บทย่อ
“อ่า เด็กดีของฉันพร้อมรึยังจ๊ะ เผียะ! ” พูดจบมือใหญ่ก็ฟาดหน้านวลสวยชื้นเหงื่อไปเต็มแรงจนหน้าของหล่อนหันไปตามแรงตบโดยที่เธอเองก็ไม่ได้ตั้งตัว และเสียงโต้ตอบกลับมาของเมณิษาพร้อมกับที่เธอหันกลับมาแหงนเงยเผชิญหน้ากับเขายิ่งทำให้เขาคึกคะนอง “จินนี่ไม่เจ็บ” แม้จะเจ็บจนเลือดปากแตกจนรับรู้ถึงความเค็มของเลือดในปากแต่เมณิษาก็ยังลูบแก้มตัวเองเหมือนกับว่าไม่รู้สึกอะไร หล่อนเจ็บแต่ความเจ็บที่กระแทกมาเมื่อกี้มันทำให้หล่อนรู้สึกว่าเขาต้องการหล่อนและรักหล่อน เผียะ! มือใหญ่ฟาดเต็มแรงใส่หน้าของสาวเจ้าอีกครั้ง หล่อนเป็นคนเดียวที่ทนเขาได้ และก็ชอบให้เขากระทำแบบนี้ด้วย เขาเสพความเจ็บปวดจากกายเธอและเธอก็เสพติดความเจ็บปวดที่เขามอบให้ "อือ ตบจินนี่อีกค่ะคุณฮัฟ" เผียะ! สิ้นคำขอของหญิงสาวดวงหน้างามก็หันไปตามแรงตบของมือใหญ่อีกครั้ง "อือ แบบนี้ชอบไหมจินนี่ อ่า" คนตัวโตเคลื่อนเดินมายืนซ้อนอยู่ข้างหลังของหล่อน แล้วใช้มือใหญ่ดึงกระชากผมเมณิษาจากทางด้านหลังแล้วบีบคางเล็กให้เอี้ยวหันมารับจูบหนักหน่วงของตนเอง “อ่ะ อือ” เสียงครางอู้อี้ดังเล็ดลอดออกมาจากปากของทั้งสองที่บดบี้กันอยู่ “อ่า เป็นยังไงบ้างเด็กน้อย เธอเจ็บรึเปล่าที่ฉันตบเธอ” มือใหญ่ลูบไล้แก้มนวลที่แดงช้ำและมีรอยมือใหญ่ของตนเองประทับตราให้เห็นอยู่ตรงหน้าก่อนจะจูบปลอบประโลมแผ่วเบาคล้ายกับว่ารู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป “อือ มะ...ไม่ค่ะ จินนี่ไม่เจ็บ คุณฮัฟชอบจินนี่ก็ชอบค่ะ อือ” ใบหน้าบวมช้ำเอี้ยวหันไปแหงนขึ้นบอกเขาทั้งๆ ที่ตัวเองนั้นเจ็บมาก “ฉันขอโทษเด็กน้อยของฉัน เจ็บมากไหม” เอ่ยเสียงเศร้าสำนึกผิด รู้ว่าตัวเองทำเกินไปแต่ก็ห้ามตัวเองไม่ได้ ยิ่งเมณิษาน่าปรารถนาแบบนี้เขายิ่งห้ามตัวเองไม่ให้ใช้ความรุนแรงไม่ได้ ใครจะไปรู้ว่าผู้ชายสมบูรณ์แบบอย่างเขามีด้านมืดด้านนี้ซุกซ่อนอยู่ และตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ “อือ ไม่พูดแบบนั้นค่ะ จินนี่ไม่เจ็บจริงๆ ค่ะ” หล่อนส่ายหน้าและบอกย้ำให้เขาไม่ต้องสนใจความเจ็บปวดภายนอกของตนเอง มือน้อยของหล่อนเคลื่อนมาลูบไล้เอ็นร้อนที่เบียดถูไถไปมากับไหล่มนของตนเอง “อ่า ตอนนี้นะ ตอนนี้ฉันอยากกระแทกหนูแรงๆ จินนี่ อือ” “ได้สิคะ จินนี่ไม่ได้ห้ามอะไร จินนี่รอคุณฮัฟอยู่ค่ะ อืม” หล่อนจูบปลายเอ็นอุ่นร้อนของเขาแผ่วเบาก่อนจะผละถอยห่างออก “อือ น่ารักมากเมียฉัน เดี๋ยวฉันจะเอาเธอแรงๆ ไม่ให้ผิดหวังเลยเด็กน้อยของฉัน” ว่าแล้วก็ไม่รอช้า เขาผละห่างจัดการกับชุดสูทราคาแพงของตัวเองออกให้พ้น และด้านเมณิษาเองก็เช่นกัน หล่อนจัดการปลดเปลื้องชุดของตัวเองออกเพื่อไม่ให้เสียเวลาในการเล้าโลมสวาทกัน เมื่อเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าทั้งสองก็ไม่รอช้าที่จะแนบเบียดร่างเสียดสีกันและกัน ผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนบดเบียดถูไถไปกับผิวขาวแดงของฮัฟด้วยความสิเน่หาและปรารถนาความหนักหน่วงจากคนตัวโต เมณิษาถูกหนุ่มใหญ่อุ้มยกไปนอนราบไปกับโต๊ะทำงานของตัวเอง และข้าวของบนโต๊ะทำงานก็ถูกมือใหญ่กวาดปัดกระจายลงพื้น เรียวขาน้อยเรียวสวยก็ถูกมือใหญ่ทั้งสองจับแยกฉีกกว้างออก เปิดเผยให้เห็นความโหนกนูนของกุหลาบงามกลางหว่างขา ฮัฟจ้องมองความสวยงามฉ่ำแฉะของเมณิษาแล้วก็อดกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอไม่ได้ หล่อนช่างสวยงามเหลือเกิน “อ่า สวยเหลือเกินเด็กน้อยของฉัน อือ” พูดพร้อมกับไล้ปลายลิ้นสากไปมากับริมฝีปากของตัวเอง “คุณฮัฟ...จินนี่ว่า...” “ว่ายังไงเด็กดีของฉัน” เขาถามกลับโดยไม่รอให้หล่อนพูดจบ เพราะตอนนี้เขารู้ว่าแม่เด็กดีของเขากำลังอายที่เขาจ้องมองแบบนี้ ก็ผิวสีน้ำผึ้งของหล่อนกำลังแดงและเอวเล็กของหล่อนก็บิดเร่ายั่วยวนไปมาพร้อมกับเรียวขาของหล่อนที่เขาจับฉีกแยกกว้างกำลังต่อต้านมือใหญ่ของเขาที่จับรั้งแยกออกจากกัน “จินนี่อายค่ะ” หล่อนบอกแล้วก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่น หึหึ
บทนำความมืดที่ปรารถนา
ร่างเล็กนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มในความมืด หล่อนนอนตั้งแต่หัววัน อีกอย่างเธอเหนื่อยเพลียจากการนั่งเครื่องมาด้วยจึงขึ้นมานอนพักผ่อน วันนี้เป็นวันแรกที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของญาติ ซึ่งเธอเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าท่านเป็นญาติฝ่ายไหนของตัวเอง แต่ในวันที่หล่อนไม่เหลือใครท่านเดินเข้ามาบอกว่าเป็นญาติ พร้อมกับพาเธอบินข้ามน้ำข้ามทะเลมายังอังกฤษ นาทีแรกที่เท้าเล็กเหยียบลงพื้นไม่คุ้นเคยไม่ใช่แผ่นดินที่เคยเกิดและอาศัยหล่อนไม่รู้จักผู้คน
ท่านเป็นผู้ใหญ่ใจดี ตอนนี้หากไม่นับท่านเป็นญาติหล่อนก็เหมือนตัวคนเดียว แต่เมื่อมีครอบครัวคุณยายที่ใจดีรับหล่อนมาอยู่ด้วยมาดูแลหล่อนก็พร้อมจะตอบแทนบุญคุณท่าน ปีนี้เมณิษา ทองแท้ หรือจินนี่ เพิ่งจะอายุ 18 ปีเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา หล่อนมาอยู่นี่ท่านบอกจะส่งเสียให้เรียนที่ดีๆ และหางานดีๆ ให้ทำ และเมณิษาก็สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะตั้งใจเรียนทำงาน และตอบแทนบุญคุณของท่าน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นรัวๆ ในกลางดึกที่เงียบสงัด หล่อนที่นอนไม่หลับเพราะแปลกที่เลยรีบลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูห้องอย่างไม่คิดว่าคนที่มารบกวนกลางดึกนั้นเป็นใคร เมื่อเธอเปิดประตูห้องออกก็เห็นชายร่างใหญ่ยืนสูงเด่นในความมืด หล่อนเบิกตากว้างเมื่อร่างใหญ่นั้นก้าวเดินแทรกเข้ามาในห้องของเธออย่างรวดเร็ว โดยที่เธอนั้นยังไม่ได้อนุญาตสักคำ
“คะ...คุณเป็นใคร”
หล่อนถามเขาด้วยภาษาบ้านเกิดที่ติดตัวมาแต่เด็ก ด้านคนที่เดินเข้ามาในความมืดเขานั้นตั้งใจจะมาดูหน้าของเด็กที่แม่ของเขาพามาจากเมืองไทย การที่แม่ของเขากลับไปแผ่นดินเกิดครั้งนี้มันทำให้เขาหงุดหงิดมาก และแม่ของเขาก็กำลังบังคับให้เขาแต่งงาน หรือผู้หญิงคนนี้จะมาเป็นเจ้าสาวของเขากันแน่
ฮัฟ เทย์เลอร์ หรือฮัฟ วัย 35 ปี เจ้าของธุรกิจเครื่องยนต์รายใหญ่ของอังกฤษ เขารับช่วงกิจการมาดูแลต่อจากผู้เป็นพ่อที่จากไปเมื่อแปดปีก่อน และตอนนี้เขาสร้างและพัฒนาทุกอย่างให้มั่นคงกว่าเดิมและมีรายได้มหาศาลต่อปีแทบนับค่าไม่ได้ในตอนนี้ เขาเป็นลูกชายของพ่อกับแม่เพียงคนเดียว เป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษ แต่ใบหน้าของเขากลับไม่มีเค้าของคนไทยเลยสักนิด เขาเหมือนพ่อ ฉะนั้นหากไม่สังเกตดีๆ ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขามีสายเลือดเอเชียผสมอยู่ในร่างกายที่สมบูรณ์แบบของเขา
ฮัฟไม่ตอบเดินไปเปิดไฟที่มุมห้องเพื่อมองสำรวจผู้หญิงที่แม่ของตนพามาเสนอให้ เขาเปิดไฟแล้วเดินกลับมามองสำรวจหญิงสาว ไม่สิเด็กสาวตัวเล็กสูงเพียงระดับอกของตนแล้วแสยะยิ้ม ก่อนจะเอ่ยตอบกลับเป็นภาษาไทยอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“คิดดีแล้วเหรอที่จะมาเป็นเมียของฉัน เธอยังเด็กอยู่นะเด็กน้อย” ไม่ได้แค่พูดเปล่า เขากลับยื่นมือออกไปเชยคางมนเล็กของคนตรงหน้าให้แหงนเงยขึ้นสบกับดวงตาสีเพลิงกาฬของตนเอง
“คะ...คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ หนูไม่รู้เรื่อง” เมณิษาตอบกลับเสียงสั่นแผ่ว พร้อมกับปัดมือใหญ่ที่เชยคางตัวเองออก หล่อนไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายแปลกหน้าตัวโตพูด เขาพูดเรื่องอะไรกัน คุณยายพาเธอมาที่นี่เพื่อมาเรียนหนังสือและมีงานทำต่างหาก แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน
หึหึ
“ไม่รู้เรื่องงั้นเหรอ ก็เธอมาที่นี่เพื่อบำเรอ ไม่สิเป็นเมียฉันไม่ใช่เหรอ อยากได้ฉันเป็นผัวไหนลองทดสอบหน่อยสิว่าเด็กอย่างเธอจะรับฉันไหวรึเปล่า เพราะฉันชอบแบบซาดิสม์เสียด้วยสิ” พูดจบก็กระชากร่างน้อยตรงหน้าเหวี่ยงไปยังเตียงกว้างทันที
ว้าย!
แควก!
ตกใจยังไม่ทันได้หายคนตัวใหญ่ก็เคลื่อนมากดร่างของหล่อนแล้วฉีกทึ้งชุดนอนลายดอกไม้ของหล่อนออกอย่างรวดเร็ว ชุดนอนเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นถูกฉีดขาดอย่างรวดเร็ว หล่อนถีบเท้าดิ้นหนีเมื่อรู้แล้วว่าฝรั่งร่างยักษ์กำลังจะทำอะไรกับตนเอง
กรี๊ดดด
“ยะ....อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ หนูไม่ได้จะมาเป็นเมียของใคร หนูแค่มาเรียนหนังสือ ฮือๆๆ” หล่อนดิ้นถอยหนีพร้อมเสียงสะอื้นไห้ ยกสองมือขึ้นไหว้คนที่ฉีกกระชากชุดของตนเองขาดรุ่ยจนเหลือแต่ร่างกายเปลือยเปล่า เมณิษาไม่เคยใส่ชั้นในนอนสักครั้ง ฉะนั้นตอนนี้หล่อนก็มีเพียงร่างเปลือยเปล่าที่ดิ้นถอยหนี
“อ่า เด็กเนี่ยไม่เด็กเลย ดูตรงไหนก็เต็มแถมสวยด้วย”
สายตาของฮัฟจับจ้องสำรวจไปทั่วเรือนร่างผิวกายสีน้ำผึ้งของเด็กสาว แล้วเคลื่อนตัวมาปลดเปลื้องชุดทำงานของตัวเองออก เขาเพิ่งกลับมาจากข้างนอก ฉะนั้นเขาจึงไม่ได้แวะไหน เขาเดินตรงมาห้องของเธอทันทีเมื่อรู้จากปากเด็กรับใช้ว่าผู้หญิงที่แม่ของตนพามาด้วยนั้นพักอยู่ส่วนไหนของบ้านหลังใหญ่