บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10 สงสัยอะไร

“วันอื่นมากินข้าวด้วยกันนะคะ”

“พรุ่งนี้ลุงมาได้ใช่ไหม”

“ได้ค่ะ” เด็กหญิงตอบกลับรวดเร็วไม่ถามแม่สักคำ

“ไม่ต้องมา” มารินมองเคืองดันประตูรั้วสุดขอบแล้วสะบัดหน้าใส่เดินไปที่รถเก๋งคันเก่า พสุธรมองเคืองเดินไปยังรถหรูของเขาที่จอดอยู่นอกรั้ว ทว่าเสียงสตาร์ทรถของเธอเหมือนเครื่องสะดุดสตาร์ทไม่ติดทำให้เขาหันกลับไปมองเห็นมารินเม้มปากคิ้วขมวดก้มหน้าเครียดพยายามสตาร์ทรถ เขาเดินกลับมาเคาะกระจกรถมารินหันขวับมองเขาที่ยืนยิ้มกริ่มเธอถึงกับถอนหายใจหงุดหงิดรถดันเสียตอนที่เขาอยู่ทำให้เขาเย้ยหยันเธอได้ มารินเปิดประตูลงจากรถเดินไปหยิบกระเป๋าของเธอกับลูกที่เบาะหลังออกมาสะพายบ่า

“ไปรถผมสิ”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรียกแท็กซี่” เธอเดินผ่านเขามาเฉย ๆ เปิดประตูรถฝั่งที่ลูกสาวออก เมลินดากอดพี่ฮิบมืออีกข้างจับมือแม่กำลังจะเดินไปเรียกแท็กซี่ด้วยกัน พสุธรมองบนคว้าแขนรั้งไว้เธอหันขวับไม่พอใจกระชากแขนออก

“จะยุ่งยากทำไมก็แค่ขึ้นรถ ผมไม่อยากให้ลินดาลำบาก.......” เขาอึกอักสายตาหลุกหลิกคิดหาคำพูดที่ตัวเองจะไม่เสียฟอร์มเลยเอาเด็กมาอ้าง มารินก้มมองลูกสาวกับสัมภาระของเธอที่มีหลายอย่างจะแบกขึ้นแท็กซี่ก็ทุลักทุเลเกินไปเลยยอมให้เขาพามาส่งที่โรงพยาบาลขากลับค่อยเรียกรถกลับอีกที

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล มารินอุ้มลูกตรงมาที่ห้องฉุกเฉินแล้ววางลูกลงที่เก้าอี้ใกล้ ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาญาติของลูกค้า ระหว่างที่พูดคุยกับลูกค้ามารินเหลือบมองลูกที่นั่งวาดการ์ตูนอยู่ใกล้ ๆ สักพักพสุธรก็เดินมานั่งข้างเมลินดาแล้วก้มมองรูปวาดตัวการ์ตูนลายเส้นสวยเกินกว่าที่เด็กอนุบาลจะวาดได้

“วาดรูปสวยนะเนี่ย” เขาเอ่ยชมฝีมือสาวน้อยที่ชอบวาดรูปเหมือนกัน เขาชอบวาดรูปออกแบบตัวละครส่วนมากตัวละครในเกมของบริษัทก็เป็นฝีมือของเขาเกือบทั้งหมด

“หนูชอบวาดรูปค่ะ....” เด็กน้อยอมยิ้มภูมิใจไม่รู้ว่านี่คือพรสวรรค์รู้แค่ว่าชอบมีความสุขที่ได้วาดภาพระบายสี

“วาดเสร็จลุงขอรูปนี้ได้ไหม”

“ได้ค่ะ แต่หนูต้องได้กินข้าวเพิ่มพลังก่อนนะคะมือไม่ค่อยมีแรงแล้ว.............” เมลินดายิ้มแห้งเอามือกุมท้อง พสุธรนึกขึ้นได้ว่ากำลังจะกินข้าวเย็นด้วยกันแต่มีธุระด่วนเมลินดาเลยยังไม่ได้กินข้าว เขาหันไปแม่เด็กที่กำลังพูดคุยและปลอบใจลูกค้า เลยถือวิสาสะลุกขึ้นจับมือเมลินดาจะพาเดินไปที่โรงอาหาร

