บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

“ยายตัวตุ่น ยายหมูอ้วน”

ชายหนุ่มหลุดปากเรียกฉายาของเพื่อนในวัยเด็ก ซึ่งเขามักจะเรียกเธอเช่นนี้เสมอ จนลืมไปแล้วว่าอีกฝ่ายมีชื่อเล่นหรือชื่อจริงว่าอะไร

“มาดามครับ อย่าบอกนะครับว่าที่มาดามร้องไห้เมื่อสักครู่เป็นเพราะสงสารยายตัวตุ่น...เอ้ย! ยายต้นหยก”

ราล์ฟเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกบุตรสาวของเพื่อนรักของมารดาตนเองแทบไม่ทัน ตอนที่เห็นมารดาถลึงตาเขียวปั้ดใส่ ราวกับไม่ชอบใจสักเท่าไรที่เขาบังอาจไปเรียกคนของท่านเช่นนั้น

“ราล์ฟ ทำไมต้องเรียกน้องว่ายายตัวตุ่นด้วย จะเรียกน้องว่ามธุริน หรือต้นหยกก็ได้”

มาดามแคทลีนต่อว่าเสียงขุ่น พร้อมกับเอ่ยบอกชื่อเสียงเรียงนามของบุคคลที่กำลังตกเป็นหัวข้อการสนทนาอย่างเสร็จสรรพ

ราล์ฟกรอกตาขึ้นอย่างเซ็งๆ วี่แววแห่งความยุ่งเหยิงในชีวิตกำลังลอยอยู่ตรงหน้า เมื่อมารดาแสดงอาการเป็นปลื้มหนักหนาเมื่อได้พูดถึงยายตัวตุ่นของเขา

“โอเคครับ ต้นหยกก็ต้นหยก”

ราล์ฟยอมเรียกมธุรินด้วยชื่อเล่นของเธอตามที่มารดาต้องการ ก่อนจะเอ่ยถามถึงเหตุผลที่มารดาได้ร้องห่มร้องไห้เสียใจให้กับหญิงสาวผู้นี้

“ยายต้นหยกเป็นอะไรครับ มาดามถึงได้ร้องไห้บอกว่าสงสารเธอนักหนา”

“นี่ราล์ฟ เรียกยายต้นหยกก็ไม่ได้ ต้องเรียกน้องต้นหยกสิถึงจะสุภาพ และเป็นการให้เกียรติกับคนที่จะมาเป็นภรรยาของลูกด้วย”

อีกครั้งที่มาดามแคทลีนได้ขึงตามองบุตรชายราวกับไม่พอใจ และในประโยคท้ายที่ได้เอ่ยต่อว่าต่อขานคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า นางก็เผลอหลุดปากออกมาจนได้

“มาดามครับ เมื่อสักครู่ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหมครับ ที่มาดามบอกว่าต้นหยกจะมาเป็นภรรยาของผมนะครับ”

ราล์ฟหรี่ดวงตาสีทองเพลิงมองมารดา ขณะเอ่ยถามเสียงทุ้มลึก รู้สึกว่ากลิ่นตุๆ เรื่องการถูกจับคลุมถุงชนกำลังลอยพันรอบตัวเขาอยู่

มาดามแคทลีนเห็นลูกชายกำลังหรี่ตามองราวกับจ้องจับผิด แถมยังแสดงอาการไม่พอใจอย่างยิ่งยวดกับคำพูดของนาง ก็รีบบีบน้ำตาให้เอ่อคลอเบ้าก่อนจะหยดแหมะราวกับสายฝนหลั่งมาจากฟากฟ้าลงมาตามใบหน้า พร้อมกันนั้นก็เอ่ยขอร้องลูกชายด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น

“ราล์ฟ...ลูกต้องช่วยหนูต้นหยกและครอบครัวของเธอนะลูก”

“ช่วยเรื่องอะไรครับ”

ผู้เป็นบุตรชายถามด้วยน้ำเสียงติดห้วนเล็กน้อย รู้สึกหงุดหงิดใจอยู่มาก ที่มารดาเอ่ยพูดไปคนละเรื่องกับที่เขาได้เอ่ยถามท่านไป

“ก็ครอบครัวของหนูต้นหยกกำลังจะล้มละลาย มีหนี้สินท่วมหัวถึงสิบล้านบาท หากไม่มีเงินไปใช้หนี้ภายในอาทิตย์นี้ หนูต้นหยกกับพ่อแม่ของเธอก็ต้องกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอน”

