บทที่ 8
มธุรินลอบถอนหายใจยาว ลองบิดามารดาและมาดามแคทลีน ผนึกกำลังกันอย่างเหนียวแน่นเช่นนี้แล้ว เธอคงหาทางยืดระยะเวลาออกไปอีกไม่ได้แน่ และอีกอย่างก็จริงอย่างที่มาดามแคทลีนได้เอ่ยพูด ไม่ว่าจะแต่งวันนี้พรุ่งนี้ หรืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้าก็มีค่าเท่ากัน ยังไงเธอก็ยังคงเป็นเจ้าสาวจานด่วนของราล์ฟอยู่ดี
“ถ้างั้นก็แล้วแต่มาดามคะ แต่งวันพรุ่งนี้ก็ได้ ต้นหยกไม่มีปัญหาค่ะ ขอแค่เพียงได้ปลดภาระหนี้สินให้คุณพ่อคุณแม่ได้ก็พอแล้วค่ะ”
เจ้าของใบหน้างามลออเอ่ยออกมาอย่างปลงๆ ตอนนี้เธอควรละทิ้งความสุขส่วนตัวให้หมดไป ควรทำทุกอย่างเพื่อให้บิดามารดาได้หมดทุกข์คลายความกังวลใจในเรื่องที่ยังคารังคาซังอยู่
คำตอบของมธุริน ช่วยทำให้บุพการีของเธอและมาดามแคทลีนซึ่งลอบมองหน้ากัน พลางลุ้นจนใจระทึก ได้ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก
“ดีมากเลยจ้ะ เพราะมาดามเตรียมงานทุกอย่างไว้หมดแล้ว ส่วนเรื่องชุดแต่งงานเดี๋ยวอีกราวๆ หนึ่งชั่วโมงทางร้านก็จะนำมาส่ง หนูต้นหยกจะได้ลองสวมดูว่าพอดีหรือเปล่า”
“รดาคิดว่าน่าจะใส่ได้พอดีนะคะ เพราะรดากะไซส์ของต้นหยกไม่ผิดแน่นอนค่ะ”
คุณมนรดาเอ่ยบอกพร้อมด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขใจ อยากร่นเวลาให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆ เพื่อที่เธอและสามีจะได้เห็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเป็นฝั่งเป็นฝา มีคนคอยดูแลต่อจากพวกเธอสักที
“มาดามเตรียมชุดแต่งงานให้ต้นหยกแล้วหรือคะ”
มธุรินเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ พอได้ยินคำตอบจากมาดามแคทลีนก็ยิ่งแปลกใจเข้าไปอีก เพราะไม่คิดว่ามาดามจะจัดเตรียมงานแต่งงานได้รวดเร็วเช่นนี้
“ใช่จ้ะหนูต้นหยก มาดามสั่งตัดชุดไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นชุดไทยจักรี จริงๆ แล้วมาดามอยากให้หนูต้นหยกใส่ชุดแต่งงานของมาดาม ตอนที่มาดามแต่งงานกับพ่อของราล์ฟ แต่เผอิญว่ามาดามตัวใหญ่และสูงกว่าหนูต้นหยกมาก ทางร้านเลยแนะนำให้ตัดใหม่ดีกว่า เพราะเขาไม่อยากแก้ชุดเดิมพลอยทำให้เนื้อผ้าไหมโบราณเสียหายได้”
มาดามแคทลีนเอ่ยบอกอย่างแสนเสียดาย เพราะความตั้งใจเดิมของนางนั้นอยากให้ว่าที่ลูกสะใภ้ ที่ได้คัดเฟ้นเลือกเองกับมือ และถูกอกถูกใจเป็นอย่างยิ่ง ได้สวมชุดแต่งงานไทยจักรีของนาง ซึ่งตัดด้วยผ้าไหมโบราณปักดิ้นทองทั้งชุด ซึ่งเป็นชุดที่งดงามไม่มีที่ติ แต่ช่างตัดชุดแต่งงานมือหนึ่งในกรุงโรม ซึ่งได้เห็นไซส์ของมธุรินแล้วบอกว่าตัวเล็กกว่านางมากเกินไป ซึ่งทางร้านไม่อยากแก้ชุดเดิมให้เนื้อผ้าไหมเกิดความเสียหาย จึงได้แนะนำให้ตัดใหม่เสียดีกว่า
มธุรินเอะใจอยู่มากที่มารดาบอกว่ากะไซส์ตัวเธอไม่ผิด ส่วนมาดามแคทลีนก็บอกว่าสั่งให้ทางร้านตัดชุดให้เธอเรียบร้อยแล้ว ซึ่งฟังดูแล้วรู้สึกว่าอะไรๆ ก็ลงล็อคไปเสียทุกอย่าง
“เมื่อสักครู่มาดามบอกว่าทางร้านตัดชุดให้ต้นหยกเสร็จแล้ว ทำไมทางร้านถึงได้ตัดชุดแต่งงานได้รวดเร็วแบบนี้ล่ะคะ”
น้ำเสียงที่เอ่ยถามนั้นเต็มไปด้วยความงุนงงระคนสงสัย เพราะเท่าที่จำได้ เธอเพิ่งคุยเรื่องหนี้สินและเพิ่งตกลงปลงใจ รับปากว่าจะแต่งงานกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของมาดามแคทลีน เมื่อสี่วันที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ว่าทางร้านจะตัดชุดแต่งงานได้รวดเร็วถึงเพียงนี้
“เอ่อ...คือ...”
