บทย่อ
"ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ชอบรังแกผู้หญิง""ใช่ ฉันมันชั่ว มันเลงว แต่ผู้ชายเลวๆ คนนี้ไม่ใช่เหรอที่เธออยากได้เป็นผัวจนตัวสั่น"
บทนำ
“พี่เชนทร์กลับมาแล้ว”
วาติยาร้องตะโกนด้วยความดีใจเมื่อเห็นสามีของเธอเดินเข้ามาภาย ในบ้าน หลังจากเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลานานเกือบหนึ่งเดือน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ต่างจากบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี เขามีใบหน้าที่เรียบตึงดวงตา ที่แข็งกร้าวและดุดัน ใบหน้าเย็นชาไร้รอยยิ้ม วาติยาชะงักเท้าที่จะเดินเข้าไปหา เมื่อได้ยินคำพูดที่เธอได้ยินจนขึ้นใจแล้ว
“นึกว่ากลับมาบ้านคราวนี้ฉันจะไม่เห็นหัวเธอเดินอยู่ในบ้านของฉัน... ที่ไหนได้ ยังลอยหน้าลอยตาทำเป็นคุณนายอยู่ที่นี่ หน้าด้าน...ไม่มียางอาย เจ้าของบ้านเขาไม่อยากให้อยู่ยังหน้าด้านหน้าหนา ไล่กี่ทีก็ไม่ยอมไปสักที”
ราเชนทร์ อิศราภักดี มหาเศรษฐีติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย เจ้าของกิจการหลายอย่าง แต่ที่ทำเงินให้มากที่สุดคงจะเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า ที่อยู่ในตึกอาร์ซีเอส ตึกสูง 65 ชั้น ที่ทำรายได้ให้กับเขาตกเดือนละหลายร้อยล้านบาท เขามองหน้าวาติยาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วยสายตาที่เกลียดชัง ดูแคลน สายตาที่มองมาทำให้วาติยารับรู้ถึงความเกลียดชังนั้นได้อย่างชัดเจน ไม่เคยมีสักวันที่เขาจะพูดดีๆ กับเธอ ไม่ว่าเธอจะทำดีกับเขามากแค่ไหนก็ไม่สามารถลบความเกลียดชังที่เขามีต่อเธอได้
“แก้วเป็นเมียพี่เชนทร์...ก็ต้องอยู่ที่นี่สิคะ” วาติยาบอกเสียงอ่อย
“ฮึ...เมีย...เธอลองเอาเท้าของเธอขึ้นมาก่ายหน้าผาก แล้วคิดให้ดีซิว่าเธอเป็นเมียฉันหรือเปล่า?”
ราเชนทร์ถามอย่างเดือดดาล เขาไม่เคยเห็นวาติยาเป็นภรรยาของเขาเลย ที่จำยอมแต่งงานจดทะเบียนสมรสด้วย ก็เพราะตัวเขาเองถูกวาติยาและมารดาของเธอ รวมหัวกันวางยาเขาและจัดฉากว่ามีอะไรกัน ถ้าไม่ติดว่าโฉมฉายมารดาของวาติยาจัดฉากได้อย่างดีเยี่ยม โดยพามารดาของเขารวมทั้งบุคคลที่สามและสี่และอีกหลายๆ ชีวิตเข้ามาเห็นเหตุการณ์ และที่สำคัญนักข่าว เขาจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบนี้ได้
“แต่ถึงยังไงแก้วก็เป็นเมียพี่เชนทร์” วาติยาเถียงเสียงเบาหวิว
“โอ๊ย!!...อยากจะบ้าตาย คำก็เมียสองคำก็เมีย เท่าที่ฉันจำได้ ตั้งแต่แต่งงานอยู่กินกับคนที่อยากมีผัวจนตัวสั่น คิดจะจับผู้ชายรวยๆ อย่างเธอ ของของฉันไม่เคยล่วงล้ำเข้าไปในตัวของเธอเลยสักครั้ง อยากรู้ไหมว่าเพราะอะไร?...เพราะฉันไม่อยากเกลือกกลั้วกับผู้หญิงร่านอย่างเธอ ฉันรังเกียจเธอ จำไว้นะวาติยาว่าฉันเกลียดเธอ เกลียดยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ นอนกับเธอฉันนอนกับโสเภณีราคาไม่กี่ร้อยยังดีซะกว่า...จำใส่กะโหลกกลวงๆ ของเธอเอาไว้ด้วย”