มาดามเอ่ยบอกลูกชายในสิ่งที่ได้เตี๊ยมกันมาบ้างแล้วแค่บ้างส่วนกับเพื่อนรักของตนเอง โดยหารู้ไม่ว่าจำนวนตัวเลขของการเป็นหนี้สินนั้นออกจะผิดกันอย่างลิบลับ ที่ทางฝ่ายเพื่อนรักทั้งสองคนของตนเองได้เอ่ยบอกกับมธุริน

“เป็นไปได้หรือครับที่คุณน้ารวิชผู้ที่ชาญฉลาด เป็นถึงนักธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทย จะบริหารงานผิดพลาดจนมีหนี้สินล้นพ้นตัวเช่นนี้”

ราล์ฟเกิดอาการเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งในสิ่งที่มารดาได้เอ่ยบอกมา เพราะเขาเคยติดตามและได้ข่าวของคุณรวิชเมื่อ 5-6 ปีก่อน ตอนที่ขึ้นปกนิตยสารเกี่ยวกับนักธุรกิจชั้นนำ ซึ่งคุณรวิชก็เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์อันก้าวไกล ขับ

เคลื่อนนำพาธุรกิจของครอบครัว ภายใต้การกุมบังเหียนของเขาทำกำรี่กำไรได้เป็นอย่างมาก แล้วจู่ๆ มารดาก็มาบอกว่าคุณรวิชกำลังจะล้มละลาย แถมยังมีหนี้สินพ้นตัวถึงสิบล้านบาท จึงทำให้เขางุนงงเป็นอย่างมาก

“แม่ไม่รู้รายละเอียดหรอกว่า พ่อแม่ของหนูต้นหยกบริหารงานยังไง ถึงได้เกิดความผิดพลาดใหญ่หลวงเช่นนี้ แต่สิ่งที่แม่รู้คือแม่และราล์ฟต้องยื่นมือไปช่วยเหลือคนในครอบครัวนี้เป็นการด่วน”

ขณะเอ่ยบอกลูกชาย มาดามก็แสร้งทำเป็นหันไปมองบรรยากาศอันแสนรื่นร่ม เต็มไปด้วยแมกไม้น้อยใหญ่ ที่นางเป็นคนลงมือปลูกรอบๆ คฤหาสน์ ซึ่งกินพื้นที่เกือบยี่สิบไร่ เพื่อไม่ให้ลูกชายจับผิดในดวงตาของนางได้

“มาดามช่วยครอบครัวของคุณน้ารวิชได้เลยครับ ผมไม่มีปัญหาเรื่องนี้หรอกครับ”

เจ้าของนัยน์ตาสีทองเพลิงเข้าใจผิด คิดว่าการที่มารดาร้องห่มร้องไห้นั้น เป็นเพราะกลัวว่าเขาจะทักท้วงเรื่องการนำเงินสิบล้านบาทไปช่วยเหลือเพื่อนรักของท่าน จึงได้เอ่ยอนุญาตออกไปเช่นนั้น

“ทางเรานะไม่มีปัญหาหรอกราล์ฟ แต่ทางโน้นสิที่มีปัญหา”

ขณะเอ่ยบอก น้ำเสียงและสีหน้าของมาดามแคทลีนเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งความเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“ทำไมหรือครับมาดาม หรือว่าเงินสิบล้านจะไม่พอใช้หนี้”

ราล์ฟเข้าใจว่าต้องเป็นเช่นนั้น คิดว่าครอบครัวของคุณน้ารวิชคงมีหนี้สินเล็กๆ น้อยๆ ที่อื่นรวมอยู่ด้วย จึงทำให้เงินจำนวนสิบล้านบาท ที่ครอบครัวเขากำลังยื่นมือไปช่วยนั้นจะไม่เพียงพอสำหรับการใช้หนี้ แต่เมื่อได้ยินคำตอบที่มารดาได้เอ่ยออกมาอีกครั้ง ก็ถึงกับต้องเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความแปลกใจ ที่ยังคงหลั่งไหลเข้าสู่กายเขาอย่างไม่รู้จบ

“ที่แม่บอกว่าฝ่ายโน้นมีปัญหา ก็คือพวกเขาจะไม่ยอมรับเงินช่วยเหลือจากพวกเราง่ายๆ”

“ถ้าหากคุณน้ารวิชไม่สบายใจเรื่องการรับเงินจากพวกเรา มาดามก็ทำสัญญากู้ยืมไว้เป็นหลักฐานก็ได้นี่ครับ จะได้สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย”