มาดามแคทลีนอ้ำอึ้งหาคำตอบไม่เจอ นึกโมโหตัวเองอยู่มาก ที่ดันเผลอปากหลุดบอกเรื่องนี้ไปให้มธุรินได้สงสัยเอา
“ต้นหยกลูก จะไปแปลกใจอะไรกับเรื่องชุดแต่งงานล่ะลูก ร้านที่มาดามสั่งตัดชุดแต่งงานให้หนูนั้น เป็นร้านดังที่สุดในกรุงโรม และเมื่อมาดามแคทลีน เดริโก้ร์ บุณยกร ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วเมือง ได้สั่งให้ตัดชุดแต่งงานให้ว่าที่ลูกสะใภ้ มีหรือที่ร้านตัดชุดแต่งงานจะไม่ระดมช่างตัดเสื้อนับสิบๆ คน มาช่วยกันตัดชุดให้หนู เพื่อให้ทันวันแต่งงานในวันพรุ่งนี้”
คุณมนรดารีบกระโจนเข้ามาช่วยเพื่อนรักของตนเอง ซึ่งทำท่าว่าจะไปไม่ถูก ตอนที่ถูกลูกสาวของนางได้เอ่ยซักถาม
“ใช่ๆ แล้วหนูต้นหยก แค่มาดามเดินเข้าไปในร้าน บอกว่าอยากได้ชุดแต่งงานที่สวยที่สุด เพื่อว่าที่เจ้าสาวคนสวยของราล์ฟ เดริโก้ร์ บุณยกร เจ้าพ่อแห่งเดริโก้ร์กรุ๊ป บรรดาเจ้าของร้านต่างก็รีบระดมช่างตัดเสื้อมือหนึ่ง มาเร่งตัดชุดให้หนูแบบไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลยแหละ”
มาดามแคทลีนรีบเอ่ยสนับสนุนคำพูดของเพื่อนรัก ซึ่งก็มีเค้าความจริงอยู่มาก เพราะทันทีที่นางก้าวเข้าไปในร้านตัดชุดแต่งงาน พร้อมกับบอกว่าต้องการชุดแต่งงาน ทั้งของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่สวยที่สุด ตัดเย็บอย่างประณีตที่สุดให้กับ
เจ้าพ่อแห่งเดริโก้ร์กรุ๊ปกับว่าที่ลูกสะใภ้คนโปรด ทางเจ้าของร้านก็ไม่รอช้า รีบระดมช่างฝีมือดี ให้มาตัดเย็บชุดแต่งงานทันที
“นอกจากชุดแต่งงานแล้ว มาดามมีเครื่องประดับที่เป็นชุดทองคำให้หนูต้นหยกด้วยนะลูก”
มาดามเอ่ยบอกอย่างผู้ใหญ่ใจดี ชุดทองคำลงยาสุโขทัยชุดใหญ่ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นางจัดเตรียมหาไว้ให้สำหรับว่าที่ลูกสะใภ้
“มาดาม...รดากับคุณรวิชขอบคุณมาดามมากเลยนะ ที่เตรียมทุกอย่างไว้ให้ต้นหยก”
คุณมนรดาปลาบปลื้มกับน้ำใจของเพื่อนรัก ที่ได้เตรียมสิ่งของล้ำค่าไว้ให้กับลูกสาวของเธอทุกอย่าง ซึ่งนับว่า
มธุรินมีบุญวาสนามาก ที่แม่สามีรักและเอ็นดูเช่นนี้ ทำให้หมดปัญหาเรื่องแม่สามีกับลูกสะใภ้ได้โดยปริยาย
“มาดามครับ พวกเรามาตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่เห็นคุณราล์ฟเลย คุณราล์ฟยังไม่กลับอีกหรือครับ”
คุณรวิชเอ่ยถาม เพราะตอนนี้ล่วงเวลาเลิกงานมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว แต่เขาและภรรยาก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าของว่าที่ลูกเขยเลย
มาดามแคทลีนถึงกับโบกมือว่อน เมื่อได้ยินคำถามของคุณรวิช นางตีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย ขณะนึกถึงพ่อลูกชายตัวดี
“โอ๊ย! อย่าไปถามหาเจ้าพ่อแห่งเดริโก้ร์เลยจ้ะ หากตะวันไม่ลาลับขอบฟ้า ตาราล์ฟของฉันไม่มีทางหาทางกลับบ้านเจอหรอก”
คำตอบที่แสนจะคลุมเครือของมาดามแคทลีน ทำให้มธุรินคิดไปไกล และนึกค่อนขอดว่าอีกฝ่ายคงเถลไถลไปเที่ยวตามผับตามบาร์อย่างแน่นอน ถึงกลับบ้านแต่หัววันไม่เป็น เหมือนพวกนกฮูกที่ต้องคอยหาทางกลับบ้านตอนค่ำๆ คืนๆ แทน
“เอ่อ...คุณราล์ฟไปเที่ยวทุกวันเลยหรือคะมาดาม”
มธุรินหลุดปากเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแข็งห้วน ติดอาการไม่พอใจอย่างลืมตัว รู้สึกเกลียดว่าที่เจ้าบ่าวของตนเองจับใจ เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายคงหาความสุขสำราญหลังเลิกงาน ด้วยการไปเที่ยวผับบาร์ซึ่งไม่พ้นว่าต้องมีสาวสวยเซ็กซี่คอยคลอเคลียอยู่ไม่ห่างกาย
คำถามของมธุรินเรียกรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจได้จากมาดามแคทลีนมาก เมื่อเห็นท่าว่ามธุรินไม่ได้เป็นผู้หญิงที่อ่อนปวกเปียก คอยตกอยู่ในโอวาทของสามีแค่เพียงอย่างเดียว เพราะจะว่าไปแล้วนางอยากได้ลูกสะใภ้ที่อ่อนหวาน อ่อนโยน ทว่าในความอ่อนโยนนั้นเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง เด็ดเดี่ยวมากพอที่จะปราบเจ้าพ่อแห่งเดริโก้ร์ได้ ซึ่งหญิงสาวอย่างมธุรินมีคุณสมบัติที่ว่าอย่างครบถ้วน เป็นที่ถูกใจนางอย่างยิ่ง
“หนูต้นหยกอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ต่อว่าพี่เขาในทางที่ไม่ดีนะลูก”
มาดามแคทลีนเอ่ยห้ามความคิดของว่าที่ลูกสะใภ้ ก่อนจะเอ่ยพูดต่อ ให้มธุรินและเพื่อนรักทั้งสองคนได้โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง
“ที่มาดามบอกว่าราล์ฟกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ นั้นก็เป็นเพราะว่าราล์ฟเขามักจะทำงานอยู่ที่โรงแรมจนมืดค่ำ จึงจะกลับบ้านได้ ส่วนตอนเช้าก็ออกไปตั้งแต่เช้ามืด ขนาดว่ามาดามตื่นเช้าแล้ว แต่ก็ยังตื่นไม่ทันได้ออกมาทักทายพูดคุยกับราล์ฟเลย รายนี้บ้างาน บ้าพลังมาก และเห็นบอกว่าช่วงนี้มีกรุ๊ปทัวร์และลูกค้าจองโรงแรมเต็มทุกห้อง ทั้งในโรมและใน
เวนิส เขาก็เลยบินไปดูแลความเรียบร้อยที่เวนิสตั้งแต่เมื่อวาน เห็นบอกว่าจะกลับวันนี้ตอนดึกๆ นะลูก”
“มาดามคะ แล้วคุณราล์ฟจะมาทันฤกษ์แต่งงานในวันพรุ่งนี้ไหมคะ”
คุณมนรดาเอ่ยถามด้วยความเป็นกังวล เกรงว่าเจ้าพ่อแห่งเดริโก้ร์กรุ๊ป จะอ้างเรื่องงานแล้วหนีพิธีแต่งงานที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้
“ทันสิรดา ยังไงก็ทัน เดี๋ยวพอเสร็จงานแล้ว ราล์ฟก็ขึ้นเครื่องบินกลับโรมเลย ส่วนสถานที่จัดงานแต่งงานก็จัดที่นี่แหละ เพราะฉันก็หมั้นและแต่งงานกับพ่อของราล์ฟที่นี่เหมือนกัน ค่ำๆ หน่อยทางร้านตัดชุดแต่งงานจะมาจัดดอกไม้ ตก
แต่งบ้านหลังนี้ ให้สวยงามอบอวลไปด้วยดอกไอริสที่จะบานสะพรั่งเต็มคฤหาสน์เดริโก้ร์”
มาดามแคทลีนกระหยิ่มยิ้มย่อง ขณะย้ำเสียงหนักแน่นให้เพื่อนรักทั้งสอง ได้มั่นใจว่ายังไงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนาง ก็จะต้องมาเข้าพิธีแต่งงานทันตามกำหนดการอย่างแน่นอน และเชื่อด้วยว่ายังไงๆ ราล์ฟก็ไม่มีทางเบี้ยวงานแต่งงานในครั้งนี้ เพราะนางนั้นได้วางไพ่ไม้เด็ดไม้ตายขู่เจ้าพ่อแห่งเดริโก้ร์กรุ๊ปไว้เรียบร้อยแล้ว
“เฮ้อ...ได้ยินแบบนี้แล้วค่อยโล่งอกหน่อย”
คุณรวิชเป่าปากออกมาอย่างโล่งอก ซึ่งผู้เป็นภรรยาก็มีอาการโล่งอกโล่งใจไม่ต่างจากเขาเช่นเดียวกัน
“แหม...อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆ จังเลย คฤหาสน์หลังนี้คงอบอวลไปด้วยดอกไอริสสีสวย กลิ่นหอมยวนใจ
มาดามเข้าใจเลือกดอกไม้นะคะ ดอกไอริสเป็นดอกไม้โปรดของต้นหยกเสียด้วย” คุณมนรดาแย้มยิ้มหวาน ทำตาเคลิ้มฝัน ราวกับเป็นคนแต่งงานเสียเอง
ในขณะที่บิดามารดาคลี่ยิ้มด้วยความปลาบปลื้มใจ แต่ผู้ที่เป็นลูกสาวกลับฝืนยิ้มให้มาดามแคทลีน ในใจนั้นอยากร้องไห้ออกมาดังๆ กับชีวิตของตนเองที่ไม่อาจลิขิตได้ เพราะนับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอก็ต้องใช้ชีวิตอยู่กับคนที่เธอไม่ได้รัก และเขาก็ไม่ได้รักเธอเช่นเดียวกัน
“มาดามคะ ต้นหยกขออนุญาตไปพักผ่อนก่อนได้ไหมคะ เอาไว้ให้ทางร้านเอาชุดมาให้ลองแล้ว ต้นหยกค่อยลงมาข้างล่างอีกที”
มธุรินเอ่ยขอร้องเสียงแผ่วเบา เริ่มรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่อได้ฟังบุพการีและมาดามแคทลีนได้ปรึกษาหารือเรื่องงานแต่งงาน ที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้อย่างสนุกสนานมีความสุข แต่เธอไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นด้วยเลยสักนิด
“ก็ดีเหมือนกันลูก ต้นหยกไปพักผ่อนก่อนก็ได้ อาบน้ำอาบท่าให้สบายตัว นอนหลับสักงีบใหญ่ๆ เดี๋ยวพอทางร้านนำชุดมาให้ลอง มาดามจะให้เด็กรับใช้ไปตามนะลูก”
มาดามแคทลีนสนับสนุนอย่างเห็นดีด้วย จากนั้นก็เรียกเด็กรับใช้ให้พามธุรินไปพักผ่อนในห้องของราล์ฟ ซึ่งนางได้สั่งให้ตกแต่งเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งชุด เพื่อต้อนรับว่าที่ลูกสะใภ้คนสวย และก่อนที่มธุรินจะลุกเดินตามเด็กรับใช้ไป มาดามแคทลีนก็ไม่ลืมดึงร่างเล็กมาสวมกอดไว้ด้วยความรักระคนเอ็นดู พร้อมกับเอ่ยบอกมธุรินด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“มาดามดีใจนะที่จะได้หนูมาเป็นลูกสาว มาดามเชื่อว่าหนูจะทำให้ชีวิตที่เหลือของราล์ฟ เต็มไปด้วยสีสันและมีความสุขที่สุด”