ราเชนทร์ตะโกนออกมาดังลั่นห้องรับแขกขนาดใหญ่ภายในบ้าน วาติยารู้ว่าเขารังเกียจเธอมากแค่ไหน แต่ที่ทนอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะมารดา ที่ทั้งบังคับและขู่เข็ญให้เธออยู่ที่นี่ อยู่เป็นคุณผู้หญิงของตระกูลอิศราภักดี ทั้งๆ ที่เธอไม่เคยต้องการเลยสักนิด แค่คิดก็ยังไม่เคย
“วิชัย...โทรไปหาจีนี่ให้หาผู้หญิงมาให้ฉันคนหนึ่ง ภายในหนึ่งชั่วโมงนะ”
ราเชนทร์สั่งเลขาส่วนตัวของเขาก่อนจะเดินขึ้นไปที่ชั้นบนของบ้าน โดยไม่สนใจวาติยาที่ยืนร้องไห้อย่างน่าสงสารเลย เขากลับแกล้งเดินชนเธอจนร่างบอบบางเซและล้มไปที่พื้นตามแรงชนทันที วิชัยมองผู้หญิงรูปร่างบอบบางที่นั่งร้องไห้อยู่ที่พื้นอย่างสงสารและเห็นใจ แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าเจ้านายเกลียดเขาก็ต้องเกลียดตามไปด้วย ราเชนทร์เดินขึ้นไปที่บันไดไม่กี่ขั้น เขาหันหน้ามาทางวิชัยก่อนจะสั่งอะไรบางอย่างที่ทำให้วาติยาร้องไห้หนักขึ้นกว่าเก่าอีก หากราเชนทร์หาแยแสไม่
“ผู้หญิงมาแล้วให้พาไปที่ห้องของวาติยานะ... ต่อจากนี้ไปฉันจะนอนกับโสเภณีที่ห้องของเธอ เพราะเธอคงไม่รังเกียจผู้ร่วมอาชีพเดียวกับเธอ จริงไหม วาติยา? ฮา ฮา ฮา”
ราเชนทร์พูดจบก็เดินขึ้นไปที่ชั้นบนพร้อมเสียงหัวเราะดังไปจนกระทั่งเขาเข้าห้องไป เสียงหัวเราะที่บาดลึกลงไปในจิตใจของวาติยาจึงเงียบลง วาติยาไม่รู้ว่าเธอจะสามารถทนอยู่ที่นี่ได้อีกนานเท่าไหร่ ระยะเวลาหกเดือนที่ผ่านมา เธอเหมือนกับตกนรกทั้งเป็นอยู่แล้ว แต่เธอไม่เคยบอกใครแม้กระทั่งมารดาของเธอ ซึ่งมักจะมาหาเธอทุกครั้งที่เดือดร้อนเรื่องเงิน
วาติยาเดินเข้ามาในห้องของเธอเมื่อตอนเกือบเที่ยงคืน หลังจากผู้หญิงที่ให้ความสุขกับราเชนทร์กลับไปแล้ว ร่างบางเดินมาหยุดนิ่งที่เตียงนอน ร่องรอยที่อยู่บนเตียงการันตีให้เห็นว่าราเชนทร์ทำอย่างที่พูดจริงๆ ที่นอนยับยู่ยี่ถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วสองชิ้นวางไว้ที่เตียงของเธอ วาติยาทรุดตัวลงนั่งที่พื้น มือบางทั้งสองข้างปิดที่ใบหน้าพร้อมกับหลั่งน้ำตาที่อัดอั้นอยู่ในใจให้ไหลรินออกมา เขาทำกับเธอเกินไปแล้ว ทำไมเขาไม่นึกถึงจิตใจของเธอบ้าง ไม่รัก ไม่ชอบ เกลียดชังเธอ เธอไม่ว่า แต่อย่าทำอย่างนี้กับเธอ มันเกินไป เกินไปแล้วจริงๆ โดยไม่สังเกตว่าราเชนทร์ได้มายืนพิงอยู่ที่ประตูห้อง
“อ้อ!...วานเธอช่วยเก็บซากความสุขของฉันด้วยนะ หวังว่าเธอคงไม่ รังเกียจ”
ราเชนทร์พูดพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของเขาที่อยู่ตรงข้ามกับห้องของเธอ ไม่มีวาจาใดๆ เอื้อนเอ่ยออกมาจากเรียวปากงามของวาติยา มีเพียงน้ำตาและเสียงสะอื้นเท่านั้นที่ได้ยินตลอดทั้งคืน
.....
หลังจากคืนนั้นแล้วราเชนทร์ก็พาผู้หญิงมานอนที่ห้องของเธอทุกคืน บางคืนอยู่ถึงตีสามของวันใหม่ ทำให้เธอแทบไม่ได้นอน สภาพห้องก็เหมือนเดิม ถุงยางอนามัยใช้แล้วถูกถอดวางไว้ที่เตียงเหมือนเดิม เขาทำอย่างนี้มาร่วมหนึ่งเดือน แล้ว ความอดทนของเธอเริ่มเหลือน้อยลงทุกที เธออยากจะหนีไปจากที่นี่ ไปให้ไกล ไปในที่ที่มารดาของเธอไม่สามารถตามหาเธอได้ แต่เป็นเพราะเธอเป็นคนกตัญญู เชื่อฟังมารดาเธอจึงไม่สามารถทำอย่างที่ใจคิดได้ เพราะกลัวมารดาจะลำบาก หากถ้าไม่มีเธอ มารดาก็จะไม่มีเงินใช้ และมารดาของเธอขอค่าเลี้ยงดูเดือนละสองแสน ซึ่งราเชนทร์ก็ตกลง
ราเชนทร์คิดหาทางกำจัดวาติยาให้ออกไปจากบ้านของเขา แต่ไม่ว่าจะทำยังไงวาติยายังไม่มีท่าทีที่จะออกไปจากบ้านเลยสักนิด ก็ให้มันรู้ไปว่าระหว่างเขาและวาติยาใครจะชนะ และเขาได้คิดแผนใหม่ขึ้นมาซึ่งคิดว่าน่าจะได้ผล
“สร้อย...ไปตามวาติยามาหาฉันที่ห้องของเขาด้วยเดี๋ยวนี้” คำสั่งเด็ดขาดของราเชนทร์ทำให้สร้อยสาวใช้ในบ้าน รีบวิ่งไปตามวาติยาที่อยู่ในครัวทันที
“คุณแก้วคะ คุณแก้ว คุณเชนทร์เรียกให้คุณแก้วไปหาที่ห้องค่ะ” สร้อย รีบพูดทันที
“ห้อง...ห้องไหนจ๊ะ?” วาติยาถามเสียงอ่อนหวาน
“ห้องของคุณแก้วค่ะ” สร้อยตอบ วาติยาจึงเดินออกไปจากห้องครัวทันที สร้อยเพิ่งนึกออกว่าเธอลืมบอกว่าเจ้านายหนุ่มนั้นพาผู้หญิงมานอนด้วย ‘ตายแน่เลยกู ลืมบอกคุณแก้วเลย’ สร้อยพึมพำในใจ
วาติยาเปิดประตูห้องด้วยมือที่สั่นเทา นี่เป็นครั้งแรกที่ราเชนทร์เรียกหาเธอ หรือว่าเขาจะเปลี่ยนใจยอมรับเธอเป็นภรรยาของเขาแล้ว แม้ว่าวาติยาจะไม่รู้สึกอะไรกับราเชนทร์นอกจากความละอายใจ แต่เธอก็ยังอยากที่จะได้การยอมรับจากเขาและมารดาของเขา ในฐานะภรรยาที่ถูกต้องทั้งทางพฤตินัยและนิตินัย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห้งเหือดลง เมื่อเธอเห็นร่างสองร่างกำลังก่ายกอดกันอยู่ที่เตียง โดยที่ฝ่ายหญิงไม่มีเสื้อผ้าสวมเลยสักชิ้นเดียว ส่วนราเชนทร์สวมเพียงกางเกงลำลองเท่านั้น
“ว่าไงที่รัก...ฉันชวนเธอมาร่วมวงด้วย อาชีพเก่าเธอไม่ใช่เหรอ? เร็ว...ถอดเสื้อผ้าแล้วเดินมาขึ้นเตียง มาทำให้ฉันมีความสุขเหมือนกับที่โสเภณีคนนี้ทำ”
ราเชนทร์พูดอย่างไม่สะทกสะท้าน เช่นเดียวกับฝ่ายหญิงที่นั่งคร่อมร่างของเขาอยู่ ใบหน้าของเธอกำลังดูดเม้มอยู่ที่ยอดอกของเขา โดยไม่สนใจว่ามีบุคคลที่สามยืนอยู่ ส่วนราเชนทร์ทำใบหน้าเคลิบเคลิ้มรัญจวนโดยไม่สนใจเธอเช่นกัน
วาติยาตัวสั่น มือสั่น ขาสั่นเรียกได้ว่าสั่นทั้งตัว เธอไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน และความอดทนของเธอก็ถึงจุดสิ้นสุดลง ร่างของวาติยาวิ่งออกไป จากห้องทันที ไม่! เธอจะไม่ทนอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว เธอต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด มีเพียงคนเดียวที่เธอนึกถึงตอนนี้ คนเดียวที่โอบกอดเธอในยามที่เธอท้อแท้ ยามทุกข์เธอจะระบายและถ่ายทอดให้คนคนนี้ฟังเสมอ และครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอจะไปหาคนคนนั้น คนที่เธอไม่ได้เจอมานานถึงเจ็ดเดือนแล้ว...พี่สาวฝาแฝดของเธอ...ธาริกา...
ราเชนทร์เมื่อเห็นวาติยาวิ่งออกไปจากห้องแล้ว เขาได้ลุกไปดูที่หน้าต่างเห็นร่างของวาติยาวิ่งออกไปจากบ้าน รอยยิ้มของเขาปรากฏขึ้นบนใบหน้าก่อนจะเดินมาที่เตียงนอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“คืนนี้ฉันจะให้เงินเธอเพิ่มอีกสามเท่า เป็นรางวัลที่เธอทำงานได้ดีเกินคาด” ราเชนทร์ถอดกางเกงลำลองของเขาออกพร้อมด้วยอันเดอร์แวร์ สิ่งที่ผงาดอยู่กลางลำตัวของเขาทำให้ดวงตายาวรีของผู้หญิงที่นอนเปลือยกายอยู่ที่เตียงเบิกกว้าง ก่อนจะแย้มยิ้มและลุกขึ้นไปหาราเชนทร์ที่ยืนอยู่ข้างเตียง ปรนนิบัติและปรนเปรอให้ราเชนทร์อย่างเต็มที่ เสียงครางระงมของผู้หญิงคนนั้นดังลั่นห้องก่อนจะสงบลงในอีกสองชั่วโมงต่อมา
..............
ร่างสูงใหญ่นอนเอกเขนกอยู่ที่เตียงนอน หลังจากที่ผ่านกิจกรรมบนเตียงที่เร่าร้อนเมื่อสองชั่วโมงที่ผ่านมา เขาอาบน้ำทันทีที่ผละออกจากร่างโสเภณีคนนั้น วันนี้เขารู้สึกสบายใจและดีใจเป็นอย่างมาก ที่สามารถทำให้วาติยาออกไปจากบ้านของเขาได้ ระยะเวลาเจ็ดเดือนที่ผ่านมาเขาต้องทนเห็นผู้หญิงที่เขาเกลียด ผู้หญิงหิวเงินอย่างวาติยา ทำให้เขาไม่อยากกลับบ้าน ทั้งๆ ที่บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณตาของเขา บ้านที่เขารักมากที่สุด จะให้ทิ้งไปเขาก็ทิ้งไม่ได้ ชายหนุ่มจึงต้องทนอยู่และวันนี้เขาไม่ต้องทนอีกต่อไป เพราะวาติยาได้ออกไปจากชีวิตของเขาแล้ว
พรุ่งนี้เขาจะให้คนของเขาขนเสื้อผ้าและของใช้ของวาติยาไปทิ้งให้หมด ตกแต่งห้องนั้นเสียใหม่ และจะทำบุญบ้านให้พระมาไล่เสนียดจัญไรออกไปจากห้องนั้นและบ้านของเขาให้หมด คืนนี้และทุกคืนหลังจากนี้เขาจะได้หลับสนิทสักที โดยที่ตัวเขาไม่รู้หรอกว่าจะต้องเจอกับวาติยาคนใหม่ ที่ร้ายและร้อนแรงกว่าวาติยาคนเก่าหลายร้อยเท่า และเขาเองที่จะต้องเป็นฝ่ายรับมือวาติยาคนใหม่ด้วยหัวใจของเขา