ราล์ฟเสนอแนวทางสำหรับการกู้ยืมเงินกันในครั้งนี้ ซึ่งเขาพร้อมที่จะทำสัญญาให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ถ้าหากฝ่ายของคุณน้ารวิชไม่พร้อมที่จะทำสัญญา ตัวเขานั้นก็ไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน เพราะเขาไม่คิดเร่งรัดเอาเงินคืนภายในสองสามปีนี้ เขาต้องรอให้ทางฝ่ายโน้นฟื้นตัวลุกขึ้นยืนได้ด้วยความมั่นคงเสียก่อน จึงจะติดตามทวงถามเรื่องเงินทองที่ได้หยิบยืมไป

มาดามแคทลีนโบกมือว่อน ก่อนจะเอ่ยบอกเหตุผลว่าทำไมผู้ที่กำลังประสบเคราะห์ปัญหาทางด้านการเงิน ถึงไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากครอบครัวของเธอง่ายๆ

“เอ่อ...คือทางโน้นไม่อยากรับเงินของพวกเราไปเฉยๆ เพราะเกรงว่าจะเป็นที่ครหาของคนอื่น แม่กับคุณรวิชและคุณมนรดาจึงปรึกษากันว่าจะให้ราล์ฟกับหนูต้นหยกแต่งงานกันนะลูก”

“อะไรน่ะครับ แต่งงาน!”

ราล์ฟตะโกนถามมารดาเสียงดังลั่นทั่วบริเวณ ใบหน้าคมเข้มเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งทันที เมื่อได้ยินเงื่อนไขที่มารดาของตนและเพื่อนรักของท่านได้เสนอร่วมกัน

“ไม่มีทางครับมาดาม ยังไงผมก็ไม่ยอมแต่งงานกับยายต้นหยกอย่างแน่นอน”

เจ้าพ่อแห่งเดริโก้ร์กรุ๊ปปฏิเสธเสียงแข็ง หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอมแต่งงานกับยายตัวตัวตุ่นเตี้ยม่อต้อ คนที่เขาเคยปรามาสไว้ตั้งแต่เด็ก

“ราล์ฟ ถ้าลูกไม่ยอมแต่งงาน ครอบครัวโน้นก็จะกลายเป็นคนไม่มีที่ซุกหัวนอนนะลูก ราล์ฟไม่สงสารต้นหยกหรือลูก หากเธอต้องระหกระเหินไปอยู่ห้องแคบๆ เท่าแมวดิ้นตาย”

มาดามแคทลีนพยายามหวานล้อมให้ลูกชายได้เห็นใจครอบครัวของเพื่อนรักของตนเอง แต่ผู้ที่เป็นลูกก็ยังคงปฏิเสธเสียงแข็งเช่นเดิม

“ก็ช่างเขาปะไรครับ ผมจะให้ยืมเงินฟรีๆ ไม่คิดดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว ทำไมพวกเขาไม่รับเงินไป ทำไมต้องมาสร้างเงื่อนไขบ้าบอคอแตกแบบนี้ด้วย”

“คุณรวิชเขาไม่สบายใจที่ต้องรับเงินของเราไปฟรีๆ พวกเขาก็เลยคิดว่าจะให้ราล์ฟกับหนูต้นหยกแต่งงานกัน ส่วนเงินที่พวกเราช่วยเหลือเขา ก็ถือเสียว่าเป็นค่าสินสอดทองหมั้น มันจะได้ไม่ดูน่าเกลียดเกินไปนะลูก”

มาดามแคทลีนชักแม่น้ำทั้งห้า ให้ลูกชายได้ยอมรับเงื่อนไขที่นางและเพื่อนรักทั้งสองได้ผูกเข้าร่วมกัน

“ฮึ! พวกเขาจะสนใจขี้ปากชาวบ้านทำไมกันครับ พวกเขาควรสนใจเรื่องปากเรื่องท้องความเป็นอยู่ของครอบครัวตัวเองถึงจะถูก”

เจ้าพ่อเดริโก้ร์กรุ๊ปกระแทกเสียงต่อว่าครอบครัวของมธุริน ซึ่งกำลังนำความวุ่นวายมาให้กับชีวิตของเขาด้วยความหงุดหงิดระคนโมโห ยิ่งได้นึกถึงคำพูดที่ตนเองเคยปรามาสสาวน้อยไว้เมื่อสมัยเด็กๆ ยิ่งทำให้โมโหเข้าไปใหญ่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel