จีบแล้วนะ……รู้ยัง
‘ วันจันทร์ที่แสนจะน่าเบื่อ เดินทางมาถึงอีกแล้ว ……ผู้ที่ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจเป็นคนแรกก็คือ…นิศาเองจ้า ‘
เช้าวันนี้ที่ในห้องท่านรองประธาน นิศาถูกเรียกตัวเข้าพบด่วน โดยไม่รู้สาเหตุ หญิงสาวนั่งตังตรงไม่ไหวติงเมื่อท่านรองเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามการสนทนาจึงเริ่มขึ้น
“ คือ……ท่านรองคะ วันก่อนที่ไปเลี้ยงฉลองกัน ดิฉันขอโทษค่ะที่ทำตัวไม่เหมาะสม “
นิศาผงกศีรษะพร้อมกับยกมือขึ้นขอโทษอยู่สองสามครั้งทำเอาท่านรองประธานอดที่จะขำไม่ได้
“ ช่างมันเถอะครับ มันนอกเวลางานผมไม่ถือสา แต่ที่ผมเรียกมาวันนี้ ผมต้องการจะถามว่าร้านเพชรที่อัยยาชอบไป”
“ หา!!! ถามเรื่องร้านพะ……ร้านเพชรที่ยัยอะออัยย์ชอบซื้อแค่นั้นเหรอคะ “
“ ครับ ใช่ชื่อร้านเพชรพลอยชมพูใช่มั้ย”
“ ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ “
“ ผมแค่อยากไปซื้อบ้างไม่มีอะไร……เออก็แค่อยากหาแหวนสักวงให้คนที่ผมแอบชอบ “
“ ว้าว……ท่านรองน่ารักจังเลยค่ะ ร้านนี้ถูกต้องแล้วค่ะ ถ้าเสริชหาก็จะเจอนะคะ แต่ทางร้านมีบริการถึงบ้านสามารถนัดมาชมและเลือกซื้อได้ถึงบ้านเลยค่ะ นี่ค่ะไลน์ไอดีร้าน “
“ ขอบคุณครับ งั้นช่วยดูทีสิว่าใช่แบบนี้ไหมที่อัยยาชอบ “
อินทัชส่งรูปภาพในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนให้กับนิศาได้ดู เมื่อนิศาเห็นก็จำได้ว่าสร้อยข้อมือจี้หัวใจแบบนี้คือเครื่องประดับที่อัยยาชอบ แต่นิศาก็ชะงักงันเมื่อนึกได้ว่าสิ่งที่เธอได้ยินเมื่อสักครู่เธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง
“ แต่เอะ!! …เมื่อสักครู่ท่านรองพูดว่าแบบที่ยัยอัยย์ชอบเหรอคะ “
“ ครับ คุณฟังไม่ผิด “
“ ตายแล้ว !!! อีหนูนาจะเป็นลมท่านรองจะซื้อสร้อยข้อมือเพชรให้ยัยอัยย์ อย่าบอกนะว่าจะจีบยัยอัยย์อะ……เอาไงดีว่า ถามดีไม่ถามดี ……” พลันเสียงทุ้มก็ฉุดให้อิฉัน…หนูนาผู้น่าสงสารออกจากห้วงความคิดนั้น
“ คุณนิศา!! คุณนิศา “
“ อ่อคะ ……ท่านรองว่าไงนะคะ “
“ ผมถามว่าถ้าผมจะซื้อ อันนี้ อัยยาจะชอบมั้ย “
“ ดิฉันว่าชอบค่ะท่านรอง……แต่ขอถามสักคำถามได้ไหมคะ “
“ ว่ามาสิ ผมให้โอกาสคุณถามมาได้ ผมยินดีตอบเพราะคุณคือผู้ช่วยของผม “
“ ผู้ช่วย!!! เหรอคะ ……อะคืออะไร “
“ ผู้ช่วยจัดการความโสดของผมไง “
“ หา!! แบบนั้นเลยเหรอคะ “
“ ครับ ผมแต่งตั้งให้คุณต้องช่วยผมจัดการปัญหานี้ให้ผม ……สรุปคือผมจะจีบอัยยา “
“ โอ้ว!! คุณพระ!! นี่ขนาดได้ยินแค่ว่าจะจีบเพื่อนนะ ไม่ใช่จีบตัวเองก็แทบจะสลบใจเต้นหวิวคล้ายจะเป็นลม ……เอาไงละคราวนี้ตกกระไดพลอยโจนแล้วมั้ยละจะปฏิเสธก็ไม่ได้ จะช่วยลุยให้จีบเพื่อนก็กลัวมันจะโกรธ เกิดเป็นนางหนูนานี่มันยากจริงจริง” นิศารำพึงรำพันในใจ
“ ว่าไงครับ จะช่วยร่วมมือกับผมมั้ย ผมพูดจริงนะ ผมจริงใจต่อเพื่อนคุณ “
“ เออ……”
“ เอาเป็นว่าตกลงตามนี้ ดิว……ละกัน “
“ ท่านรองคะ แต่……คนอย่างยัยอัยย์ ไม่ได้ง่ายๆนะคะ “
“ ผมทราบ…ก็ถ้าธรรมดาป่านนี้คงมีแฟนไปแล้ว ……แต่แบบนี้ผมชอบนะ “
“ ค่ะ ดิฉันจะลองดูแล้วกันค่ะ ถ้าท่านรองไม่มีอะไรแล้วขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
“ ครับ……เชิญ “
นิศาลุกเดินออกไปช้าแต่ก็ต้องหยุดชะงักทันทีที่ชายหนุ่มเอ่ยประโยคสุดท้ายก่อนที่เธอจะออกจากห้องนี้ไป
“ ผมอยากให้คุณเก็บไว้เป็นความลับระหว่างผมกับคุณ ผมไม่อยากให้เราเสียการใหญ่ คุณเข้าใจใช่ไหมครับ “
“ ค่ะท่านรอง “ นิศาหันหลังกลับมาตอบก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าเดินออกจากห้องไป
ที่ห้องทำงานของอัยยา เสียงถอนหายใจของนิศาทำเอาเพื่อนรักอย่างอัยยาอดไม่ได้ที่ตะเดินไปสอบถาม
“ เป็นอะไร หน้าตาดูเคร่งเครียด งานที่ฉันสั่งไปมันยากเหรอ หรือว่ามันน้อยไป “
“ ไม่ใช่ค่ะคุณเพื่อนขา คือเออ……เฮ้ย!! ลำบากใจจริงเกิดมาเป็นนางหนูนาเนี่ย “
“ ลำบาก? เรื่องอะไร อย่าบอกนะเรื่องที่ท่านรองเรียกแกไปปรับทัศนคติเมื่อเช้า “
“ ไม่ใช่จะบ้าเหรอ ……มันไม่ได้มีอะไร แกไปทำงานเถอะ เดี๋ยวตอนบ่ายมีประชุมกับพี่วัฒน์และผู้บริหารไม่ใช่เหรอ “
“ แน่นะ ห้ามมีความลับกับเพื่อนนะ “
“ อุ๊ย……ลับเลิบอะไรกั้นไม่มี้ ไม่มี “ นิศาทำเสียงสูงปี๊ด
“ งั้นเจอกันหลังเลิกงาน วันนี้ห้ามเบี้ยวฉันนะ ต้องรอฉันกลับบ้านด้วย “
“ เออ”
‘ สองชั่วโมงต่อมาในห้องประชุมของบริษัทคราคร่ำไปด้วยบุคคลกรที่ล้วนแล้วแต่อยู่ในระดับหัวหน้าแผนกขึ้นไป ซึ่งเมื่อหนูนาประมาณการคร่าวๆด้วยสายตาแล้วก็ไม่น่าจะต่ำกว่ายี่สิบคน ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณอินทัชซึ่งเป็นเจ้านายของเธอ นึกครึ้มอะไรขึ้นมาถึงได้นัดมาประชุมแต่หัววัน ……วงสนทนาในปาร์ตี้ของดองยามบ่ายที่เคยมีอัยยาเป็นหัวโจก ก็เลยต้องสลายตัวกันไปเร็วกว่ากำหนด ‘
บ่ายสองโมงสิบนาที คุณอินทัช หรือที่มักจะเรียกสั้นๆกันว่าท่านรอง ก็เดินเข้าห้องประชุมมาด้วยมาดของนักบริหารรุ่นใหม่ไฟแรงพร้อมกับแล็บท็อปคู่ชีวิตก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะ ดวงตาของเขาฉายแววประหลาดใจเมื่อหันมาเห็นว่าทาวขวามือของเขามีเธอนั่งเข้าร่วมประชุมด้วย
“ อ้าว! อัยย์ มาทันเข้าประชุมด้วยเหรอ ไหนผ.อ วัฒน์ แจ้งว่าคุณไปร่วมงานเปิดตัวโครงการบ้านที่สร้างเสร็จของคู่ค้าเราไง อีกอย่างผ.อ. วัฒน์บอกว่าคุณมีไข้ เหมือนจะไม่สบาย คุณกลับบ้านได้นะผมอนุญาต “ ชายหนุ่มทักเธอด้วยความห่วงใย
“อัยย์ทานยาแล้วค่ะ อาการค่อยยังชั่วแล้วค่ะ “
“แต่หน้ายังซีดอยู่เลย “
“ ท่านรองไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ อัยย์รู้สึกดีขึ้นมากแล้วจริงๆ “
‘ หล่อมากแม่…ไงละท่านรองของหนูนา มีความเป็นห่วงเป็นใยแต่ยังไม่พอแค่นี้เมื่ออาการของเพื่อนสาวดันแสดงการจนใครๆในห้องก็อยากจะมาดูแล หลังจากที่พูดจบประโยค คนที่บอกว่าตัวเองรู้สึกดีขึ้นมากแล้วก็”ฮ้าดเช้ย” โชว์ในที่ประชุมไปสองสามทีซึ่งก็คงเป็นเพราะความเย็นจัดจากเครื่องปรับอากาศนั้นเอง ถ้าไม่ใช่เพราะออกไปเจอแดดแรงๆที่โครงการกลับเข้ามาที่ทำงานร่างกายปรับตัวไม่ทัน อัยยาก็คงไม่มานั่งกระสับกระส่ายอย่างไม่เป็นสุขสลับกับการจามติดๆกันหลายครั้งอย่างนี้หรอก วิวัฒน์ส่ายหน้าออกมาอย่างขัดใจ ‘
“ อัยย์ถ้าไม่ไหวจะกลับไปพักต่อก็ได้นะ พี่จะโทรบอกหนูนาให้ขับรถไปส่ง “
“ ไม่เป็นไรพี่ อัยย์ไหว “
“ แหม……มีแต่คนเป็นห่วงผู้ช่วยอัยยะ “
อัยยาหันไปส่งค้อนให้กับเจ้าของเสียงวงเบ้อเริ่ม” อิจฉาใช่มะ พี่ทีน “
‘ พี่ทีนที่อัยยาพูดถึงเคยมีชื่อจริงที่แสนจะห้าวหาญว่า” ทรงเกียรติ”แต่ภายหลังเมื่อตรวจเช็คดวงชะตาแล้วพบว่าไม่ถูกกับดวงเมืองและหลักฮวงจุ้ยอย่างแรง ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนชื่อตัวเองใหม่เป็น ธีระ “ ท่ามกลางความเห็นพ้องต้องกันของบรรดาญาติและผองเพื่อนและนี่คือเจ้ดันที่ยืนหนึ่งข้างท่านรองอินจ้า แล้วเรามาสนิทกันได้ไงงั้นเหรอ ก็เพราะแก๊งเรามีพี่ทีน อัยย์และหนูนา.อัยยารู้จักกับพี่ทีนหรือธีระ เมื่อเกือบสองปีก่อน นับตั้งแต่ที่เธอเริ่มเข้ามาทำงานที่นี่ พี่ทีนในเวลางานนั้นไม่ต่างอะไรกับชายในฝันของผู้หญิงหลายๆคนเพราะไม่ว่าใครก็ต้องลงความเห็นแบบเดียวกันว่าเขาดูเป็นหนุ่มมาดแมน บึกบึนและเท่ ใครได้ใกล้ชิดก็ต้องรู้สึกอบอู๊น……อบอุ่น จะติดนิดเดียวก็ตรงที่พี่แกค่อนข้างจะเจ้าระเบียบเสียเหลือเกิน นานวันเข้าความสนิทสนมก็มากขึ้นตามลำดับ จนในที่สุดอัยยาก็ได้รู้ความจริงแล้วว่าชายหนุ่มมาดเข้มอย่างธีระ ที่เธอรู้จักนั้นเป็นแค่ภาพลวงตาเพราะทันทีที่พระอาทิตย์ตกดิน “ ธีระ หรือพี่ทีน “ จะกลายสภาพเป็น”ทีนมี่ “ หญิงสาวสวยเริ่ดๆเชิดๆ ต่อหน้าหนุ่มหน้าใส ‘
การประชุมดำเนินการไปจนเกือบหกโมงเย็น เนื้อหาในการประชุมสรุปตามที่คุณอินทัชพยามยามอธิบายได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้วยิ่งใหญ่ในธนาคารเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายหลักของทางฝ่ายบริหาร และในระยะเวลาอันใกล้นี้พนักงานบางส่วนก็จำต้องย้ายที่ทำงานไปอยู่ที่ตึกใหม่ซึ่งเพิ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จและกำลังอยู่ในช่วงของการตกแต่งภายในและในช่วงท้ายของการประชุม คุณอินทัชได้เปิดโอกาสให้หัวหน้าฝ่าย ร่วมกันแสดงความคิดเห็นต่างๆทำให้กลุ่มปาร์ตี้ของดองที่เพ่งจะสลายตัวไปกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และท่ามกลางเสียงพูดแสดงความคิดเห็นกันอย่างออรสออกชาตินั้น อัยยากลับสังเกตเห็นว่าใครคนหนึ่งจับจองมาที่เธอ แววตาคู่นั้นแม้จะอยู่ห่างไกลกับตรงจุดที่เธอนั่งไม่มาก จึงเห็นได้ชัดถึงแววตาที่ส่งมาหาเธอมันคือความห่วงใยที่ส่งผ่านมาถึงม่านตาสีน้ำตาลคู่นั้น เมื่ออัยยาจ้องมองเขากลับไปทำให้ส่ยตาคมคู่นั้นหลบตาทันควัน ก่อนจะกลับหันมาสนใจการแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมอีกครั้ง
“ เอาล่ะ เอาล่ะ สำหรับวันนี้ก็คงไม่มีอะไรมาก ก็คงตามที่ผมบอกไปแล้วตั้งแต่ต้น ถ้าใครมีปัญหาหรือสงสัยอะไรก็แจ้งมาทางคุณพันลภได้ แต่สำหรับวันนี้ผมขอจบการประชุมครับ “
เมื่อทุกคนต่างทยอยกันออกจากห้องไปอัยยายังคงนั่งรวบรวมหัวข้อในสมุดบันทึกเพื่อทำรายในวันถัดไป อินทัชรอจนทุกคนออกจากห้องไปหมด เขาเดินมาหยุดที่โต๊ะของอัยยาเสียงทุ้มพูดขึ้นอย่างแผ่วเบา
“ วันนี้ ผมไปส่งนะ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ “
“ คะ ?……เออท่านรองพูดกับอัยย์เหรอคะ “
“ ครับ ไม่มีใครเลยในห้องนี้นอกจากคุณกับผม “
“ อัยย์ว่าอย่าดีกว่าค่ะ มันไม่เหมาะ เลยเวลางานแล้วหากท่านรองจะคุยกับอัยย์เรื่องงานไว้อัยย์จะมาพบท่านรองที่ห้องทำงานในตอนเช้าดีกว่าค่ะ “
“ แต่ผม……เออ ก็ได้ครับ “
“ อัยย์ขอตัวนะคะ “
‘ สายรุกปะละบอสของฉัน ทำเอาอัยยาต้องลุกเดินจากห้องประชุมที่บรรยากาศแสนอึดอัดนั้นทันที นี่ท่านรองประธานเป็นอะไร ถึงได้แต่คอยจับจ้องอัยยาแถมสายตาท่าทีก็ดูดผิดแผกไปไม่เหมือนกับครั้งแรกที่เจอกัน ถ้าหนูนาเป็นคนคิดเข้าข้างตัวเองเหมือนกับสาวๆในออฟฟิศ เธอคงคิดว่าท่านรองประธานลูกชายคนเดียวของธนาคารชื่อดังมาตกหลุมรักเพื่อนของเธอ แถมยังคอยตามจีบอัยยาเป็นแน่ ทุกอย่างกำลังจะดำเนินไปในแบบที่ว่าเพื่อนสาวของฉันก็ไม่ได้ตั้งตัวอะนะ ‘