ตอนที่4 มาให้จัดการถึงที่
ตอนที่4 มาให้จัดการถึงที่
สนามบิน
“อยู่โน่นก็ดูแลตัวเองดีๆ นะโย ทำงานก็ระวังด้วย” ดีไซน์เอ่ยบอกแฟนหนุ่มอยู่หน้าอาคารผู้โดยสารขาออกในประเทศ
“โอเค ไม่ต้องห่วงโยจะดูแลตัวเองอย่างดี จะเอาหน้าหล่อๆ กลับมาหาไซน์แน่นอนโอเคไหม” ฝ่ามือหนาจับศีรษะแฟนสาวเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ทุกคนเดินผ่านไปผ่านมาต่างหันมองและอมยิ้ม
“โยต้องเข้าไปแล้วนะเดี๋ยวเข้าเกจไม่ทันต้องไปโหลดกระเป๋าอีก”
“โอเค บ๋าย บาย ค่ะ”
“บ๋าย บาย ครับ”
เมื่อส่งแฟนหนุ่มเสร็จแล้วหญิงสาวในชุดกระโปรงยีนเสื้อยืดสีขาวสวมรองเท้าผ้าใบสีเดียวกันเดินกลับออกมาเพื่อขึ้นรถที่ซีไนซ์จอดรออยู่ แต่ระหว่างนั้นมัวแต่ก้มหน้ากดพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์ไม่ทันมองทางก็ชนเข้ากับชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมเข้มฉบับลูกครึ่ง สวมแว่นตากันแดด มองแค่ครู่เดียวก็รับรู้ได้ทันทีว่าหล่อเข้มเพอร์เฟคมาก
“I am sorry/ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ/ It's okay.” ทั้งสองต่างขอโทษกันและกันคนละภาษา จังหวะที่สายตาคมเข้มภายใต้แว่นตากันแดดสีดำจ้องมองใบหน้าเรียวเล็กที่เขาหลงใหลมาหลายปีเสียงเรียกขัดจังหวะที่ดังขึ้น
“ไซน์”
“ยัยไซน์ทางนี้” หญิงสาวหันไปตามเสียงเรียก ดีไซน์หันกลับมาแล้วก้มหัวให้ชายหนุ่มอีกครั้งและเดินจากไป
“หึ มาส่งแฟนสินะ” เสียงเรียบบ่นพึมพำกับตัวเอง สายตาคมมองหาบุคคลที่เขาอยากเจอตั้งแต่ช่องตรวจสัมภาระแต่ก็ไม่เจอ เท้ายาวเดินไปยังเกจตามบอร์ดดิ้งพาสซึ่งอยู่ไกลพอสมควร ระหว่างทางก็กวาดสายตามองหาแต่ก็ยังไม่เจอ
“หึ เป็นแกจริงๆ สินะ ฉันให้โอกาสแกหลายครั้งแล้วนะแต่แกก็ยังหักหลังไซน์ครั้งแล้วครั้งเล่าครั้งนี้อย่าหวังว่าฉันจะปล่อยแกทำร้ายไซน์อีก” เสียงเรียบบอกออกไป ดวงตาสีน้ำตาลเข้มภายใต้แว่นกันแดดแบรนด์ดังกำลังจ้องมองชายหนุ่มที่กำลังคุยโทรศัพท์กับปลายสายอย่างมีความสุข และถ้าให้เขาเดาคนในสายคงไม่ใช่แฟนสาวคนที่พึ่งมาส่งแน่นอน
“ประกาศจากสายการบิน XX เที่ยวบินที่ AB4217 ที่จะเดินทางไปท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตขอให้ท่านผู้โดยสารขึ้นเครื่องที่ประตูทางออกหมายเลข 58” เสียงเจ้าหน้าที่ของสายการบินประกาศเรียก ลุคค์เตรียมขึ้นเครื่องเพราะเป็นผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสซึ่งอยู่โซนหนึ่งจะได้สิทธิ์ขึ้นเครื่องก่อน
“เชิญผู้โดยสารโซนหนึ่งขึ้นเครื่องก่อนเลยนะคะ ผู้โดยสารโซนสองและโซนสามโปรดรอสักครู่นะคะ” เมื่อได้ยินเสียงเรียกลุคค์จึงเดินไปขึ้นเครื่อง และเขาตั้งใจเดินผ่านโยธาที่ยังคุยโทรศัพท์คาอยู่
“เจอกันที่ภูเก็ตนะ” เสียงเรียบนิ่งเอ่ยบอกขณะเดินผ่านไป โยธาที่คุยโทรศัพท์อยู่ถึงกับชะงักและมองตามแผ่นหลังกว้างเดินหายเข้าเกจไป จากนั้นก็วางสายเตรียมตัวขึ้นเครื่องเหมือนกัน
บนเครื่อง
“พี่ลุคค์รู้จักผู้ชายคนนั้นเหรอครับ” โชเอ่ยถามขึ้นสีหน้าสงสัยเพราะตั้งแต่ที่นั่งรอที่เกจจะสังเกตว่าลุคค์นั้นมองชายหนุ่มคนนั้นตลอดเวลา
“พนักงานของอัครเดชา กรุ๊ป”
“อ้อครับ เข้าใจแล้วครับ”
“ผู้ชายคนนั้นเป็นวิศวกรควบคุมโปรเจกต์รีสอร์ตของฉัน นายจะต้องทำงานร่วมกับเขา คนนี้อีโก้ค่อนข้างสูงแต่ฝีมือก็ถือว่าโอเค” ลุคค์บอกรายละเอียดเกี่ยวกับโยธาให้โชทราบ เพราะต่อไปโชจะเป็นคนอยู่ดูแลไซซ์งานที่นี่แทนลุคค์จนกว่ารีสอร์ตจะสร้างแล้วเสร็จซึ่งใช้เวลานานหลายเดือน
ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงภูเก็ตโดยมีคนขับรถของที่บ้านเป็นคนมารับชายหนุ่มที่สนามบิน ส่วนคนของอัครเดชา กรุ๊ป จะมีรถตู้ของบริษัทมารับ
เมื่อเดินทางมาถึงลุคค์ก็ข้ามไปยังเกาะที่เป็นไซซ์ก่อสร้างด้วยเรือสปีดโบ๊ทโดยลุคค์เป็นคนขับและมีโชนั่งไปด้วยแค่สองคนเท่านั้น
หน้างานถูกปรับพื้นที่เรียบร้อยตามแบบแปลนที่ออกแบบไว้ ชั้นดินบริเวณรอบๆ ทั้งหมดถูกเจาะสำรวจเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนหน้าแล้ว ตอนนี้รอแค่วิศวกรโครงการสั่งให้ไซซ์งานเริ่มตอกเสาเข็ม คาดว่าพรุ่งนี้ทุกอย่างจะเริ่มลงมือเพราะตามกำหนดการณ์ทีมงานทั้งหมดจะข้ามมาที่เกาะนี้ครบทุกคนภายในวันนี้
“คุณลุคค์สวัสดีครับ บ้านทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วครับเชิญคุณลุคค์ไปพักได้เลยครับ” นทีที่ทำหน้าที่ดูแลควบคุมไซซ์งานทั้งหมดที่นี่วิ่งหน้าตั้งมาที่ท่าเรือเมื่อเห็นว่าเรือของคาล์ล บรีชโฮสเทลมาเทียบท่า
“ขอบคุณครับ ทุกอย่างโอเคใช่ไหมครับ”
“ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ รอแค่ทีมวิศวกรมาถึงก็สามารถเริ่มเดินเครื่องได้เลยครับ”
“โอเค ฝากด้วยนะครับ”
บังกะโลหลังเล็กขนาดสองห้องนอนแต่มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันที่ตั้งอยู่ติดกับทะเลไม่ไกลจากไซซ์ก่อสร้างมากนัก หน้าต่างทุกบานถูกเปิดออกรับลมทะเล ผ้าม่านสีขาวพัดปลิวตามทิศทางลม บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบมีเพียงเสียงคลื่นกระทบโขดหินริมฝั่งที่ได้ยิน
“นายพักห้องทางซ้ายแล้วกัน อาหารและของสดน่าจะอยู่ตู้เย็นตรงครัวด้านหลังถ้าอยากหาอะไรกิน ส่วนอาหารเที่ยงและเย็นจะมีคนนำมาส่งที่นี่ถ้าเกิดอยากกินอะไรก็สั่งแม่ครัวหรือสั่งนทีจัดการให้ นทีจะเป็นคนดูแลทุกเรื่องที่นี่” ลุคค์บอกรายละเอียดทั้งหมดให้โชทราบ การใช้ชีวิตอยู่บนเกาะก็ไม่ได้ลำบากอะไร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและอาหารกระป๋องที่โชเตรียมมาคงไม่มีโอกาสได้ลิ้มลองเพราะส่วนตัวโชเองก็ไม่ชอบกินอาหารพวกนั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ตอนบ่าย 4 โมงเย็น
“ทำไมห้องนอนผมถึงไม่มีแอร์ ผมแจ้งทางบริษัทไปแล้วนี่ว่าผมนอนที่ร้อนไม่ได้” เสียงโวยวายดังไปรบกวนชายหนุ่มที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านจึงต้องละจากงานตรงหน้าและลุกเดินไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ลืมที่จะหยิบแมส หมวก และแว่นกันแดดสวมไปด้วย
“เกิดอะไรขึ้น” เสียงเรียบเอ่ยถามขึ้น ทันทีที่เห็นหน้าลุคค์เสียงฮือฮาทั้งหมดก่อนหน้าเงียบลงทันที มีเพียงโยธาคนเดียวที่ยังแสดงอาการไม่พอใจ
“วิศวกรจากอัครเดชา กรุ๊ป บอกว่าต้องการติดแอร์ที่ห้องนอนครับ แต่ผมแจ้งเขาแล้วว่าไฟฟ้าเรามีจำกัดไม่สามารถใช้เครื่องปรับอากาศได้ ไฟฟ้าที่นี่จะใช้เฉพาะสิ่งที่จำเป็นเท่านั้นครับ” นทีรีบรายงานลุคค์อย่างละเอียดทันที
“ที่นี่เป็นไซซ์งานบนเกาะ คุณเองเป็นวิศวกรก็น่าจะรู้ดีว่าอยู่ที่ไซซ์งานไม่ได้มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบทุกอย่างตามที่คุณต้องการ ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ก็เชิญกลับไปได้เลย นทีให้คนเอาเรือกลับเข้าฝั่งไปส่งพนักงานของอัครเดชา กรุ๊ป แล้วให้เขาส่งวิศวกรคนใหม่มาแทนภายในพรุ่งนี้” เสียงเรียบบอกกับโยธาเสร็จก็หันไปบอกกับนที เมื่อได้ยินดังนั้นโยธาถึงกลับหน้าถอดสีเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรผมนอนได้ยังมีลมพัดอยู่บ้างไม่น่าจะร้อนเท่าไหร่ ผมไม่อยากให้งานล่าช้าผมมีความเป็นมืออาชีพพอ ขอตัวไปพักนะครับเดินทางมาเหนื่อยๆ”
“เฮ้อ!” ความวุ่นวายถูกจัดการให้จบลงภายในเวลาไม่กี่นาที เสียงถอนหายใจราวเสียงอุปาทานหมู่ดังขึ้นเมื่อชายหนุ่มเจ้าของเกาะเดินกลับออกมา
“ผมได้ยินเสียงโวยวายมาจากไซซ์งาน เด็กหนุ่มคนนั้นมาถึงแล้วเหรอครับ” โชเดินตัวเปียกขึ้นจากฝั่งหลังจากออกไปขับเจสกีดูรอบๆ เกาะเจอกับลุคค์ที่เดินกลับมาพอดีจึงเอ่ยถามขึ้น
“เออ มาถึงก็โวยวาย”
“โดนพี่จัดการไปเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ”
“เออ”
“ปิดหน้าปิดตาขนาดนี้ กลัวเขารู้เหรอครับว่าพี่คือหนึ่งในหุ้นส่วนบริษัทที่เขาทำงานอยู่” โชเอ่ยแซวก่อนเดินเข้าบ้านเพื่อไปอาบน้ำล้างตัว
“เปล่า ฉันมีเหตุผลที่น่าสนุกและตื่นเต้นมากกว่านั้น”