไง หนึ่ง หนึ่ง!” หายใจแทบไม่ทัน แล้วตะโกนด้วยความตกใจพลางต่อว่าหญิงสาวเพื่อกลบเกลื่อนอารมณ์ของตนเอง

รู้ดีว่านอกจากความโมโห กลับมีอีกอารมณ์ที่ซ่อนเอาไว้...ความปรารถนา

“ฉันมีสตินะ ฉันอยากลองมีเซ็กส์สักครั้งจริงๆ แค่ครั้งเดียว...ฉันอายุ 34 แต่ยังซิง! ความจริงฉันก็เคยคิดอยากซื้อกินแต่ก็ไม่กล้า...คุณช่วยฉันไม่ได้เหรอ ฉันไม่อยากซิงแล้ว” ไม่คิดว่าหล่อนจะพูดให้ฟังทุกอย่าง เหล้าเข้าปากอะไรก็พูดออกมาหมด...

หญิงสาวระบายความรู้สึกให้เขาฟังอย่างไม่อายสักนิด หรือเพราะมีแอลกอฮอล์เป็นตัวช่วยก็ไม่อาจทราบ นารากานต์ไม่ใช่คนที่หวงความสาวแต่คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์จากธุรกิจครอบครัวเธอทั้งนั้น

จึงไม่คิดอยากมีความสัมพันธ์ทางร่างกายให้ยุ่งยาก...เธอเองก็ไม่ได้โง่พอจะมองคนไม่ออกว่าต้องการอะไร

“ต้องการแบบนั้นจริงเหรอ เธอจะไม่ด่าฉันตอนตื่นแน่นะ” พอฟังอย่างนั้นเขาก็โอนอ่อนลง จับมือเล็กที่พยายามจะคว้าแก่นกายชายเอาไว้ ไม่ยอมให้หล่อนได้จับโดยง่าย

“อือ ฉันจะถ่ายคลิปไว้ด้วยเลย โทรศัพท์ฉันอยู่ไหน อยู่นี่...” เขายอมปล่อยมือเธอ แล้วหญิงสาวก็จับไปทั่วร่างกายตัวเอง ก่อนจะเจอโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าด้านหลัง หญิงออกมาทันทีพร้อมกดถ่ายวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน

เพื่อให้เขาเชื่อใจหล่อน และสร้างสัญญาเพื่อเอื้อต่อประโยชน์ทั้งสองฝ่าย...

“ข้าพเจ้านางสาวนารากานต์...ฮึก นางสาว ฉันยังใช้นางสาวอยู่เลยคุณ” แค่พูดชื่อหญิงสาวก็เหมือนจะร้องไห้ เล่นเอาเขาต้องบอกเธอเสียงเนือย

“พูดต่อเถอะ”

“ข้าพเจ้านางสาวนารากานต์ ฤกษ์เดชา ตอนที่ข้าพเจ้าได้อัดคลิปมีสติดีถ้วน อึก สมบูรณ์ทุกประการ และข้าพเจ้ายินยอมมอบพรหมจรรย์ให้แก่นายปภพ โดยจะไม่เรียกร้องถึงความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าข้าพเจ้าผิดคำสัญญาขอให้ข้าพเจ้าขึ้นคานตลอดชีวิต..แต่ซื้อกินได้นะ” ท้ายประโยคยังแอบติดตลก จนเขาต้องส่ายศีรษะระอา

หญิงสาวจัดการบันทึกคลิปนั้นเอาไว้ เริ่มตื่นเต้นกับความจริงที่ใกล้เข้ามาเสียแล้ว ถึงจะเอ่ยปากเองแต่หล่อนก็หวั่นใจอย่างไรไม่รู้

ครั้งแรกของตนเองนี่นา...

“ฉันอัดแล้ว เอากันเถอะ” วางโทรศัพท์แล้วจ้องใบหน้าคม สูดลมหายใจเข้าปอดแล้วแกะยางที่มัดผมเอาไว้ เปียที่เคยสวยงามถูกสางออกจนผมสวยตรงดิ่ง มีรอยหยักจากการถูกมัดไว้แน่น เท่านั้นยังไม่พอเธอเลือกจะถอดชุดออกทางศีรษะ เผยให้เห็นหุ่นสะโอดสะองค์จนเขามองตาค้าง

ร่างกายของหญิงสาวมีเพียงแผ่นปิดจุกและจีสตริง ความงดงามที่ไม่เคยเผยให้ชายใดเห็นมีเพียงปภพที่ได้ยลโฉมเป็นคนแรก

“เธอขอซึ่งหน้าเลยเหรอ ไม่คิดอายบ้างหรือไง” ลอบกลืนน้ำลายลงคอขณะที่ดวงตามองดอกบัวคู่งาม พยายามละสายตามาจ้องหล่อนเพื่อปกปิดความต้องการในแววตาคม

“ฉันไม่อยากซิงแล้ว ฉันอยากเรียนรู้การมีเซ็กส์ ถือว่าสอนฉันหน่อยนะ” ขยับเข้าไปใกล้แล้วนั่งเกยบนตักหนา ครั้งแรกที่แนบชิดกับผู้ชาย...ตื่นเต้นดีเหมือนกัน โดยเฉพาะยามเนื้อสัมผัสเสื้อของอีกฝ่าย อยากรู้ว่าถ้าเป็นเนื้อแนบเนื้อจะรู้สึกเช่นไร

“งั้นฉันจะถือว่าตัวเองเป็นอาจารย์เธอแล้วกัน” มือสากเลื่อนไปโอบแผ่นหลังเล็ก เป็นการตอบรับอย่างสมบูรณ์ว่าเขายินยอมจะมีค่ำคืนแสนหวานกับเธอ

ประคองใบหน้าหวานแล้วค่อยจุมพิตอย่างเชื่องช้า เพื่อดูปฏิกิริยาของหล่อนว่าจะเป็นเช่นไร คนไม่เคยค่อนข้างเงอะงะนิดหน่อย แต่ก็ตอบรับโดยดีไม่ขัดขืน

ระหว่างนั้นเขาก็ถอดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของตัวเองออก แล้วเน้นจูบริมฝีปากบางให้แนบชิดมากกว่าเดิม ขยับปากแผ่วเบาแล้วดุนดันลิ้นเข้าไปหยอกล้อหล่อน ผลเป็นอย่างที่คิดคือนารากานต์ทำตัวไม่ถูก แต่ก็พยายามจะสู้กลับ

เขาหัวเราะในลำคออย่างเอ็นดูคนไม่เคยแต่ก็กล้าจะลอง สนุกอยู่สักพักแล้วค่อยผละออกเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มหมดอากาศหายใจ พอปล่อยเธอเป็นอิสระก็ได้โอกาสรีบสูดอากาศเข้าปอดทันที

ปภพใช้จังหวะนั้นถอดเสื้อกล้ามพร้อมกับดันตัวหล่อนให้เอนนอนบนโซฟา แล้วตนค่อยลุกยืนเพื่อถอดกางเกงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับชั้นในที่หลุดจากร่างกายไปด้วย โดยมีดวงตากลมมองอย่างไม่กระพริบ

“จับ ขอจับหน่อยได้ไหม” พอเขานอนทาบทับก็ไม่รอช้าจะเอ่ยอย่างตื่นเต้น ชายหนุ่มใช้มือแกะแผ่นปิดจุกออก แล้ววางไว้บนโต๊ะกลาง ค่อยซุกหน้าลงไปซบก็พบว่ามันเหนียวเล็กน้อย อาจเพราะมีกาวเพื่อเป็นตัวช่วยให้ยึดแน่น...