“ไปไหนกันคะ?” มารินวิ่งตามมาถามหน้าตาตื่น

“จะพาลินดาไปกินข้าว” เขาหันขวับบอกมารินที่ยืนอยู่ด้านหลัง

“รอแม่แป๊บนึงนะลูก” มารินมองหวาดระแวงลูบผมลูกสาวขอให้รอเธอไม่อยากให้ไปกับคนอื่น

“ไม่ต้องห่วง ผมไม่ได้เลวขนาดทำร้ายเด็กได้” เขาหน้าตึงมองหงุดหงิดกับสีหน้าแม่เด็ก คงว่าเขาจะทำไม่ดีกับเด็กหญิงน่ารักคนนี้ มารินอึกอัก

“ฝากด้วยนะคะ” เธอเอ่ยปากฝากรู้ทั้งที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเขานักแต่ก็คิดว่าเขาไม่ใช่คนใจร้าย เขาคงไม่เอาความแค้นส่วนตัวมาลงกับลูกของเธอ.....

ภายในโรงอาหารของโรงพยาบาล

เมลินดาสั่งข้าวผัดกุ้งแล้วไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร พสุธรถือจานข้าวผัดมาสองจานวางให้เมลินดาส่วนอีกจานเป็นของเขาเอง ก่อนจะทานข้าวผัดมือน้อย ๆ จับช้อนตัดแบ่งข้าวอีกฝั่งออกนิดนึง พสุธรเองก็ตัดออกแบ่งนิดนึงเหมือนกันพอจะตักข้าวเข้าปากเขาก็ชะงักมองจานของเด็กน้อยที่นั่งข้างกาย

“ทำไมแบ่งข้าวออกไปแบบนั้นล่ะ”

“หนูไม่ชอบกลิ่นแตงกวา แม่สั่งให้ไม่มีแตงกวา” เด็กน้อยช้อนตามองแล้วตักข้าวผัดเข้าปาก

“ไม่ชอบกลิ่น.......” เขาอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินเขาเองก็ไม่ชอบกลิ่นแตงกวาแต่ลืมสั่งแม่ครัวว่าไม่ให้วางมาข้างจาน

“แล้วทำไมลุงธรถึงแบ่งคะ”

“ลุงไม่ชอบกลิ่นแตงกวา แปลกนะเราไม่ชอบเหมือนกันแล้วยังแบ่งข้าวเหมือนกันอีก”

“แม่บอกว่าพ่อก็ทำ ถ้ามีของที่ไม่ชอบก็ให้ตัดแบ่งออกไป” เด็กน้อยยิ้มแย้มตักข้าวกินอย่างเอร็ดอร่อย พสุธรนิ่งงันมองเด็กน้อยด้วยสายตาที่หลากหลายใจเต้นแรง (เขากำลังสงสัยอะไร ความสงสัยที่เข้าข้างตัวเอง มันอาจไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้ แต่ว่า.....ทำไมเขาถึงอยากให้สิ่งที่คิดเป็นความจริง)

เมื่อทานอาหารเสร็จ พสุธรจับมือเมลินดาเข้าไปในร้านสะดวกซื้อแล้วให้นั่งที่เคาร์เตอร์บาร์เล็ก ๆ ร่างหนาย่อตัวลงคุกเข่าจับมือน้อย ๆ ของเด็กหญิง

“เล็บยาวแล้วลุงตัดให้นะ” เขาบอกกับเด็กน้อยที่ก้มมองเล็บของตัวเอง

“ยังไม่ยาวนะคะ ปกติแม่จะตัดให้อยู่แล้ว”

“นี่ไงยาวมานิดหน่อย ลุงตัดให้นะ” เขาพยายามชี้เล็บที่ยาวออกมาเพียงเล็กน้อยแล้วก้มหน้าก้มตาตัดเล็บทั้งสิบอย่างตั้งใจกลัวจะตัดเข้าเนื้อ เมลินดานั่งตาแป๋วมองลุงธรค่อย ๆ ตัดเล็บแล้วเก็บเศษเล็บเข้าในถุงใส พอตัดเล็บเสร็จเขาก็พาเมลินดาไปที่หน้าห้องฉุกเฉินชวนกันนั่งคุยเรื่องการวาดภาพเพื่อให้เด็กลืมและไม่บอกแม่ว่าเขาตัดเล็บให้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel