2 ใจตรงกัน
“วันนี้ไม่มีผู้ช่วยเหรอจ๊ะปอ” กัลยาเจ้าของโอบรักโฮมสเตย์เอ่ยถามกัลยณัฏฐ์ลูกสาวคนเดียวที่กำลังปูผ้าปูที่นอนอยู่ในห้องพักที่แขกพึ่งจะเช็คเอาท์ไปเมื่อตอนสายๆ
“ถ้าแม่หมายถึงหนูดีก็มาแล้วค่ะ ปอให้ช่วยน้าณีเอาผ้าไปส่งที่ร้านค่ะ” คนตอบเอามือตบหมอนใบสุดท้ายก่อนวางไว้บนเตียงที่ปูผ้าไว้อย่างเรียบตึง ปกติแล้วโฮมสเตย์จะไม่ซักชุดเครื่องนอนเองเพราะการซักผ้าผืนใหญ่ขนาดนี้ต้องใช้เครื่องซักผ้าแบบที่โรงแรมใหญ่ๆ ใช้กัน และด้วยข้อจำกัดของพื้นที่กัลยาจึงเลือกที่จะส่งผ้าไปซักยังร้านรับซักรีดถือเป็นการช่วยส่งเสริมอาชีพให้คนในชุมชนมีรายได้ร่วมกันอีกด้วย
“แล้วเหลืออีกกี่ห้องล่ะลูก ให้แม่ช่วยไหม”
“เหลืออีกห้องเดียวค่ะแม่” กัลยณัฏฐ์หันมาตอบผู้เป็นมารดา
“เหนื่อยไหมลูก” กัลยาถามเพราะตอนนี้ใบหน้าของลูกสาวชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“ไม่เหนื่อยเลยค่ะแม่ แล้วนี่แม่ทำขนมเสร็จแล้วเหรอคะ”
“เรียบร้อยจ้ะลูก” กัลยามักจะทำขนมไว้ให้แขกที่มาพักทานกับกาแฟในตอนเช้า ส่วนปองพลสามีนั้นก็เป็นคนคอยดูแลเรื่องทั่วไปที่เกี่ยวงานช่าง เพราะเขามีสวนผลไม้ที่ต้องดูแลอยู่ด้วยที่นี่มีลูกจ้างเป็นหญิงชื่อปราณีวัย 35 ปีเป็นคนคอยดูแลทำความสะอาดห้องพักแต่ถ้าเป็นช่วงวันหยุดก็ได้กัลยณัฏฐ์ที่ว่างจากการสอนหนังสือมาช่วยทำความสะอาดห้องและบางครั้งก็มีพิจิกามาช่วยด้วยอีกคน
เดิมทีกัลยานั้นเป็นครูแต่ก็เลือกที่จะเกษียณอายุก่อนกำหนดเพราะอยากพักและพอดีกับโฮมสเตย์เริ่มมีลูกค้ามากขึ้นเธอมาจึงดูแลตรงนี้อย่างเต็มที่
โอบรักโฮมสเตย์ตั้งอยู่บริเวณริมคลองอัมพวา ด้านที่ติดคลองเปิดโล่งมีห้องโถงกว้าง เชื่อมต่อกับระเบียงที่วางโต๊ะญี่ปุ่น 5 ตัวพร้อมเบาะรองนั่งสำหรับให้แขกที่มาพักซื้ออาหารในตลาดมารับประทาน ผิดกับบ้านฝั่งตรงข้ามที่แต่มีพื้นคอนกรีตยื่นออกมาเหมือนเป็นถนนให้คนเดินผ่านได้ คนจึงนิยมมาพักที่นี่มากกว่าเพราะเวลากลางคืนจะนั่งทานอาหารชมวิว เวลามีเรือนักท่องเที่ยวที่ไปดูหิ่งห้อยผ่านมาก็โบกมือทักทายกันตามประสานักท่องเที่ยวด้วยกัน
บ้านนี้สร้างมาก่อนหลังอื่นจึงมีพื้นที่กว้างที่เป็นบริเวณบ้านจริงๆ ไม่มีคนเดินผ่านทำให้มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง เวลาแขกที่จะมาพักก็ต้องจอดรถไปตรงบริเวณลานจอดรถหน้าวัดแล้วเดินเข้ามาทางประตูผ่านห้องพักและส่วนต้อนรับก่อนที่จะทะลุมาถึงห้องโถง
เวลากลางคืนก็ปิดแค่ประตูทางเข้าส่วนห้องโถงนี้ก็เปิดไว้อย่างนั้นทั้งคืนไม่ต้องกลัวโจรขโมย เพราะไม่มีของมีค่าอะไร บางครั้งนักท่องเที่ยวก็ให้ทางโฮมสเตย์โทรศัพท์ไปนัดกับคนขับเรือชมหิ่งห้อยให้แวะมารับนักท่องเที่ยวที่นี่เลยเพราะเรือทุกลำต้องผ่านทางนี้อยู่แล้ว ถ้านัดไว้เรือก็จะรับคนมาไม่เยอะพอรวมกับแขกของที่นี่ก็เต็มเรือพอดี
การขึ้นลงเรือก็ค่อนข้างสะดวกความสูงของเรือจะพอดีกับระเบียงโฮมสเตย์ ในตอนเช้าๆ จะมีพระพายเรือบิณฑบาต กัลยาจะเตรียมอาหารแห้งไว้สำหรับแขกที่มาพัก หลังจากใส่บาตรเสร็จแขกที่มาพักก็จะซื้ออาหารที่มีเรือพายมาขายตอนเช้า มีทั้งผัดไทย ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ ให้เลือกทานกันได้ตามสะดวกก่อนที่จะอาบน้ำแล้วออกไปเดินตลาดอีกรอบก่อนกลับ หรับคนที่ไม่ชอบทานอาหารในมื้อเช้านั้นทางโฮมสเตย์ก็มีกาแฟ โอวัลตินและขนมต่างๆ เช่น คุกกี้ เค้กกล้วยหอม ขนมปังไส้กรอก ไส้หมูหยอง ขนมถ้วย ขนมชั้น ขนมตาล วุ้นแฟนซีสำหรับเด็กๆ หมุนเวียนกันไปซึ่งกัลยาทำเองบ้างซื้อจากชาวบ้านบ้างเตรียมไว้ให้ทานกันได้ตลอดเวลา
ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 11 ห้อง เป็นห้องพักแบบที่มีห้องปรับอากาศทั้งหมดซึ่งพึ่งจะเพิ่มเข้ามาไม่กี่ปีมานี้เพราะอากาศเริ่มจะร้อนมากขึ้นทุกปี 5 ห้องพักอยู่บริเวณชั้นล่าง ของบ้านเป็นห้องพักสำหรับหนุ่มสาวที่ชอบเดินทางแบบแบ็คแพ็ค ไม่มีห้องน้ำในตัวแต่ทางโฮมสเตย์จัดห้องอาบน้ำไว้ให้ 3 ห้อง ห้องสุขาอีก 3 ห้องซึ่งก็นับว่าเพียงพอนักท่องเที่ยว อีก 4 ห้องอยู่บริเวณชั้นสองของบ้านเป็นห้องพักที่มีห้องน้ำในตัวสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวซึ่งนักท่องเที่ยวชาวไทยจะชอบพักห้องแบบนี้มากกว่าห้องพักแบบแรกเพราะชอบความสะดวกสบายและอีก 2 ห้องที่เหลือเป็นห้องขนาดสำหรับครอบครัวเพราะมีทั้งเตียงขนาดคิงส์ไซด์และเตียงสำหรับเด็กมีห้องน้ำในตัวเหมาะกับการพาลูกๆ มาเที่ยวพักผ่อนเป็นอย่างมาก
“วันนี้ตอนบ่ายปอขอเข้าไปในตัวเมืองหน่อยนะคะแม่ ปอว่าจะไปซื้อพวกของใช้และจะเลยไปหาซื้อของขวัญวันเกิดให้หนูดีหน่อยค่ะ” กัลยณัฏฐ์มักจะแทนตัวเองว่าปอเสมอ แต่ที่จริงแล้วเธอมีชื่อเล่นว่าโอปอหรือพี่โอปตามที่พิจิกาชอบเรียก
“ให้พ่อขับรถให้ไหมลูก” ปองพลที่พึ่งเสร็จจากการซ่อมก๊อกน้ำบนอ่างล้างหน้าในห้องพักที่อยู่ริมสุดเดินมาร่วมวงสนทนากับสองแม่ลูกที่ตอนนี้นั่งคุยกันอยู่บริเวณห้องโถงหน้า
“ไม่เป็นไรค่ะพ่อ ปอจะรีบไปรีบกลับ พ่ออยู่ช่วยแม่รับแขกเถอะค่ะ บ่ายนี้จะมีแขกมาพักอีก 2 ห้อง” กัลยณัฏฐ์มักจะไปซื้อพวกของใช้ในตัวจังหวัดสมุทรสาครเพราะใกล้กว่าตัวอำเภออัมพวา
กัลยณัฏฐ์เลือกซื้อของใช้สำหรับโฮมสเตย์เสร็จจากนั้นก็ชำระเงินแล้วนำของทั้งหมดไปเก็บไว้ในรถ ก่อนที่จะเดินมายังร้านหนังสือที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้าง วันศุกร์หน้าก็จะถึงวันเกิดของพิจิกาแล้ว เด็กสาวที่เธอรักเหมือนน้องสาว
พิจิกาเคยเรียนกับเธอตอน ป.6 ซึ่งในตอนนั้นหญิงสาวมีโอกาสไปเป็นนักศึกษาฝึกสอนที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งที่เด็กสาวเรียนอยู่ความที่เป็นเด็กช่างพูดทำให้หญิงสาวสนิทกับเธอกว่านักเรียนคนอื่นๆ แม้จะฝึกสอนเสร็จแล้วแต่ทั้งสองยังติดต่อกันตลอดเพราะบ้านอยู่ไม่ไกลกันมาก
เมื่อครั้งเธอเอ่ยชวนให้มาทำงานที่โอบรักโฮมสเตย์พิจิกาก็รีบตอบตกลงทันทีเพราะอยากหารายได้พิเศษ อันที่จริงโฮมสเตย์ของเธอไม่จำเป็นต้องจ้างใครมาเพิ่มก็ได้ แต่เธอเองอยากให้เด็กดีแบบพิจิกามีรายได้และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อีกทั้งที่โฮมสเตย์ของเธอยังมีแขกชาวต่างชาติมาพักเกือบทุกสัปดาห์ การที่พิจิกามาทำงานที่นี่ก็จะได้มีโอกาสฝึกใช้ภาษาอังกฤษไปในตัวอีกด้วย ทางโฮมสเตย์ให้ค่าจ้างทำความสะอาดห้องกับพิจิกาเท่ากับที่อื่นจ้าง และถ้ามีเวลาว่าเธอมักจะสอนภาษาอังกฤษให้กับพิจิกาเสมอ
หลังจากเดินวนอยู่สักพักเธอก็เห็นลูกโลกจำลองหลายขนาดวางเรียงกันอยู่ หญิงสาวยืนเลือกอยู่เกือบ 10 นาทีก็ตัดสินใจเลือกลูกโลกขนาด 32 ซม. ซึ่งต่างจากชิ้นอื่นตรงที่ชิ้นนี้มีผิวลูกโลกเวลาสัมผัสจะรู้สึกถึงความสูงต่ำของเทือกเขาและยังมีสีของน้ำทะเลที่ต่างกันไปตามความสูงต่ำของระดับน้ำทะเลมองแล้วเพลินตา
“เอาอันนี้ค่ะ” / “เอาอันนี้ครับ”
สองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน และเนื่องจากลูกโลกอยู่สูงในระดับสายตาทำให้คนที่อยู่อีกด้านของลูกโลกมองไม่เห็น
“คือทางร้านเหลือแค่ชิ้นนี้เพียงชิ้นเดียวนะคะ” น้องพนักงานรีบบอกกับทั้งสองคน
“ฉันบอกก่อน” กัลยณัฏฐ์รีบหันไปบอกกับผู้ชายตัวสูงน่าจะเกือบ 190 ซม.ผิวสองสี ใบหน้าคมคายรับกับจมูกโด่งได้รูปน่ามอง สวมกางเกงยีนส์สีเข้มกับเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลอ่อน รองเท้าผ้าใบยี่ห้อที่กำลังเป็นที่นิยม เธอเผลอสำรวจใบหน้าของเขา ‘ดูดีในระดับหนึ่ง แต่แก่และน่าจะกินยีราฟเข้าไปถึงได้สูงขนาดนี้’ หญิงสาวคิดในใจ
‘เด็ก’ เขาคิดในใจ “ผมว่าผมเป็นคนพูดก่อนนะ” ชายหนุ่มมองเด็กสาวตรงหน้าดูยังไงก็น่าจะอายุไม่เกิน 20 ปี เขามองแล้วนึกไปถึงหลานสาวของตัวเองแววตาที่สดใสแต่แฝงด้วยความจริงจังบ่งบอกว่าเจ้าตัวนั้นเป็นคนไม่ยอมใครง่ายๆ ถ้าจะให้เขาเลือกลูกโลกอีกใบที่พนักงานนำมาเสนอก็ย่อมได้ แต่เขาอยากลองแกล้งแหย่เธอ ดูสิว่าเธอจะทำยังไง
ปุณณวิชญ์นั้นมาถึงร้านนี้ได้ไม่นานนัก ระหว่างที่กำลังมองหาของขวัญให้หลานสาวนั้นเขาก็มาสะดุดตาที่ลูกโลกจำลองนี้ พิจิกานั้นชอบเรียนภาษาและมีความฝันอยากเป็นนักการทูตปุณณวิชญ์จึงจะซื้อของขวัญชิ้นนี้ให้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับเธอ
“เอาที่ไหนมาพูด ฉันเห็นก่อนและยืนเลือกอยู่ตั้งนาน” กัลยณัฏฐ์พูดออกไปตามความจริงเพราะหญิงสาวยืนเลือกอยู่ตั้งนานไม่เห็นว่าจะมีใครมายืนเลือกกับเธอสักคน
“คุณลูกค้าคะ ลูกโลกจำลองของร้านเรามีหลายขนาดนะคะ และหลายแบบค่ะ อย่างใบนี้สามารถเปิดไฟแล้วมองเห็นอาณาเขตต่างๆ ได้ชัดเจน” พนักงานนำลูกโลกจำลองอีกใบมาเสียบปลั๊กแล้วเปิดไฟให้ลูกค้าทั้งสองคนดู